20 อันดับบัตรเครดิตเติมน้ำมันของคนมีรถที่มาพร้อมข้อดีและข้อเสีย

การมี บัตรเครดิตเติมน้ำมัน นั้นเป็นสิ่งที่ทำให้หลายคนประหยัดเงินในกระเป๋าไปเล็กน้อยหรืออาจจะทำให้หลายคนได้รับสิทธิประโยชน์จากการเติมน้ำมันได้ วันนี้เราจึงมานำเสนอบัตรเครดิตที่ให้สิทธิประโยชน์แก่เจ้าของบัตรที่ต้องเติมน้ำมันโดยเฉพาะ ถ้าพร้อมแล้วเรามาดูกันเลยว่าจะมีบัตรใบไหนที่น่าเป็นเจ้าของกันบ้าง

1. บัตรอินฟินิท ธนาคารกรุงเทพ

บัตรนี้มีข้อดีคือทำให้คุณสามารถได้รับเงินคือ 10% โดยเติมน้ำมันที่สถานีบริการน้ำมัน บางจาก. คาลเท็กซ์และเอสโซ่ ยอดใช้จ่ายต่อเซลล์สลิป ขั้นต่ำ 800 บาทต่อเซลล์สลิป ข้อจำกัดเงินคืนสูงสุดต่อรอบบิล จำกัดจำนวนรายการไม่เกิน 6 รายการ ต่อ เดือนต่อบัตร โดยจำนวนเงินคืนรวมสูงสุดที่คุณได้จะไม่เกิน 480 บาทต่อรอบบัญชีบัตร ซึ่งมีข้อเสียคือ หากคุณไม่ได้เติมน้ำมันกับสถานีเติมน้ำมันที่กำหนดก็ทำให้เสียสิทธิ์ไปนั่นเอง

2. บัตรเครดิตมาสเตอร์การ์ด ไทเทเนียม กสิกรไทย

สำหรับคนที่ใช้บัตรนี้ขอบอกเลยว่าไม่เพียงแค่คุณจะได้รับเงินคืน 1% จากการเติมน้ำมันที่ทุกสถานีบริการน้ำมันที่ร่วมรายการแล้ว ยังไม่มีขั้นต่ำในการเติมน้ำมันต่อเซลล์สลิปอีกด้วย แต่ด้วยข้อจำกัดที่ไม่เยอะก็ทำให้มีข้อเสียคือการจำกัดเงินคืนสูงสุดไม่เกิน 500 บาท ต่อ รอบบัญชี ซึ่งถือว่าเป็นจำนวนเงินที่ไม่ได้มากสักเท่าไหร่หากเทียบกับ บัตรเครดิตเติมน้ำมัน ตัวอื่น ๆ

3. บัตรเครดิตซิตี้ แมคโคร แพลตตินั่ม รีวอร์ด

คนที่ถือบัตรใบนี้จะได้รับเงินคืนจากการเติมน้ำมันเพียงแค่ 1% เหมือนบัตร 2 อันดับที่กล่าวมา เมื่อคุณเติมน้ำมันครบทุก 800 บาทต่อเซลล์สลิป แต่ไม่เกิน 1,600 บาทต่อเซลล์สลิปที่ปั๊มเชลล์ คุณจะได้รับเงินคืนสูงสุด 4,800 บาทต่อเดือน ซึ่งถือว่าเป็นข้อดีของการได้รับเงินคืนสำหรับการเติมน้ำมันที่ไม่น้อยเลยทีเดียว แต่ข้อเสียก็อยู่ตรงที่ว่าคุณจะต้องเติมน้ำมันในแต่ละครั้งในจำนวนเงินที่มากหรือต้องเต็มถังทุกครั้งเพื่อให้ได้เงินคืนนั่นเอง

4. บัตรเครดิตทีเอ็มบี โซ สมาร์ท

หากคุณกำลังถือบัตรใบนี้อยู่ก็ถือว่าเป็นบัตรที่ช่วยให้คุณได้รับเงินคืนอยู่ไม่น้อยเลยล่ะ โดยมีข้อดีคือคุณจะได้รับเงินคืน 1% ในการเติมน้ำมันกับทุกสถานีบริการน้ำมันที่ร่วมรายการ ส่วนยอดการใช้จ่ายผ่านบัตรนั้นจะต้องเป็นจำนวนเงิน 100 บาทขึ้นไป สูงสุดอยู่ที่ 2,000 บาทต่อบัตรต่อรอบบัญชี ซึ่งทางธนาคารมีการจำกัดเงินคืนสูงสุดไม่เกิน 2,000 บาทต่อรอบบัญชี แม้ว่าจะดูไม่มีเงื่อนไขเยอะ แต่ก็อาจมีข้อเสียเป็นการจำกัดเงื่อนไขด้านอื่น ๆ ของการใช้บัตรเครดิตตัวนี้

5. บัตรเครดิตเทสโก้ โลตัส วีซ่า แพลทินัม

คุณสามารถได้รับเงินคืนสูงสุดที่ 3% ส่วนสถานีเติมน้ำมันนั้นสามารถเติมได้ที่เอสโซ่เท่านั้น ซึ่งจะต้องเติมน้ำมันสูงสุดไม่เกิน 1,000 บาทต่อเซลล์สลิปและมีข้อเสียอีกข้อคือไม่มีการจำกัดการเติมน้ำมันไม่เกิน 6 ครั้งต่อรอบบัญชี ทำให้คนที่เติมน้ำมันหลายรอบในแต่ละเดือนได้เงินคืนน้อย

6. บัตรเครดิตเทสโก้ โลตัส วีซ่า

อีกหนึ่งบัตรของเทสโก้โลตัสที่ให้เงินคืนมาถึง 2% โดยมีเงื่อนไขแบบเดียวกับบัตรอันดับที่ 5 โดยคุณจะต้องเติมน้ำมันที่สถานีเติมน้ำมันนั้นสามารถเติมได้ที่เอสโซ่เท่านั้น ซึ่งจะต้องเติมน้ำมันสูงสุดไม่เกิน 1,000 บาทต่อเซลล์สลิปและมีข้อเสียอีกข้อคือไม่มีการจำกัดการเติมน้ำมันไม่เกิน 6 ครั้งต่อรอบบัญชี ทำให้คนที่เติมน้ำมันหลายรอบในแต่ละเดือนได้เงินคืนน้อยและน้อยกว่าบัตรอันดับที่ 5 อีกด้วย

7. บัตรเครดิตไทยพาณิชย์ SCB M Legend Visa Infinite

ข้อดีของการถือบัตรตัวนี้ก็คือคุณสามารถได้รับเงินคืนสูงสุดที่ 3% เมื่อเติมน้ำมันกับปั๊มเชลล์ ครบทุก 800 บาทต่อเซลล์สลิป ซึ่งทางธนาคารก็มีการจำกัดยอดการใช้จ่ายในการคำนวณเครดิตเงินคืนสูงสุดไม่เกิน 1,600 บาทต่อเซลล์สลิป หรือ 4,800 บาทต่อรอบบัญชีต่อท่าน แม้เงินคืนที่ได้จะเยอะแต่ก็มีข้อเสียอยู่ตรงที่ว่าคนใช้บัตรใบนี้จะต้องเติมน้ำมันในปริมาณที่มากเช่นเดียวกัน

8. บัตรเครดิตไทยพาณิชย์ SCB M Luxe Visa Signature

บัตรเครดิตใบนี้มีเงื่อนไขในการรับเงินคืนสำหรับการเติมน้ำมันเช่นเดียวกันบัตรเครดิตอันดับที่ 7 โดยคุณสามารถได้รับเงินคืนสูงสุดที่ 3% เมื่อเติมน้ำมันกับปั๊มเชลล์ ครบทุก 800 บาทต่อเซลล์สลิป ซึ่งทางธนาคารก็มีการจำกัดยอดการใช้จ่ายในการคำนวณเครดิตเงินคืนสูงสุดไม่เกิน 1,600 บาทต่อเซลล์สลิป หรือ 4,800 บาทต่อรอบบัญชีต่อท่าน ส่วนข้อเสียของบัตรก็คืออาจได้รับสิทธิประโยชน์ในหมวดหมู่อื่น ๆ ในการใช้บัตรนั่นเอง

9. บัตรเครดิตไทยพาณิชย์ SCB M Live Visa Platinum

บัตรใบสุดท้ายของธนาคารไทยพาณิชย์ก็คือบัตรใบนี้นั่นเอง ซึ่งมีเงื่อนไขการรับเงินคืนสูงสุดอยู่ที่ 2% เมื่อเติมน้ำมันกับปั๊มเชลล์ ครบทุก 800 บาทต่อเซลล์สลิป ซึ่งทางธนาคารก็มีการจำกัดยอดการใช้จ่ายในการคำนวณเครดิตเงินคืนสูงสุดไม่เกิน 1,600 บาทต่อเซลล์สลิป หรือ 4,800 บาทต่อรอบบัญชีต่อท่าน ซึ่งมีข้อเสียเพียงอย่างเดียวคือเปอร์เซ็นการรับเงินคืนสูงสุดของบัตรน้อยกว่า บัตรเครดิตเติมน้ำมัน ใบอื่นในธนาคารเดียวกันไป 1% เท่านั้น

10. บัตรเครดิตธนชาต แบล็ค ไดมอนด์ มาสเตอร์การ์ด เวิลด์

ใครจะรู้ล่ะว่าบัตรเครดิตใบนี้ให้เงินคืนสูงสุดมากถึง 3.5% โดยคุณสามารถใช้บัตรกับทุกปั๊มทั่วโลก ซึ่งข้อดีไม่ได้มีเพียงเท่านี้เพราะไม่กำหนดขั้นต่ำในการเติมน้ำมัน อีกทั้งยอดรวมของเงินคืนในการใช้สำหรับการเติมน้ำมันนั้นจะไม่เกิน 5,000 บาทต่อรอบบัญชี แต่ก็อาจมีข้อเสียเป็นสิทธิประโยชน์ด้านอื่น ๆ ในการใช้บัตรจ่ายค่าสินค้าหรือบริการในหมวดอื่นๆ นั่นเอง

11. บัตรเครดิตธนชาต แบล็ค ไดมอนด์ วีซ่า ซิกเนเจอร์

อีกหนึ่งบัตรของธนาคารธนชาตที่ให้เงินคืนสูงสุดอยู่ที่ 2.5% โดยคุณสามารถใช้บัตรกับทุกปั๊มทั่วโลกเช่นเดียวกัน สำหรับข้อดีก็คือไม่กำหนดขั้นต่ำในการเติมน้ำมัน อีกทั้งยอดรวมของเงินคืนในการใช้สำหรับการเติมน้ำมันนั้นจะไม่เกิน 5,000 บาทต่อรอบบัญชี อาจมีข้อเสียเป็นสิทธิประโยชน์ด้านอื่น ๆ ในการใช้บัตรจ่ายค่าสินค้าหรือบริการในหมวดอื่นเช่นเดียวกับบัตรเครดิตในอันดับที่ 10

12. บัตรเครดิตธนชาต บลู ไดมอนด์ มาสเตอร์การ์ด เวิลด์

บัตรอีกหนึ่งใบที่ให้เงินคืนสูงสุดในการเติมน้ำมันมากถึง 3.5% โดยคุณสามารถใช้บัตรกับทุกปั๊มทั่วโลกแบบไม่มีข้อจำกัด ซึ่งเหมาะกับคนที่ขับรถในต่างประเทศด้วยเพราะไม่กำหนดขั้นต่ำในการเติมน้ำมัน อีกทั้งยอดรวมของเงินคืนในการใช้สำหรับการเติมน้ำมันนั้นจะไม่เกิน 5,000 บาทต่อรอบบัญชี แต่ก็อาจมีข้อเสียเป็นสิทธิประโยชน์ด้านอื่นๆ ในการใช้บัตรจ่ายค่าสินค้าหรือบริการในหมวดอื่นเช่นกัน

13. บัตรเครดิตธนชาต บลู ไดมอนด์ วีซ่า ซิกเนเจอร์

คนที่ถือบัตรใบนี้จะได้รับเงินคืนจากการเติมน้ำมันในปั๊มน้ำมันทั่วประเทศและทั่วโลกอยู่ที่ 2.5% ทางธนาคารไม่กำหนดขั้นต่ำในการเติมน้ำมัน โดยอดรวมของเงินคืนในการใช้สำหรับการเติมน้ำมันนั้นจะไม่เกิน 5,000 บาทต่อรอบบัญชี ซึ่งข้อเสียเป็นเงื่อนไขด้านอื่นสำหรับการใช้บัตรเพื่อการใช้จ่ายในหมวดอื่น

14. บัตรเครดิตธนชาต ไดมอนด์ มาสเตอร์การ์ด แพลทินัม

บัตรใบนี้เป็นบัตรที่ช่วยให้คุณได้เงินคืนที่ 3.5% คุณสามารถใช้บัตรกับทุกปั๊มน้ำมันทั่วประเทศไทยและทั่วโลกแบบไม่กำหนดขั้นต่ำในการเติมน้ำมัน อีกทั้งยอดรวมของเงินคืนในการใช้สำหรับการเติมน้ำมันนั้นจะไม่เกิน 5,000 บาทต่อรอบบัญชี แต่ก็อาจมีข้อเสียเป็นสิทธิประโยชน์ด้านอื่น ๆ ในการใช้บัตรจ่ายค่าสินค้าหรือบริการในหมวดอื่น

15. บัตรเครดิตธนชาต ไดมอนด์ วีซ่า แพลทินัม

บัตรใบสุดท้ายของธนาชาตที่ให้เงินคืนที่ 2.5% สำหรับการใช้บัตรใบนี้คุณสามารถใช้บัตรกับทุกปั๊มน้ำมันทั่วประเทศไทยและปั๊มน้ำมันทั่วโลก ข้อดีก็คือไม่กำหนดขั้นต่ำในการเติมน้ำมัน อีกทั้งยอดรวมของเงินคืนในการใช้สำหรับการเติมน้ำมันนั้นจะไม่เกิน 5,000 บาทต่อรอบบัญชี มีข้อเสียเป็นเงื่อนไขด้านอื่นสำหรับการใช้บัตรเพื่อการใช้จ่ายในหมวดอื่น

16. บัตรเครดิต KTC CASH BACK VISA PLATINUM

บัตรเครดิตเติมน้ำมัน ใบนี้ถือว่ามีความน่าสนใจมากเลยทีเดียว เพราะมีเปอร์เซ็นการคืนเงินอยู่ที่ 0.4% – 0.8% ในการเติมน้ำมันกับทุกสถานีที่ร่วมรายการ โดยไม่กำหนดยอดขั้นต่ำและยอดสูงสุด แต่มีเงื่อนไขในการได้รับเงินคืนเป็นแบบขั้นบันไดคือ สำหรับคนที่มียอดใช้จ่ายเติมน้ำมันน้อยกว่า 30,001 บาท สามารถรับเงินคืน 0.4% สำหรับคนที่มียอดใช้จ่ายเติมน้ำมัน 30,001 – 80,000 บาท สามารถรับเงินคืน 0.6%สำหรับคนที่มียอดใช้จ่ายเติมน้ำมันมากกว่า 80,000 บาท สามารถรับเงินคืน 0.8% ซึ่งมีข้อเสียคือเป็นบัตรที่ไม่เหมาะกับคนที่เติมน้ำมันน้อย ๆ

17. บัตรเครดิต KTC CASH BACK TITANIUM MASTERCARD

เช่นเดียวกับบัตรเครดิตอันดับที่ 16 โดยมีเปอร์เซ็นการคืนเงินอยู่ที่ 0.4% – 0.8% ในการเติมน้ำมันกับทุกสถานีที่ร่วมรายการ โดยไม่กำหนดยอดขั้นต่ำและยอดสูงสุด แต่มีเงื่อนไขในการได้รับเงินคืนเป็นแบบขั้นบันไดแบบบัตร KTC CASH BACK VISA PLATINUM ซึ่งมีข้อเสียคือเป็นบัตรที่ไม่เหมาะกับคนที่เติมน้ำมันน้อยๆ นั่นเอง

18. บัตรเครดิต KTC – BANGCHAK VISA PLATINUM

ข้อดีของบัตรใบนี้คือไม่มีการกำหนดขั้นต่ำในการเติมน้ำมันและได้รับเงินคืนสูงสุดที่ 1% แต่ก็มีข้อเสียตรงที่ว่าสถานที่สามารถเติมได้คือปั๊มน้ำมันบางจากเท่านั้น โดยยอดชำระในการเติมน้ำมันนั้นจะต้องไม่เกิน 3,000 บาทต่อเซลล์สลิป

19. บัตรเครดิต KTC – BANGCHAK TITANIUM MASTERCARD

เป็นบัตรที่มีเงื่อนไขเดียวกับ KTC – BANGCHAK VISA PLATINUM โดยไม่มีการกำหนดขั้นต่ำในการเติมน้ำมันและได้รับเงินคืนสูงสุดที่ 1% แต่ก็มีข้อเสียตรงที่ว่าสถานที่สามารถเติมได้คือปั๊มน้ำมันบางจากเท่านั้น โดยยอดชำระในการเติมน้ำมันนั้นจะต้องไม่เกิน 3,000 บาทต่อเซลส์สลิปนั่นเอง

20. บัตรเครดิต กรุงศรี แพลทินัม

บัตรสุดท้ายใบนี้ทำให้คุณได้รับเงินคืนสูงสุดที่ 1% เมื่อมีการเติมน้ำมันครบทุกๆ 800 บาทต่อเซลล์สลิปที่ปั๊มน้ำมันบางจากเท่านั้น ซึ่งมีข้อเสียตรงที่ว่ายอดการเติมน้ำมันสูงสุด 4,800 บาทต่อ 1 หมายเลขบัตรหลักต่อ 1 รอบบัญชีเท่านั้น ทำให้จำนวนเงินคืนที่จะได้รับเมื่อถูกคิดออกมาจะอยู่ในหลักร้อยเท่านั้น

หากคุณเป็นคนที่มีรถเป็นของตัวเองหรือต้องเติมน้ำมันอยู่แล้ว การมี บัตรเครดิตเติมน้ำมัน จะช่วยให้คุณได้สิทธิประโยชน์มากกว่าคนที่เติมน้ำมันด้วยเงินสดหรือบัตรเครดิตมากเลยทีเดียวล่ะ ทีนี้ก็ขึ้นอยู่กับคุณแล้วล่ะว่าจะเลือกบัตรใบไหนที่เข้ากับไลฟ์สไตล์และวิธีการเติมน้ำมันของคุณมากที่สุด สามารถติดตามบทความเพิ่มเติมได้ ที่นี่..

More To Explore

GPS Tracking คือ