คนรักรถไม่ควรพลาดอย่างยิ่ง โดยเฉพาะท่านที่เป็นมือเก๋าผ่านการขับรถมานานประสบการณ์และฝีมือมากด้วยความสามารถ หากรถของท่านผ่านการใช้งานมาไม่น้อยกว่า 5 ปี รับรองได้เลยว่าฝีมือการขับรถของท่านคงไม่ใช่มือใหม่อย่างแน่นอน เมื่อรถยนต์ของท่านก้าวเข้าสู่ปีที่ 6 หรือ 7 เป็นอย่างน้อย การที่ท่านจะทำประกันชั้น 1 ต่อไปคงจะลำบากขึ้น เพราะมูลค่าของตัวลดย่อมลดน้อยลงไปตามจำนวนปีที่มากขึ้น บริษัทประกันภัยบางแห่งไม่สามารถที่จะยื่นข้อเสนอประกันภัยชั้น 1 ให้กับรถของท่านอีกก็เป็นได้หรือหากยื่น ก็จะเป็นในลักษณะการซ่อมอู่คู่สัญญามากกว่าที่จะได้ซ่อมในศูนย์ซ่อมที่ซื้อรถออกมา ซึ่งหากเป็นดังที่ว่าก็ไม่ต่างอะไรกับการทำประกันภัยชั้น 3+ ที่ดูจะคุ้มค่ากว่าด้วยราคาค่าประกันภัยรายปีที่ถูกกว่าถึง 1-2 เท่าตัวเลยทีเดียว ก่อนที่จะตัดสินใจต่อประกันภัยรถยนต์ลองมาพิจารณาข้อมูลของ ประกันชั้น 3+ ดูก่อนไหมว่ามีสิทธิประโยชน์อย่างไรกันบ้าง
ความแตกต่างระหว่างประกันภัยชั้น 1 กับประกันภัยชั้น 3
ด้วยประสบการณ์การขับรถที่มากถึง 5 ปีพร้อมกับภายในระยะเวลา 5 ปีที่คุณซื้อรถมา ไม่เคยเคลมประกันเลยสักครั้ง นั่นแสดงให้เห็นว่าฝีมือการขับรถของคุณไม่ใช่มือใหม่และพร้อมที่จะเป็นมือโปรแล้ว จึงทำให้ไปต้องกังวลกับการขับรถเฉี่ยวชนกับเสา ประตูบ้าน รั้วที่ทำงาน กระถางต้นไม้อีกต่อไป เพราะสิ่งที่ประกันชั้น1 กับ ประกันชั้น 3+ แตกต่างกันก็คือ ประกันภัยชั้น1 นอกจากการเคลมประกันกับยานพาหนะ บุคคลแล้วยังสามารถเคลมประกันได้จากสิ่งไม่มีชีวิตที่เฉี่ยวชนได้อีก ซึ่งตรงข้อนี้เองที่ทำให้มือโปรอย่างคุณไม่จำเป็นต้องใช้ เพราะประกันภัยชั้น 3+ จะไม่รับเคลมต่อการเกิดอุบัติเหตุที่มี่คู่กรณี เช่น รั้วบ้าน เสาไฟ ประตูบ้าน ไฟไหม้ ฯลฯ รวมถึงภัยพิบัติทางธรรมชาติต่าง ๆ เช่น น้ำท่วม ลมพายุ แผ่นดินไหว เป็นต้น ยกเว้นจะมีประกันภัยแบบ 3+ พิเศษเท่านั้นหรือประกันภัยบางที่อาจยกเว้นในเรื่องของน้ำท่วมก็มี จึงแนะนำให้อ่านดูรายละเอียดดี ๆซึ่งโอกาสที่จะเกิดก็มีน้อยมาก เพราะคุณจะรู้ล่วงหน้าได้อยู่แล้วว่าช่วงเวลาใดจะเกิดฝนตกหนักหรือพายุเข้าจากกรมอุตุฯและ ประกันชั้น 3+ จะไม่ครอบคลุมถึงการโจรกรรมรถยนต์หรือรถหาย จนไปถึงเหตุการณ์ไม่สงบก่อการร้ายอีกด้วย
ความรับผิดชอบต่อชีวิตและทรัพย์สินของผู้เอาประกัน บุคคลที่สามและคู่กรณี
ข้อนี้ถือเป็นหัวใจหลักของประกันภัยแบบ 3+ เลยทีเดียว เพราะหมายถึงการรับผิดชอบต่อชีวิตและทรัพย์สินของผู้ทำประภัยไว้ ก็ต่อเมื่อเกิดเหตุที่ต้องไปประสบอุบัติเหตุในกรณีที่มีรถยนต์ชนกับรถยนต์หรือยานพาหนะทางบกเท่านั้น ซึ่งจะคุ้มครองทรัพย์สินของผู้เอาประกัน ทรัพย์ของคู่กรณีและบุคคลที่สาม ซึ่งได้มีกล่าวไว้ในเบื้องต้นถึงความแตกต่างระหว่างประกันภัยชั้น 1 กับชั้น 3+ อยู่ก่อนแล้ว ซึ่งถ้าไม่มีคู่กรณีก็ไม่สามารถเคลมประกันได้นั่นเอง เช่น การขับรถชนเสาไฟฟ้าหรือ รั้วบ้านเป็นต้น
รายละเอียดของความคุ้มครองสำหรับรถยนต์ที่ทำประกันภัยชั้น 3+
เมื่อเห็นความแตกต่างระหว่างประกันภัยชั้น 1 และ ชั้น 3+ แล้ว ลองมาดูรายละเอียดและสิทธิประโยชน์ที่ทางประกันภัยชั้น 3+ แบบทั่วไปมอบให้ดู เพื่อใช้ในการตัดสินใจกันบ้าง
- การเกิดอุบัติเหตุกับยานพาหนะทางบก ทางบริษัทประกันจะชดใช้ค่าเสียหายที่เกิดขึ้นจริงต่อเมื่อรถและยานพาหนะนั้นอยู่ในระหว่างการทำประกันภัย 3+ กับทางบริษัทประกันภัยนั้น ๆ รวมถึงอุปกรณ์ตกแต่งรถยนต์ ที่ระบุไว้ในตาราง ยกเว้นสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุที่มิใช่กับยานพาหนะทางบกเท่านั้น
- ผู้ขับขี่และผู้โดยสารรถที่ทำประกันภัย 3+ สำหรับผู้ถือกรมธรรม์ชั้น 3+ จะได้รับความคุ้มครองอุบัติเหตุส่วนบุคคลและค่ารักษาพยาบาลสำหรับผู้ขับขี่และผู้โดยสารตลอดจนค่าประกันตัวผู้ขับขี่ ในกรณีที่ผู้เอาประกันถูกควบคุมตัวในคดีอาญา โดยมีมูลเหตุมาจากรถที่เอาประกันประสบอุบัติเหตุจนทำให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ
- การคุ้มครองชีวิตและทรัพย์สินของบุคคลที่สาม ประกันชั้น 3+ จะรับผิดชอบต่อชีวิต ร่างกาย ของบุคคลที่เป็นคู่กรณีตลอดจนทรัพย์สินของบุคคลภายนอกเมื่อผู้เอาประกันเป็นฝ่ายผิดตามกฎหมาย
- ความรับผิดชอบต่อทรัพย์สินของบุคคลภายนอก บริษัทประกันภัย จะรับผิดชอบค่าเสียหายที่เกิดขึ้นจริงต่อทรัพย์สินของบุคคลภายนอก ไม่เกินจำนวนเงินทุนประกันที่ระบุไว้ในกรมธรรม์นั้น
จากข้อมูลที่กล่าวมาข้างต้น หวังเป็นอย่างยิ่งว่าหลายท่านคงพอเข้าใจ ประกันชั้น 3+ แล้ว ที่เหลือก็อยู่ที่ดุลพินิจของท่านเองว่าจะเลือกทำประกันภัยชั้น 3+ นี้หรือไม่ เพราะหากรถที่อายุเกินมากกว่า 7 ปีขึ้นไปแล้วการเลือกทำประกันชั้น 1 คงไม่คุ้มค่าเท่าใดนัก เพราะราคาการทำประกันภัยที่สูง แม้ทำได้เวลาเกิดอุบัติเหตุมาก็ส่งซ่อมตามอู่อยู่ดี เพราะด้วยอายุรถที่เยอะขึ้นทางประกันภัยชั้น 1 คงไม่รับซ่อมที่ศูนย์รถแน่นอน ซึ่งไม่ต่างอะไรกับประกันภัยชั้น 3+ ที่สุดท้ายเมื่อเกิดเหตุก็ส่งรถซ่อมที่อู่รถเช่นกัน แต่ต่างกันที่ราคา ประกันชั้น 1 หากเป็นรถเก๋งเล็กขนาด 1500cc จะอยู่ที่ 12,000 -14,000 บาทต่อปี แต่ถ้าเป็นประกันภัยชั้น 3+ ก็จะอยู่ที่ 4,900 – 5,500 บาทต่อปี สามารถเช็คเบี้ยประกันได้ โดยประมาณจะเห็นได้ว่าราคาต่างกันถึง 50-60% เลย หากคุณเลือกทำประกันภัยรถชั้น 3+ จะสามารถมีเงินเหลือไปต่อภาษีประจำปีพร้อม พรบ.และล้างรถขัดสีให้สวย ๆ ได้อีกนะ จะบอกให้
