คำถามที่พบบ่อย

More To Explore

Osaka
Iceland

บราซิลมีสถานที่ท่องเที่ยวหลายแห่งที่น่าสนใจอยู่ไม่น้อย เพราะไม่เพียงแค่การเปป็นเมืองที่มีอารยธรรมมาแต่โบราณแล้วยังมีวัฒนธรรมที่มีความเป็นเอกลักษณ์ให้คุณหลงใหล้อีกด้วยนะ เรามาดูกันดีกว่าว่าจะ เที่ยวบราซิล ต้องไปที่ไหนบ้าง?

 

รูปปั้นพระเยซู Christ the Redeemer

ประเดิมกันด้วยสถานที่ที่เป็นซิกเนเจอร์แห่งแรกของการไป เที่ยวบราซิล ด้วยสถานที่อันทรงเกียรติแห่งนี้ โดยรูปปั้นกระเยซู ซึ่งใช้เวลาสร้าง 9 ปี เมื่อคุณไปเยือนคุณจะเห็นว่าทุกคนในเมืองได้อยู่ในความคุ้มครองของพระองค์

 

เมืองเซา เปาโล Sao Paulo

คุณรู้หรือไม่ว่าสถานที่แห่งนี้เป็นเมืองใหญ่สุดของประเทศบราซิลและใหญ่เป็นอันดับ 5 ของโลกเลยทีเดียว โดยเป็นศูนย์รวมทางด้านเศรษฐกิจ ซึ่งเปรียบเหมือนหัวใจในการขับเคลื่อนทางการเงินของบราซิล หากคุณได้ไป เที่ยวบราซิล ต้องแวะที่นี่ให้ได้

 

มหาวิหารบราซิเลีย Cathedral of Brasília

ที่นี่เป็นโบสถ์ประจำเมือง ซึ่งมีรูปร่างแปลกตาและมีความโดดเด่นมาแต่ไกล สำหรับตัวโบสถ์เป็นคอนกรีตรูปทรงโค้งคว่ำ ยอดเป็นทรงคอขวดมียอดปลายแหลมเป็นแฉกคล้ายคบเพลิง ส่วนตัววิหารเป็นการนำเสาคอนกรีต 16 เสา มารวมกัน ใคร ๆ ก็ต่างยอมรับว่าที่นี่เป็นสถาปัตยกรรมทันสมัยที่สุดแห่งหนึ่งของโลก

 

ริโอ คาร์นิวัล Rio Carnival

เมื่อไปเที่ยวที่นี่จะทำให้คุณนั่งไม่ติดเก้าอี้แน่นอน เพราะมีแข่งขันการเต้นแซมบ้าแล้วมียังการเดินโชว์ขบวนพาเหรดที่ตกแต่งอย่างยิ่งใหญ่อลังการ มีนักท่องเที่ยวที่มาร่วมงานกว่า 5 ล้านคนต่อปี งานนี้สนุกสุดเหวี่ยงสมกับเป็นงานคาร์นิวัลที่ใหญ่ที่สุดในโลกแน่นอน

 

อุทยานแห่งชาติแลงคอยส์ มารานฮานส์ Lencois Maranhenses National Park

สถานที่แห่งนี้ถูกครอบคลุมพื้นที่กว่า 1,500 กิโลเมตร ซึ่งเป็นที่ตั้งของเนินทรายสีขาวกว้างใหญ่ที่เกิดจากการกัดกร่อนของลมและฝนทำให้มีลักษณะเป็นแอ่งและคลื่นสวยงาม มีเนินทรายขนาดใหญ่ถูกกัดเซาะเป็นพื้นที่เก็บน้ำจนกลายเป็นทะเลสาบสีมรกตที่เรียกว่าทะเลสาบคริสตัลนั่นเอง

 

สนามฟุตบอลมารากานัง Maracanã Football Stadium


สนามกีฬาแห่งชาติของบราซิลแห่งนี้ถือว่าเป็นหนึ่งในสนามฟุตบอลที่ใหญ่ที่สุดในโลก ถูกจัดอันดับที่ 23 ว่าใหญ่ที่สุด ถ้าคุณเป็นคอบอลหรือชอบเที่ยวสถานที่ที่เป็นที่สุดของโลกก็ต้องมาที่นี่ด้วยเหมือนกัน

 

โบนิโต Bonito

เมืองนี้มีป่าไม้ที่อุดมสมบูรณ์เต็มไปด้วยเขาหินปูนและป่าทุ่งหญ้าสะวันนาเขตร้อน ซึ่งแต่ละที่คือน้ำใสมากราวกับกระจกเลยก็ว่าได้ ที่นี่มีผู้คนอาศัยอยู่ไม่ถึง 2 หมื่นคน แต่มีชื่อเสียงไปทั่วโลก แล้วที่นี่ยังได้รับการสนับสนุนให้มีการท่องเที่ยวธรรมชาติเชิงอนุรักษ์อีกด้วย

 

ป่าอเมซอน Amazon Rainforest

ป่าอเมซอนเป็นป่าร้อนชื้นขนาดใหญ่ กินเนื้อที่กว้างถึง 2 ใน 5 ของทวีปอเมริกาใต้ โดยที่นี่ถูกแบ่งออกเป็น 2 ส่วนคือ ตอนเหนือที่เป็นป่าและตอนใต้เป็นแม่นํ้าอเมซอน ซึ่งมีต้นนํ้ามาจากเทือกเขาแอนดีสของเปรู แล้วทอดยาวเป็นระยะทางถึง 6,400 กิโลเมตร จรดมหาสมุทรแอตแลนติก

 

ป่าแพนทานัล Pantanal

การเดิน พายเรือ ขี่ม้าและการนั่งรถซาฟารีไปตามเส้นทางคือวิธีการท่องเที่ยวของที่นี่ คุณสามารถขึ้นไปที่หอดูสัตว์เพื่อชมความงามจากที่สูงได้ด้วย หากมองออกไปได้สุดลูกหูลูกตา คุณจะเห็นเห็นรังของนกกระสาขนาดใหญ่ ที่เป็นสัญลักษณ์ของป่าแพนทานัลแห่งนี้ได้

 

เกาะเฟอร์นันโด เดอ โนรอนญา Fernando de Noronha

เกาะนี้ตั้งอยู่ในมหาสมุทรแอตแลนติกอยู่ห่างจากชายฝั่งบราซิล 354 กิโลเมตร คุณรู้หรือไม่ว่าพื้นที่ถึง 70% แห่งนี้ได้รับการคุ้มครองและกำหนดให้เป็นมรดกโลกด้วย แล้วยังเปิดให้นักท่องเที่ยวสามารถเข้ามาเที่ยวได้แค่ 470 คนต่อวันเท่านั้น

 

น้ำตกอีกวาซู Iguazu Falls

ชื่อของน้ำตกแปลว่าน้ำที่ยิ่งใหญ่ ซึ่งก็มีความยิ่งใหญ่สมชื่อเพราะน้ำตกมีความยาวมากกว่า 4 กิโลเมตร สูง 269 ฟุต ที่นี่ได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลกทางธรรมชาติอีก ละอองน้ำที่ฟุ้งกระจายเสียงดังไปไกลกว่า 24 กิโลเมตรจะทำให้คุณตื่นเต้นสุด ๆ

 

ชายหาดโคปาคาบาน่า Copacabana

จุดเด่นของที่นี่คือหาดทรายเป็นทางโค้งยาวถึง 4 กิโลเมตร จากตามแนวหาดเรียงรายด้วยโรงแรมหรู มีร้านอาหารรวมถึงห้างสรรพสินค้ามาอำนวยความสะดวกให้กับคุณ ที่นี่เป็นเหมือนเป็นศูนย์รวมกิจกรรม ไม่ว่าจะเป็นการเล่นเซิร์ฟ ออกกำลังดายด้วยการปั่นจักรยาน วอลเลย์บอลชายหาด ยังมีฟุตบอลชายหาดให้ทำเยอะ

 

เมืองซัลวาดอร์ Salvador

ที่นี่เป็นเมืองแรกของละตินอเมริกาที่ถูกโปรตุเกสครอบครองจึงเต็มไปด้วยตึกที่มีแต่สีสันถือว่าเป็นเป็นสวรรค์แห่งการช็อปปิ้ง คุณสามารถเดินดูเครื่องประดับแฟชั่นใหม่ๆ แล้วเดินชิลซื้ออาหารอร่อยๆ แบบกินไปด้วยช็อปไปด้วยแบบสบายๆ

 

ยอดเขาชูการ์ โลฟ Sugarloaf Mountain

คนที่นี่เชื่อกันว่าชื่อ ชูการ์ โลฟ ถูกตั้งขึ้นตามรูปทรงของภูเขาที่ดูคล้ายกับก้อนน้ำตาล ส่วนใครที่ชอบปีนเขาจะต้องชอบที่นี่มาก ๆ อย่างแน่นอน เพราะด้วยการที่สถานที่แห่งนี้มีพื้นที่ในการปีนเขาที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ซึ่งมีมากกว่า 270 เส้นทาง ประกอบด้วยความยากง่ายต่างกันจึงเป็นสถานที่แดนสวรรค์ของนักปีนเขา

 

บันไดโมเสก Escadaria Selarón

 

ปิดท้ายกับบันไดแห่งสีสัน โดยปัจจุบันมีกระเบื้องและโมเสกชิ้นเล็ก ๆ นับแสนชิ้น จากกว่า 60 มีข้อความตรงบันไดว่า Brasil Eu Te Amo Selarón ที่แปลว่า บราซิลฉันรักคุณ ถ้า เที่ยวบราซิล แล้วก็ต้องมาเช็คอินที่นี่แล้วถ่ายรูปไปอวดเพื่อด้วยนะ

แล้วนี่ก็คือสถานที่ทั้ง 15 แห่ง ที่คุณต้องไปให้ได้เมื่อได้มีโอกาสตีตั๋วไป เที่ยวบราซิล เพราะแต่ละที่นั้นมีความเป็นเอกลักษณ์และมีไฮไลท์ที่แตกต่างกัน สำหรับโอกาสหน้าจะมีสถานที่ท่องเที่ยวที่ไหนที่น่าสนใจอย่าลืมติดตามกันนะ สามารถติดตามบทความเพิ่มเติมได้ ที่นี่..