บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ หรือบัตรคนจน

บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ หรือบัตรคนจน ตรวจสอบคุณสมบัติ ก่อนลงทะเบียนใหม่

รัฐเตรียมเปิด รับสมัครบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ หรือ ลงทะเบียนบัตรคนจนรอบใหม่นั่นเอง เชื่อมั่นว่าต้องมีหลายคนที่ทั้งรัก และทั้งเกลียด ซึ่งกำลังจะเปิดให้ลงทะเบียนรอบใหม่ในเร็ว ๆ นี้ แต่ผู้ที่มีบัตรคนจนอยู่แล้ว อาจต้องมีหนาว ๆ ร้อน ๆ กันบ้างล่ะ เนื่องจากทางภาครัฐมีการตรวจสอบคุณสมบัติย้อนหลังของผู้ที่ถือบัตรคนจนอย่างรัดกุมมากขึ้น จากเดิมเงื่อนไขในการลงทะเบียนบัตรคนจน คือ ต้องเป็นผู้ว่างงาน หรือมีรายได้ส่วนบุคคลไม่เกิน 100,000 บาทแต่ปี แต่ในการลงทะเบียนใหม่รอบนี้นั้น จะพิจารณาจากรายได้รวมทั้งครอบครัว หารด้วยจำนวนสมาชิกทั้งหมดในครอบครัว โดยต้องไม่เกิน 100,000 บาทต่อปี ในส่วนของรายละเอียดนั้น จะมีอะไรบ้างมาดูกัน

เปิดรับสมัครบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ รอบใหม่ พร้อมตรวจสอบคุณสมบัติ เป็นอย่างไร

  • ลงทะเบียนบัตรคนจนรอบใหม่

โดยจะเปิด รับสมัครบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ในช่วง ม.ค. – ก.พ. 2563 ซึ่งการลงทะเบียนในครั้งใหม่นี้ จะถูกแบ่งออกเป็นสองส่วนคือ สำหรับผู้ที่ได้ลงทะเบียนไว้ก่อนหน้านี้ แต่จะต้องมาแสดงตนผ่านช่องทางที่กระทรวงการคลังกำหนดไว้ หรืออาจเป็นที่ธนาคารกรุงไทย หรือทางระบบออนไลน์ เพื่อได้ทำการตรวจสอบข้อมูล ส่วนรายใดที่ยังไม่เคยมีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐนั้น ในการ รับสมัครบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ รอบใหม่นี้ จะต้องนำรายได้ต่อครัวเรือน เพื่อมาใช้ในการประกอบพิจารณาด้วย ซึ่งนอกเหนือจากรายได้ส่วนบุคคล ที่จะต้องไม่เกิน 100,000 บาทต่อปี ทั้งนี้ยังรวมไปถึงเรื่องการครอบครองทรัพย์สิน ทั้งบ้าน รถยนต์ บัตรเครดิต และที่ดิน ส่วนในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐนั้น พื้นฐานคือ การได้รับเงินเพื่อซื้อสินค้าในร้านค้าธงฟ้าประชารัฐ ท่านละ 200 หรือ 300 บาทต่อเดือน โดยจะได้วงเงินรวมท่านละ 500 บาท เพราะในส่วนของการขึ้นรถเมล์ รถไฟฟ้า และรถไป ยังคงมีเช่นเดิม แต่ในส่วนที่จะพิจารณาให้สวัสดิการในบัตรเพิ่มเติมหรือไม่นั้น ต้องดูในส่วนของงบประมาณต่อไป

  • เกณฑ์ในการตัดสิน ผู้มีสิทธิ์ได้บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ออกมาระบุว่า จะมีการปรับเกณฑ์พิจารณาใหม่ เพื่อคัดแยกคนจนไม่จริงออกจากสิทธิ รับสมัครบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ โดยเบื้องต้น จะใช้วิธีการนำรายได้รวมทั้งครอบครัวมาร่วมประเมิณกับ รายได้ส่วนบุคคลที่กำหนดไว้ไม่เกิน 100,000 บาทต่อปี ตัวอย่างเช่น ครอบครัว มีทั้งหมด 4 ท่าน มีรายได้รวมทั้งครอบครัว 400,000 บาท แต่เมื่อหารเป็นรายหัวแล้ว จะมีรายได้ไม่เกิน 100,000 บาทต่อปี เมื่อเป็นอย่างนี้ ก็มีสิทธิ์ รับสมัครบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ โดยในปัจจุบันนี้นั้น กองทุนประชารัฐ ซึ่งรัฐบาลได้จัดตั้งขึ้นมา เพื่อใช้เป็นกองทุนใช้จ่ายในด้านสวัสดิการแต่ผู้มีรายได้น้อย โดยได้งบประมาณจะสำนักงบประมาณ 40,000 ล้านบาท ซึ่งสามารถใช้ได้จนเดือน ก.ย. 2563 สำหรับ สำหรับผู้ที่ถือ รับสมัครบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ไว้อยู่แล้ว มีจำนวนถึง 14.5 ล้านคน จะต้องทำการยืนยันตัวตนที่ธนาคารกรุงไทย แต่หากมีการตรวจพบว่า ไม่จนจริง จะต้องถูกคัดออก แต่หากคัดกรองได้มาก ก็จะเหลืองบประมาณที่สามารถจัดสรรสวัสดิการได้เพิ่มเติม แต่สำหรับผู้ที่ยังไม่มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ สามารถลงทะเบียนเพิ่มเติมได้เช่นกัน

  • วิธีคิดรายได้ เพื่อรับสมัครบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ

ตัวอย่างครอบครัว A มีจำนวนสมาชิกทั้งหมด 4 คน โดยผู้เป็นพ่อ สามารถหารายได้ 400,000 บาทต่อปี ส่วนสมาชิกท่านอื่น ๆ อีก 3 คน ไม่มีรายได้เลย ดังนั้น วิธีคิดคือ รายได้จากพ่อเป็นจำนวนเงิน 400,000 บาท นำมาหารด้วยจำนวนสมาชิกในครอบครัว 4 คน เท่ากับว่า โดยเฉลี่ยต่อหัวมีรายได้เท่ากับ 100,000 บาท เมื่อเป็นเช่นนี้ แสดงว่าครอบครัว A มีสิทธิ์ รับสมัครบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ แต่เรายังมีตัวอย่างครอบครัวที่ 2 ให้คุณได้ศึกษาคือ ครอบครัว B มีจำนวนสมาชิกในครอบครัว 4 คนเช่นเดียวกัน แต่ผู้เป็นพ่อมีรายได้ 200,000 บาทต่อปี แต่ยังมีลูกชาย ที่สามารถหารายได้ 300,000 บาทต่อปี วิธีคิดคือ รายได้ของทั้งพ่อ และลูกชาย รวมกันได้ 500,000 บาทต่อปี เมื่อนำมาหารด้วยจำนวนสมาชิกในครอบครัวคือ 4 คน เท่ากับเฉลี่ยต่อหัวคือ 125,000 บาท นั่นเท่ากับว่า ครอบครัว B ไม่มีสิทธิ์ในการ รับสมัครบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ได้ออกมาระบุว่า เกณฑ์ในการพิจารณารูปแบบใหม่นี้ จัดทำขึ้นเพื่อแก้ปัญหาผู้ที่ไม่มีรายได้ หรือมีรายได้ไม่ถึงเกณฑ์ที่กำหนด แต่เปลี่ยนเป็นกลับมามีฐานะดีขึ้น อาจได้มาจากที่ลูกหลานเติบโต สามารถทำงานมีรายได้ หรือบุคคลอื่น ๆ ในครอบครัว ที่แต่ก่อนยังไม่มีรายได้ แต่ในปัจจุบันกลับมีรายได้

สิทธิ์ในการใช้บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ มีอย่างไรบ้าง

  • สิทธิ์ใช้ชำระสินค้าอุปโภคบริโภค

สิทธิ์ในการใช้ชำระสินค้า และบริการผ่านเครื่องชำระเงินอิเล็กทรอนิกส์จากร้านธงฟ้าประชารัฐ และร้านอื่น ๆ ตามที่กระทรวงพาณิชย์ได้กำหนดไว้ โดยแบ่งออกเป็น 2 กลุ่มคือ กลุ่มที่มีรายได้ต่ำกว่า 30,000 บาทต่อปี ได้รับสิทธิ์วงเงินซื้อสินค้าอุปโภคบริโภค เป็นจำนวนเงิน 300 บาทต่อเดือน เช่น สินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็น สินค้าเพื่อการศึกษา หรือจะเป็นวัตถุดิบเพื่อการเกษตรกรรม ก็ได้เช่นกัน กลุ่มที่ 2 คือ กลุ่มที่มีรายได้สูงกว่า 30,000 บาทต่อปี ได้รับสิทธิ์วงเงินซื้อสินค้าอุปโภคบริโภค เป็นจำนวนเงิน 200 บาทต่อเดือน เช่น สินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็น สินค้าเพื่อการศึกษา และวัตถุดิบเพื่อการเกษตรกรรม จะเห็นได้ว่า บุคคลทั้งสองกลุ่มนี้ ที่ได้รับสิทธิ์วงเงินซื้อต่างกัน นั้นเป็นเพราะว่า ทางภาครัฐนำเกณฑ์รายได้มาเป็นตัวกำหนดในการรับสิทธิ์วงเงิน

  • สิทธิ์ใช้ชำระค่าเดินทาง

โดยรถโดยสารที่จะเข้าร่วมโครงการ รับสมัครบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ นั้น จะทำการติดตั้งอุปกรณ์ E-Ticket เพื่อใช้สำหรับในการคิดเงินค่าโดยสารจากบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ เพียงแค่นำบัตรไปแตะเบา ๆ ที่เครื่อง ก็สามารถจ่ายค่าโดยสารเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยหลังจากมีกระแสว่าบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ หรือที่รู้จักกันว่า “บัตรคนจน” เชื่อว่าหลายท่านอาจยังคงสับสนกับขั้นตอนการใช้สิทธิ์ในการชำระค่าเดินทาง ว่าสามารถใช้สิทธิ์ได้อย่างไรบ้าง โดยสิทธิ์ในการใช้ชำระค่าเดินทางนั้น ทั้ง 2 กลุ่ม จะได้รับสิทธิ์ที่เท่ากัน (กลุ่มที่มีรายได้ต่ำกว่า 30,000 บาทต่อปี และกลุ่มที่มีรายได้สูงกว่า 30,000 บาทต่อปี) ดังนี้คือ ค่ารถเมล์ และรถไฟฟ้า ได้รับ 500 บาทต่อเดือน ค่ารถโดยสาร บขส. ได้รับ 500 บาทต่อเดือน และค่ารถไฟ 500 บาทต่อเดือนเช่นเดียวกัน

คำถามที่พบบ่อย

หากใครที่ยังมีคำถามว่า สำหรับวงเงินที่เหลือในแต่ละเดือนนั้น สามารถสะสมใช้ในเดือนถัดไปได้หรือไม่นั้น และสามารถถอนวงเงินออกจากบัตรเป็นเงินสดได้หรือไม่ เราบอกคุณได้ตรงนี้เลยว่าไม่ครับ และในกรณีที่ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐที่มีวงเงินเหลืออยู่ในกระเป๋าอิเล็กทรอนิกส์ ทำบัตรหาย คุณสามารถแจ้งอายัดบัตรได้ที่ Call Center ที่ธนาคารกรุงไทย หมายเลข 02-111-1111 ตลอดเวลา 24 ชม. เพื่อทำการระงับการใช้วงเงิน หรือกรณีที่ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ทำบัตรชำรุด ผู้มีสิทธิสามารถดำเนินการขอเปลี่ยนบัตรใหม่ได้ที่ ธนาคากรุงไทย ทุกสาขา แต่ผู้มีสิทธิต้องเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายนั้นเอง

รับสมัครบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ

สามารถมอบอำนาจให้บุคคอื่นไปรับแทนได้หรือไม่ สามารถมอบอำนาจให้ผู้อื่นไปรับแทนได้ โดยจะต้องมีหนังสือมอบอำนาจ พร้อมด้วยสำเนาบัตรประชาชนของผู้มอบอำนาจ และผู้รับมอบอำนาจ หากพบว่าข้อมูลบนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ไม่ตรงกับข้อมูลบนบัตรประชาชน เช่น ชื่อ นามสกุล รูป หรือวันเดือนปีเกิด ต้องทำอย่างไร แนะนำว่า ผู้มีสิทธิ์สามารถแจ้งขอออกบัตรใหม่ได้ที่ธนาคารกรุงไทยทุกสาขาเช่นเดียวกัน และในการรับบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ หากส่วนท้ายของใบลงทะเบียนหาย คุณสามารถนำบัตรประชาชนมาแสดงตน เพื่อขอรับบัตรสวัสดิการแทนได้เช่นกัน สำหรับคำถามที่ว่า บัตรสวัสดิการแห่งรัฐสามารถนำไปใช้ที่ไหนได้บ้าง บัตรสามารถนำไปใช้ได้ที่หน่วยงานต่าง ๆ ที่รองรับการใช้สิทธิ ดังนี้ ร้านธงฟ้าประชารัฐ เครื่องแตะบัตรชำระเงินบนรถประจำทาง จุดจำหน่ายบัตรโดยสารรถ บขส. จุดจำหน่ายบัตรโดยสารรถไฟทุกสถานี สุดท้ายเราเราหวังว่า ข้อมูลที่เรานำมาให้คุณได้ศึกษากันในวันนี้ คงเป็นประโยชน์กับคุณ ไม่มากก็น้อย สามารถติดตามบทความเพิ่มเติมได้ ที่นี่..

 

More To Explore

GPS Tracking คือ