Google Ad เป็นเครื่องมือที่ช่วยให้การตลาดในโลกของออนไลน์ ซึ่งในปัจจุบันได้สร้างผลลัพธ์ให้กับธุรกิจต่างๆได้อย่างมหาศาล เนื่องจากมีการแสดงผลใน website ที่ได้มีการ Search Engine รวมทั้งเครือข่ายที่เป็น partner กับ Google ทั้งในพื้นที่ปกหน้าและปกหลังทำให้การเข้าถึงของลูกค้าทำได้เร็วและเป็นจำนวนมาก แต่การได้รับความนิยมยังต้องขึ้นอยู่กับว่ามีเนื้อหาในโฆษณาที่ตรงตามเป้าหมายและจุดประสงค์หรือไม่ รวมทั้งต้องสามารถรองรับได้ทุกๆ Version ของคอมพิวเตอร์และsmartphone อีกด้วย เพื่อให้การใช้เป็นไปได้อย่างครอบคลุม Google Ads จึงได้ถูกออกแบบให้มีหลายประเภท เพื่อให้ตรงกับความต้องการของผู้ที่จะซื้อใช้อีกด้วย มาทำความรู้จักกันว่า ประเภทของ Google Ads นั้นมีอะไรบ้าง ในแต่ละประเภทมีประโยชน์อย่างไร
ประเภทของ Google Ads
Google Ads มีหลายประเภท เพื่อให้การเข้าถึงสื่อต่างๆได้อย่างครอบคลุมและทั่วถึง ผู้ใช้ Google Ads สามารถเลือกใช้ให้เหมาะกับธุรกิจและจุดประสงค์ของตนเองหรือจะใช้หลายๆประเภทควบคู่กันเลยก็ได้
- Search Ads เป็นรูปแบบของโฆษณาที่จะแสดงผลก็ต่อเมื่อ มีผู้ใช้ Google Search หา Keyword ได้ตรงกับ content โดยโฆษณาแบบนี้จะมีลักษณะเป็นแค่ตัวหนังสือที่เป็นพาดหัวและเนื้อหาที่อธิบายข้อมูลที่สำคัญของสินค้าและบริการเพียงสั้นๆเท่านั้น และเพื่อให้ได้อยู่ในลำดับต้นๆหรือหน้าแรกเพื่อให้การเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้ดี ก็จะต้องจ่ายเงินตามจำนวนการคลิกนั่นเอง
- Display Ads เป็นอีกหนึ่ง ประเภทของ Google Ads เป็นโฆษณาที่สามารถระบุเจาะจงถึงกลุ่มเป้าหมาย จากอายุ เพศ หรือความสนใจได้ มีลักษณะทั้ง เป็นตัวหนังสือธรรมดา banner ที่เป็นภาพนิ่ง ภาพเคลื่อนไหว มีหลากหลายขนาด ปรากฏตามwebsite Gmail YouTubeหรือ application ที่เป็น partner ของ Google
- App Ads เป็นโฆษณาที่อยู่ในรูปของ application ทั้ง iOS และ Android โดย application นั้นๆจะต้องเป็น Google พาร์ทเนอร์ด้วย ซึ่งผู้ที่จะเห็นโฆษณาประเภทนี้ได้ก็คือมี application นั้นอยู่ในโทรศัพท์ การปรากฏโฆษณาก็จะเป็นการนำbannerหรือวีดีโอโฆษณาไปปรากฏขณะใช้ application นั้นๆอยู่นั่นเอง เช่น appแต่งรูป appเกม เป็นต้น
- Video Ads เป็นโฆษณาที่เรามักพบเห็นได้มากใน YouTube มักปรากฏก่อนหรือคั่นขณะที่กำลังดูคลิป หรือจะปรากฏให้เห็นได้จากการ Search Keyword ของ YouTube อีกด้วย การใช้โฆษณาในลักษณะ Video Ads นี้สามารถกำหนดลักษณะของกลุ่มเป้าหมาย เลือกสถานที่ อายุ เพศหรือความสนใจของกลุ่มเป้าหมายได้เช่นกัน การจ่ายเงินจะจ่ายหลังจากมีการชมโฆษณาหรือมีคนคลิกไปที่โฆษณานั้นๆ
- Shopping Ads เป็นโฆษณาที่แสดงผลเป็นรายการสินค้า ซึ่งก็จะมีรูปภาพของสินค้า การบอกราคา เว็บไซต์ ค่าใช้จ่ายในการซื้อโฆษณาประเภทนี้ก็จะขึ้นอยู่กับจำนวนของผู้ที่เข้าคลิกชมเว็บไซต์หรือสั่งซื้อสินค้าเหมือนประเภทของ Google Ads ข้างต้น เช่นกัน
ประโยชน์ของ Google Ads มีอะไรบ้าง
1. เข้าถึงกลุ่มลูกค้าทุกที่ทุกเวลา
ไม่ว่าจะเป็นประเภทของ Google Ads แบบใด ก็ล้วนมีคุณประโยชน์ต่อผู้ใช้คล้ายๆกัน นั่นคือ สามารถลือกให้เข้ากับความสะดวก เข้ากับธุรกิจของตนเอง เข้าถึงกลุ่มของลูกค้าได้ครอบคลุมทุกพื้นที่ โดยในรายละเอียดยังสามารถระบุถึงบุคคลที่มีอายุ เพศ หรือความสนใจให้ตรงกับที่ผู้ใช้ Google ได้อย่างที่ต้องการ ซึ่งจะเป็นโอกาสที่จะช่วยให้สินค้าหรือบริการได้รับความสนใจจนสามารถจูงใจให้ลูกค้ามาซื้อหรือใช้บริการที่ลงโฆษณาได้เร็วและมากขึ้น
2. เข้าถึงสื่อต่างๆได้หลากหลายและทั่วถึง
ประเภทของ Google Ads สามารถเข้าถึง application และ website ที่มี Google ทั่วโลก เข้าถึงอุปกรณ์ Smartphoneคอมพิวเตอร์ รวมทั้งNotebook ทุกยี่ห้อ ทุกรุ่นที่มีในโลก
3. คุ้มค่าเพราะสามารถรู้ผล วัดความสำเร็จได้
เพราะมีการติดตั้ง Tracking เพื่อเป็นการวัดหรือควบคุมได้ตลอดเวลา เป็นการช่วยไม่ให้เสียเวลาในการทำช่วยให้มีการปรับเปลี่ยนแผนการตลาดได้ทันเวลาเสมอเมื่อพบว่าการทำโฆษณานั้นๆไม่ได้ผลที่พึงพอใจ
4. เลือกจ่ายค่าโฆษณาได้
สามารถควบคุมค่าใช้จ่ายได้ โดยเลือกได้ว่าจะจ่ายเงินเท่าใด จากข้อมูลจริงที่เป็นตัวเลข จากจำนวนกลุ่มเป้าหมายที่เข้าไปคลิก หรือเข้าชม website หรือการเห็นโฆษณา
การทำ Google Ads ให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีต้องทำอย่างไร
สิ่งสำคัญอันดับแรกๆควร เลือก Keyword ให้เหมาะที่สามารถระบุคุณสมบัติเฉพาะ ราคา หรือโปโมชันที่ตรงตามความต้องการของผู้ใช้ Google Ads รวมทั้งต้องกำหนดเป้าหมาย พร้อมๆไปกับการวางแผนกลยุทธ์ให้เห็นภาพรวมทั้งหมด เพื่อเป็นการช่วยให้เลือกประเภทของ Google Ads ได้อย่างมีประสิทธิภาพและตรงตามวัตถุประสงค์นั่นเอง หากเป็นการเพิ่มยอดขายก็ควรใช้โฆษณาประเภท Search Ads หรือ Display Ads เพื่อเป็นการเปลี่ยนกลุ่มเป้าหมายให้กลายมาเป็นลูกค้า หากต้องการเก็บฐานข้อมูลลูกค้า ก็ควรใช้แบบ Search Ads หรือ Display Ads และ Shopping Ads เพื่อยิงไปยังกลุ่มเป้าหมายให้คลิกเข้ามายังเว็บไซด์ หรือให้ผู้เข้าชมลงทะเบียนเพื่อตอบกลับ เป็นการเก็บข้อมูลลูกค้าไว้ หากจะทำให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้ง่ายขึ้นและสร้างความน่าเชื่อถือให้กับ Brand เพราะกลุ่มลูกค้ามีการ Search Engines ก็ควรมี website เป็นของตัวเองเพื่อเป็นการดึงให้กลุ่มเป้าหมายเข้ามาเยี่ยมชมสินค้าของเราได้ง่ายขึ้น
ประโยชน์ ประเภทของ Google Ads ในแต่ละประเภทมีมากมาย หากใส่ใจในรายละเอียดในแต่ละประเภท รวมทั้งมีการติดตามผลที่ดี อย่างสม่ำเสมอ มีการนำข้อมูลมาวิเคราะห์ถึงข้อดีและข้อเสีย มีการปรับข้อบกพร่อง ปรับแผนกลยุทธ์ ได้ทันท่วงที ก็จะยิ่งทำให้มีกลุ่มลูกค้าเกิดการซื้อหรือการใช้บริการมากขึ้น การใช้ ประเภทของ Google Ads ในแต่ละประเภทจึงจะเรียกว่าได้ผลลัพธ์ที่คุ้มค่า คุ้มราคาที่ต้องจ่ายไป