เมื่อถึงทางตัน แหล่งเงินกู้ยามฉุกเฉิน ช่วยคุณได้

หากในตอนนี้คุณกำลังประสบปัญหา ต้องใช่เงินแบบเร่งด่วน ไม่ว่าจะเป็นตัวคุณเอง หรือจะเป็นคนในครอบครัว อาจเจ็บป่วย ถึงขึ้นต้องเข้าโรงพยาบาล หรืออาจเกิดภัยธรรมชาติ ที่ต้องใช้เงินซ่อมบ้าน ซ่อมรถ หรือแม้กระทั่งตกงานขาดรายได้ ซึ่งหากคุณต้องประสบกับปัญหาเหล่านี้แล้วนั้น เงินออมที่มีเก็บไว้ไม่เพียงพอ อาจมีความจำเป็นต้องกู้ยืมเงิน เงินกู้ เพื่อมาใช้จ่าย ซึ่งในหลาย ๆ คนอาจนึกถึงไปที่เงินกู้นอกระบบ เนื่องจากว่า สามารถหยิบยื่นได้ง่าย แต่คุณอย่าลืมว่า เงินกู้นอกระบบนั้น มีดอกเบี้ยที่สูงมาก ในบางแห่งอาจสูงถึง 20% ต่อเดือน หรืออาจเป็น 240% ต่อปี ก็เป็นได้เช่นเดียวกัน ดังนั้นหากคุณจำเป็นต้องใช้เงินกู้ฉุกเฉินแล้วนั้น เราอยากแนะนำให้คุณทำการกู้เป็นเงินในระบบ ดังนี้

หากเราไม่มีที่พึ่ง เงินกู้ ฉุกเฉินช่วยคุณได้

  • บัตรเครดิต (Credit Card)

เป็นบัตรที่ช่วยในการจับจ่ายใช้สอยของคุณ โดยที่คุณไม่ต้องพกเงินสดเป็นจำนวนมาก แต่เนื่องจากคุณยังไม่ต้องจ่ายเงินสดออกไปก่อน แต่ต้องชำระเงินในภายหลัง จึงถือเป็นแหล่งเงินยามฉุกเฉินได้อีกหนึ่งทาง โดยหากคุณมีความจำเป็นต้องซื้อสินค้า หรือบริการใด ๆ เช่น การซื้ออาหาร เสื้อผ้า หรือสิ่งของที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิตประจำวัน หรืออาจเป็นเรื่องที่ต้องรักษาตัวในโรงพยาบาล แต่เงินออมในขณะนั้นไม่เพียงพอ และหากร้านค้า หรือผู้ประกอบการนั้น ๆ รับบัตรเครดิต คุณสามารถจ่ายชำระค่าสินค้า หรือบริการด้วยบัตรเครดิต หรือ เงินกู้ ในระบบก่อนได้เช่นกัน แต่ถ้าคุณสามารถชำระค่าสินค้า หรือบริการภายในวันที่ครบกำหนดชำระเงิน ก็จะไม่ต้องเสียดอกเบี้ย เงินกู้ ซึ่งโดยทั่วไปนั้น จะมีระยะเวลาปลอดดอกเบี้ย เงินกู้ ประมาณ 45 – 55 วัน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสถานบัน เงินกู้ ของผู้ออกบัตรและนอกจากนี้ บัตรเครดิต ยังมีคุณสมบัติที่นอกนอกจากการเป็นแหล่ง เงินกู้ ยามฉุกเฉินแล้วนั้น

อีกข้อหนึ่งคือ คุณสามารถกดเงินสดจากบัตรเครดิตนี้ได้ แต่ค่าธรรมเนียมในการกดเงินสดจะอยู่ที่ 3% จากยอดเงินที่กด ดังนั้นเราจึงอยากแนะนำว่า หากคุณมีความจำเป็นต้องกดเงินสด ควรใช้บัตร ที่เป็นบัตรกดเงินสด เงินกู้ เนื่องจากไม่มีค่าธรรมเนียมในการกด เงินกู้ สำหรับอัตราดอกเบี้ยบัตรเครดิตจากการค้างชำระ รวมถึงการกดเงินสด อยู่ที่ประมาณ 18% ต่อปี

  • บัตรกดเงินสด (Emergency Cash Advance)

เป็นบัตรที่ให้วงเงินกู้ ใช้สำหรับกดเงินสดเท่านั้น บัตรกดเงินสดนี้ มีข้อดีคือ

กรณีที่คุณมีความจำเป็นต้องใช้เงินด่วน คุณสามารถเบิกถอนออกมาใช้ได้อย่าง่าย ได้ที่ตู้เอทีเอ็มของสถาบันการเงินผู้ออกบัตร โดยไม่มีเงินค่าธรรมเนียมในการกดเงินสดใด ๆ ทั้งสิ้น สำหรับในเรื่องของอัตราดอกเบี้ยของบัตรกดเงินสด จะอยู่ที่ 20 – 27% ต่อปี ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสถาบันการเงินที่คุณทำการเปิดบัตรอีกด้วยเช่นกัน โดยที่คุณสามารถจ่ายคืนเป็นเงินขั้นต่ำ 5% ของยอดใช้จ่าย ทั้งหมด แต่ทั้งนี้ ดอกเบี้ยจะเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อมีการกดถอนเงินออกมาใช้จ่าย แต่ถ้ายังไม่มีการกดเงินใด ๆ ออกมา จะยังไม่มีดอกเบี้ยเกิดขึ้น รวมไปถึงเรื่องค่าธรรมเนียมด้วย จะยังไม่มีเกิดขึ้นหากยังไม่มีการถอน เงินกู้ ออกมาใช้

ดังนั้นในการทำบัตรกดเงินสด ถือเป็นตัวเลือกอีกทางหนึ่ง ที่สามารถช่วยบรรเทาความเดือดร้อนในยามที่คุณลำบาก ต้องการความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน แต่บัตรกดเงินสดจะมีข้อเสียอยู่อย่างหนึ่งคือ มีอัตราดอกเบี้ยที่สูงสุดในหมู่สินเชื่อส่วนบุคคลทั้งหมด อีกทั้งยังคิดดอกเบี้ยเป็นรายวันอีกด้วย นั่นเท่ากับว่า แม้คุณจะกดเงินสด เงินกู้ ออกมาใช้เพียงแค่วันเดียว และชำระเงินเต็มจำนวน คุณก็ยังต้องเสียดอกเบี้ยอยู่ดี

  • พิโกไฟแนนซ์ (Pico Finance)

ซึ่งความหมายจริง ๆ ของ พิโกไฟแนนซ์ คือ สินเชื่ออเนกประสงค์ ที่ให้วงเงินกู้ไม่เกิน 50,000 บาท เป็นสินเชื่อระดับรายย่อย โดยผู้ทำพิโกไฟแนนซ์นั้น สามารถปล่อยสินเชื่อให้แก่บุคคคที่มีทะเบียนบ้าน ที่อยู่อาศัย หรือที่ทำงาน ภายในจังหวัดเดียวกับที่สำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ โดยมีกระทรวงการคลังสำนักงานเศรษฐกิจการคลังเป็นผู้กำกับดูแล ซึ่งพิโกไฟแนนซ์ เป็นส่วนหนึ่งของโครงการแก้ปัญหานี้นอกระบบ โดยที่ผู้ประกอบธุรกิจไฟแนนซ์จะเรียกเก็บดอกเบี้ย ค่าปรับ ค่าบริการ รวมไปถึงค่าธรรมเนียมได้ไม่เกิน 36% ต่อปี แม้เบื้องต้นจะได้วงเงินกู้ไม่เกิน 50,000 บาท แต่ก็ยังนับเป็นจำนวน เงินกู้ ที่มากพอ ที่จะช่วยคุณในยามที่คุณต้องการใช้เงินฉุกเฉินได้เช่นกัน

แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น การแก้ปัญหาหนี้จะถูกแก้ไขเป็นอย่างดี หากว่าคุณวางแผนการเงินเป็นอย่างดี หรือมีวินัยในการเก็บเงินได้ดี เช่น ออมเงินในสินทรัพย์ที่มีสภาพคล่องสูง บัญชีเงินฝากออมทรัพย์ เงินฝากประจำเผื่อฉุกเฉิน หรือกองทุนรวมตราสารหนี้ระยะสั้น ที่สามารถทำการถอนได้ทุกวัน โดยเก็บไว้ประมาณ 6 เท่าของค่าใช้จ่ายต่อเดือน เพราะหากเกิดเหตุการณ์ที่ต้องใช้เงินอย่างเร่งเด่น คุณจะได้นำเงินออมส่วนนี้ออกมาใช้ โดยไม่ต้องใช้ เงินกู้

ใช้บัตรเครดิต และบัตรกดสดอย่างไร ให้เกิดประโยชน์

  • ใช้บัตรเครดิตให้เกิดประโยชน์

ในการเลือกบัตรเครดิตให้เกิดประโยชน์นั้น ต้องดูจากสถานการณ์เป็นหลัก ไม่ใช่จ่ายปุ๊บรูดปั๊บ โดยไม่เลือกบัตรเครดิตให้ถูกใบ เพราะว่าในบัตรเครดิตแต่ละใบนั้น มีสิทธิพิเศษที่ไม่เหมือนกัน แต่สามารถนำมามาใช้ในสถานการณ์ที่แตกต่างกันออกไป เช่น บางบัตรเครดิตผ่อนเครื่องใช้ไฟฟ้าได้ 0% หรือในบางบัตรได้เงินคืนเมื่อคุณเติมน้ำมัน เป็นต้น

การใช้บัตรเครดิต เงินกู้ ให้ได้เต็มประสิทธิภาพนั้นคือ การจ่ายเงินเต็มจำนวน เงินกู้ ในทุก ๆ รอบบิล เพราะว่าคุณจะได้ไม่ต้องเสียดอกเบี้ยเลย สักบาทเดียว แต่วิธีนี้คุณต้องวินัยในตนเอง โดยการหักห้ามใจ เพราะเมื่อใดที่คุณต้องผ่อนชำระบัตรเครดิต เงินกู้ เมื่อนั้นคุณจะเสียดอกเบี้ยในอัตราที่สูงมาก และถ้าหากคุณชำระบิลช้าเกิดกำหนดแล้วนั้น คุณจะต้องเสียค่าธรรมเนียมการชำระล่าช้า และในการมีบัตรเครดิต เงินกู้ หลาย ๆ ใบ จริงอยู่ว่าอาจช่วยเพิ่มวงเงินในการใช้จ่ายให้กับคุณ แต่ในทางกลับกัน ก็ยังสามารถเพิ่มจำนวนหนี้สินให้กับคุณด้วยเช่นกัน เพราะโดยปรกติแล้วนั้น วงเงินบัตรเครดิตในแต่ละใบนั้น คุณจะได้รับวงเงินที่มากกว่าเงินเดือนคุณอยู่แล้ว และนั่นจะทำให้คุณไม่สามารถชำระบิลเต็มจำนวนได้

  • ใช้บัตรกดเงินสดให้เกิดประโยชน์

บัตรกดเงินสด นอกจากจะกดเงินสด เงินกู้ ได้แล้วนั้น คุณยังสามารถนำไปผ่อนชำระสินค้าในอัตราดอกเบี้ยต่ำ 0% ได้เช่นกัน เมื่อซื้อสินค้าในห้างสรรพสินค้า หรือร้านพันธมิตรของสถานบันการเงินเจ้าของบัตร ด้วยการผ่อน 0% นี้ ถือเป็นการเพิ่มสภาพคล่องเงินสดในกระเป๋าคุณ ในแต่ละเดือนได้เช่นกัน โดยเฉพาะหากเดือนไหนคุณมีความจำเป็นต้องซื้อของชิ้นใหญ่ เช่น หากคุณจะซื้อเครื่องซักผ้าด้วยเงินสด 10,000 บาท คุณสามารถใช้บัตรกดเงินสด เลือกผ่อน 0% 10 เดือน นั่นหมายความว่า อัตราในการผ่อนชำระคือ เดือนละ 1,000 บาท เป็นระยะเวลา 10 เดือน จึงทำให้คุณลดภาระจ่ายเงินก้อนโตออกไปได้

ด้วยโปรโมชั่นดึงดูดใจนี้ จึงทำให้คุณซื้อของได้ง่ายขึ้น แต่เมื่อเป็นดังนี้แล้วนั้น คุณจำเป็นต้องมีวินัยเป็นอย่างสูงในการเลือกซื้อของ โดยต้องเตือนตัวเองอยู่เสมอว่า คุณจะซื้อแต่ของที่จำเป็นเท่านั้น อย่าตามใจตัวเองโดยการซื้อของเงินผ่อน เงินกู้ ทีละหลาย ๆ รายการพร้อมกัน ต้องคำนึงถึงความสามารถในการชำระหนี้ในแต่ละเดือนของคุณด้วย แม้ว่าคุณจะมีสิทธิ์ผ่อนชำระ เงินกู้ ด้วยอัตราดอกเบี้ย 0% แต่คุณยังคงต้องเสี่ยงที่ต้องรับภาระดอกเบี้ยที่สูง หากมีการผิดนัดชำระ

สุดท้ายนี้ หากคุณกำลังพิจารณาสมัครบัตรกดเงินสด และบัตรเครดิต สิ่งที่คุณต้องให้ความสำคัญมากที่สุดคือ อัตราดอกเบี้ย แต่ทั้งนี้ทั้ง แม้ในแต่ละสถาบันการเงิน จะมีอัตราดอกเบี้ยแตกต่างกัน แต่คุณต้องเลือกความมั่นคงของธนาคารนั้น ๆ ด้วย และนอกจากนั้นแล้ว ส่วนประกอบอื่น ๆ ในการพิจารณานั้น เช่น เรื่องการบริการ ช่วงเวลาในการอนุมัติ ช่องทางกดเงินสดสะดวกไหม เช่น ผ่าน ATM ไม่มีค่าธรรมเนียมแรกเข้า และรายปี ทั้งนี้ยังรวมไปถึงต้องเลือกสถาบันการเงินที่มีเครือข่ายมากอีกด้วย สามารถติดตามบทความเพิ่มเติมได้ ที่นี่..

 

More To Explore

GPS Tracking คือ