หลายต่อหลายคนคงจะรักรถของท่านมากยิ่งกว่าสิ่งใด ใครจะมาจับแตะต้องไม่ได้เลยเด็ดขาด แม้แต่รอยขีดข่วนเหมือนขนแมวก็ไม่ได้ ทำให้เจ้าของรถต้องคอยดูแลสีผิวของรถอยู่อย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้รถที่รักมีความสวยเงางามเหมือนใหม่อยู่ตลอดเวลา จึงจำเป็นบางครั้งจะต้องเข้ารับการบริการจากศูนย์คาร์แคร์เพื่อทำ การขัดสีรถ ลบรอยขีดข่วนและให้สีรถดูฉ่ำเงางามแลดูสวยตลอดเวลา แม้กระทั่งภายในรถยนต์ก็ต้องดูแลไม่แพ้ภายนอกรถเช่นกัน ซึ่งการดูแลผิวรถมีหลากหลายวิธีที่จะทำให้รถมีสีที่สวยใหม่เสมอ หากการเข้าใช้งานบริการที่คาร์แคร์ก็คงต้องมีค่าใช้จ่ายในราคาที่สูง แต่ถ้าสามารถทำเองได้ก็จะช่วยค่าใช้จ่ายลงมามากด้วยเช่นกัน จะคุ้มหรือไม่คุ้มก็ต้องมาลองดูวิธีที่จะนำเสนอต่อไปนี้
พิจารณารอยที่เกิดและวิธีแก้ไข
หากตรวจพบว่ารถที่รักเกิดรอยที่ไม่พึงประสงค์ ก็ต้องมาพิจารณาก่อนว่ารอยที่เกิดขึ้นทำให้เกิดแผลลึกขนาดไหน หากไม่ลึกจนกินเนื้อผิววัสดุของรถ ก็จะมีทางเลือก 2 ทางให้ได้ลองเพื่อที่จะได้รักษาผิวรถได้ถูกวิธีol>
- การขัดสีรถโดยใช้ฟองน้ำและควบคุมน้ำหนักด้วยมือผู้ขัด
- การขัดสีรถโดยใช้เครื่อง มี 2 ระบบ คือ DA และ RO แบบปรับรอบได้กับปรับรอบไม่ได้
การพิจารณา รอย ที่ ผิวรถ
การเกิดรอยที่พื้นผิวรถยนต์สามารถแยกได้เป็นชั้นดังนี้
- ชั้นสีรองพื้น เป็นชั้นสีที่ติดตัวถังรถมากที่สุด เพราะเป็นสีที่รองพื้นให้สี Main Body ยึดเกาะได้
- ชั้นสี Main Body คือ สีของตัวรถนั้น ๆ หรือบางเฉดสีอาจมีเติมเมทัลลิกเข้าไปในชั้นนี้อีกชั้นหนึ่ง
- ชั้นสีเคลือบใสเพื่อให้เกิดความเงางาม
- ชั้นเคลือบบนสุด เพื่อปกป้องริ้วรอยเล็ก ๆ น้อย ๆ และให้เกิดความสวยงามมากยิ่งขึ้น
เมื่อรถอันเป็นที่รักเกิดรอยขีดข่วนให้พิจารณาว่ามีรอยลึกมากหรือน้อย หากดูแล้วเป็นแค่รอยถลอกเพียงชั้นเคลือบบนสุดหรือชั้นเคลือบใส ก็สามารถดำเนิน การขัดสีรถ ได้ด้วยตัวท่านเอง โดยการเตรียมพื้นผิวด้วยการล้างรถให้สะอาด หากมีดินน้ำมันสำหรับขจัดคราบไคลที่ผิวรถใช้พร้อมกับตัว Cleaner จะช่วยในการขัดสีรอยเล็กน้อยได้ดีมาก แต่ถ้าไม่มีก็ให้ข้ามขั้นตอนไปลงน้ำยาขัดเคลือบสี (WAX) ได้เลยด้วยการใช้ฟองน้ำที่สะอาดป้ายเนื้อ WAX แล้วลงมือขัดให้วน ๆ เป็นรูปก้นหอยหรือมีเครื่องขัดแบบ DA ก็จะดีไม่น้อย เพราะทำให้แรงขัดมีความสม่ำเสมอและทำให้รอยที่ผิวรถดูจางลงหรือหายไป จากนั้นให้ลงตัว WAX ซ้ำอีกครั้งเพื่อทำการเคลือบผิวรถให้ดูเงางาม ซึ่งน้ำยาขัดเคลือบสี (WAX) จะต้องมีคุณภาพเป็นอย่างมาก เพราะหากใช้ของไม่ดีจากการขัดเคลือบสีอาจกลายเป็นทำสีรถให้เป็นรอยมากกว่าเดิมก็เป็นได้
รอยลึกถึงชั้นสีรองพื้นควรให้ช่างผู้มีประสบการณ์ช่วย
ในกรณีที่รถเป็นรอยลึกถึงชั้นสีรองพื้น เจ้าของรถคงไม่สามารถรักษาได้ด้วยตนเอง ต้องส่งต่อให้ศูนย์คาร์แคร์หรืออู่ซ่อมสีรถ ด้วยเหตุผลเพราะ
- เพื่อทำการซ่อมสีรถที่เป็นรอยเพราะด้วยเครื่องมือและประสบการณ์ที่มีสามารถที่จะทำให้สีรถของท่านกลับมาใหม่และเงางามเช่นเดิม
- เพราะ การขัดสีรถ ในขั้นตอนนี้มีความซับซ้อนมากกว่าแค่หาฟองน้ำมาขัด แต่หมายถึงการซ่อมสีรถให้กลับมาเหมือนเดิม เพราะหากไม่มีความชำนาญในการทำแล้วจะทำให้รอยที่เกิดเล็กน้อยอาจขยายวงใหญ่ได้
ส่วนเครื่องขัดสีรถที่แนะนำสำหรับ การขัดสีด้วยตัวเองก็จะเป็นแบบ DA (Dual Action) ซึ่งการทำงานจะเป็นแบบข้อเหวี่ยง มีทั้งปรับรอบได้และปรับไม่ได้ โดยหลักการทำงานจะหมุนวน ๆ เป็นรูปก้นหอย ส่ายไปมา ทำให้มือใหม่หัดใช้มีความสะดวกเรื่องการใช้งานที่ง่าย แต่หากเป็นเครื่องแบบ RO (Rotary) จะเหมาะกับมืออาชีพ เพราะการทำงานจะหมุนวนเป็นวงกลมเกิดการสะสมความร้อน ทำให้พื้นผิวรถเกิดรอยไหม้ได้ ซึ่งราคาที่หาซื้อก็จะมีตั้งแต่หลักหลายร้อยบาทไปจนถึงหลักหมื่นบาทได้
เพราะรถยนต์ คือทรัพย์สินที่มีราคาสูง บางครอบครัวกว่าจะเก็บเงินซื้อได้ต้องใช้ระยะเวลานาน อีกทั้งเมื่อซื้อมาแล้วนอกจากจะดูแลระบบเครื่องยนต์แล้ว ยังต้องดูแลพื้นผิวภายนอกให้ดูสวยงามอยู่เสมอเพราะการรักษาสภาพรถให้ดูดีทั้งภายในและภายนอกก็จะทำให้เจ้าของรถเกิดความภูมิใจ เมื่อรถที่ซื้อมาสามารถคงสภาพไว้ได้เหมือนใหม่ด้วย การขัดสีรถ เพื่อความคุ้มค่าในอนาคต หากต้องมีการขายต่อก็สามารถขายได้ในราคาดี จึงไม่แปลกใจเลยว่าทำไมธุรกิจคาร์แคร์จึงเกิดขึ้นมากในช่วงระยะเวลาเพียงแค่ไม่นานมานี้
ต่อไปนี้เมื่อรถยนต์ที่ท่านรักเกิดรอย ท่านเจ้าของรถสามารถพิจารณารอยที่พื้นผิวในขั้นต้นเองได้ ทำให้บางครั้งเมื่อเกิดรอยตื้นแค่ชั้นผิวภายนอกสุดก็ไม่จำเป็นต้องส่งรถเข้าศูนย์บริการขัดสี โดยเสียค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น รวมถึงเสียเวลาในการรอรถที่ส่งซ่อมสี เพียงแค่มีฟองน้ำเนื้อดีกับ WAX คุณภาพเยี่ยม ท่านก็จะสามารถขัดสีรถให้กลับมาเงาสวยงามและทำให้รถมีสภาพใหม่สวยอยู่เสมอ สามารถติดตามบทความเพิ่มเติมได้ ที่นี่..
