ถ้าลองไล่เรียงลำดับรายชื่อธนาคารที่ให้ดอกเบี้ยเงินฝากดอกเบี้ยสูงทุกคนคงเลือกไม่ถูกแน่นอนว่าที่ไหนดีและน่าสนใจ เพราะแต่ละแห่งมีข้อเสนอน่าสนใจไม่แพ้กันและเชื่อว่าสิ่งแรกที่เรามักตั้งคำถามก็คือธนาคารไหน ฝากเงินให้ดอกเบี้ยสูง บ้าง แน่นอนว่าเราต้องนำรายชื่อธนาคารเหล่านั้นมาเปรียบเทียบ เพื่อเลือกที่ที่ให้ดอกเบี้ยสูงที่สุด อย่างไรก็ตามอย่าลืมว่าการคำนวณอัตราดอกเบี้ยขึ้นอยู่กับจำนวนเงินฝากของเราด้วย ฉะนั้นแล้วมัวรออะไรไปดูกันว่าธนาคารไหนบ้างใน 20 อันดับนี้ให้ดอกเบี้ยสูงที่สุด
1.บัญชีเงินฝากออมทรัพย์ ดิจิทัล ซีไอเอ็มบี ไทย-ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย (CIMB THAI)
จะฝากเงินทั้งทีต้องเลือกธนาคารซีไอเอ็มบี ไทยทางเลือกที่ดี เมื่อคุณฝากเงินขั้นต่ำตั้งแต่ตั้งแต่ 500-100,000 บาท รับดอกเบี้ยปีละ 2.00% หรือหากฝากมากกว่า 100,000 บาทขึ้นไปจะได้รับดอกเบี้ย 0.40% ต่อปี นอกจากนี้ยังสะดวกมากเพราะสามารถเปิดบัญชีผ่าน Mobile Application : my CIMB
2.บัญชีเงินฝากออมทรัพย์ For Home Together-ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (GHB)
ฝากเงินให้ดอกเบี้ยสูง ต้องมาที่ธนาคารอาคารสงเคราะห์ตัวเลือกที่จะสร้างความมั่นคงให้แก่คุณ ที่สำคัญหากในช่วงที่คุณฝากเงินเป็นระยะเวลา 1 ปีและไม่มีการถอนออกมาใช้เลย จะได้รับอัตราดอกเบี้ยพิเศษกส่าปกติบวกเพิ่ม 0.25% ในรอบปีถัดไป สามารถเปิดบัญชีเงินฝากได้ตั้งแต่ 500 บาทขึ้นไป ซึ่งในการจ่ายดอกเบี้ยธนาคารจะจ่ายปีละ 2 ครั้ง ในทุก ๆ 6 เดือน
3.บัญชีเงินฝากออมทรัพย์ TMRW Savings account-ธนาคารยูโอบี (UOB)
สำหรับผู้ที่มีอายุ 20 ปีบริบูรณ์ สามารถเปิดบัญชีเงินฝากนี้ได้ผ่านช่องทาง Digital Banking ซึ่งเมื่อเปิดคุณจะมี 2 บัญชีนี้พร้อมกันโดยอัตโนมัติคือบัญชีเงินฝากออมทรัพย์ TMRW Everyday Account และบัญชีเงินฝากออมทรัพย์ TMRW Savings account โดยบัญชีนี้จะสามารถโอนเงินไปหากันได้เพียงแค่ 2 บัญชีที่กล่าวมาเท่านั้น ไม่สามารถใช้ร่วมกับบัตรเดบิตธนาคารอื่น ๆ ได้ รวมถึงบริการพร้อมเพย์ ที่สำคัญไม่ว่าเงินฝากของคุณจะกี่บาทก็ได้รับดอกเบี้ย 1.600 %
4.บัญชีเงินฝากออมทรัพย์พื้นฐาน Basic Banking Account (BBA)-ธ.ก.ส. (BAAC)
ต้องเป็นผู้ที่มีอายุ 65 ปีจึงจะสามารถเปิดบัญชีเงินได้เท่านั้นและไม่ว่าคุณจะฝากเงินในฐานะบุคคลธรรมดาหรือเกษตรก็ตามจะได้รับสิทธิประโยชน์จากบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ซึ่งบัตรรัฐต้องยังไม่หมดอายุ เมื่อได้ดำเนินการฝากเงินเรียบร้อยแล้วทุก ๆ 6 เดือนจะได้รับดอกเบี้ยที่ 0.500 %
5.บัญชีเงินฝากพื้นฐาน-ธนาคารออมสิน (GSB)
สิ่งสำคัญที่สุดเพื่อความมั่นคงคือการรู้จักอดออม มีเนใช้ในยามต้องการใช้ตอนจำเป็นซึ่งแนะนำให้เป็นบัญชีแบบเผื่อเรียก คุณสมบัติแรกของเจ้าของบัญชีคือเป็นบุคคลธรรมดาอายุตั้งแต่ 65 ปีขั้นไปหรือผู้ที่ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐก็สามารถเปิดบัญชีได้งาย ๆ และได้รับดอกเบี้ย 0.500 % จากเงินฝากทุกจำนวน
6.บัญชีเงินฝากพื้นฐาน (Basic Banking Account)-ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB)
ผู้ที่มีอายุน้อยก็สามารถเปิดบัญชีได้เลยเช่นกันอายุตั้งแต่ 18 ปีบริบูรณ์ หรือมีอายุตั้งแต่ 65 ปีบริบูรณ์ขึ้นไปแม้กระทั่งผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ก็สามารถเปิดบัญชีได้ด้วย ที่สำคัญไม่กำหนดจำนวนเงินเปิดบัญชีขั้นต่ำ ดอกเบี้ยที่ได้อยู่ที่ 0.500 % และหากผู้ใดไม่ชอบพกสมุดบัญชีหรือไม่ต้องการก็มีให้เลือกทั้งแบบมีสมุดบัญชีและไม่มีสมุดบัญชีด้วย
7.บัญชีเงินฝากออมทรัพย์พื้นฐาน-ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย (CIMB THAI)
อีกหนึ่งบัญชีเงินฝากจากธนาคารซีไอเอ็มบี ไทยมาให้บริการสำหรับลูกค้าบุคคลธรรมดาอายุตั้งแต่ 65 ปีขึ้นไป ซึ่งงในการฝากเงินนั้นไม่กำหนดจำนวนและไม่ต้องฝากทุกเดือนก็ได้แล้วแต่เราสะดวกมีเท่าไหร่ก็ฝากเท่านั้น ดอกเบี้ยที่จะได้ 0.400 % จะจ่ายดอกเบี้ยในทุก ๆ 6 เดือน
8.บัญชีเงินฝากพื้นฐาน (Basic Banking Account)-ธนาคารกรุงไทย (KTB)
ทุกคนอาจจะคิดว่าการ ฝากเงินให้ดอกเบี้ยสูง จะต้องฝากทุกเดือนเท่านั้น ซึ่งไม่เลยเพราะธนาคารกรุงไทยเปิดโอกาสให้คนที่มีอายุตั้งแต่ 65 ปีขึ้นไปสามารถเปิดบัญชีเงินฝากขั้นต้นกี่บาทก็ได้ โดยไม่จำเป็นต้องฝากทุก ๆ เดือน ดอกเบี้ยจะอยู่ที่ 0.500 %
9.บัญชีเงินฝากพื้นฐาน-ธนาคารเกียรตินาคิน (KK)
บางคนอาจจะไม่คุ้นหูกับชื่อธนาคารเกียรตินาคิน ซึ่งก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2548 ถือว่ามีอายุมายาวนาน ฉะนั้นเชื่อถือได้ไม่น้อยไปจากธนาคารอื่น ๆ ในเรื่องประเภทบัญชีเงินฝากคุณสมบัติในการเป็นเจ้าของบัญชีก็ตามแบบแผนทั่ว ๆ คือ ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐที่ยังไม่หมดอายุก็มีสิทธิเปิดบัญชีและมีอายุตั้งแต่ 65 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป ดอกเบี้ย 0.500 % จะได้ในทุกจำนวนเงินฝากโดยไม่มีขั้นต่ำ
10.บัญชีเงินฝากพื้นฐาน-ธนาคารไทยเครดิต (Thai Credit)
เชื่อว่าหลายคนคงเกิดคำถามว่า ฝากเงินให้ดอกเบี้ยสูง ต้องอย่างไร วันนี้ธนาคารไทยเครดิตมีคำตอบ เพราะเพียงคุณอายุตั้งแต่ 65 ปีขึ้นไปจะมีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐหรือไม่ก็สามารถเปิดบัญชีได้ง่าย ๆ ขอแค่เป็นคนสัญชาติไทยเท่านั้น ซึ่งไม่มีการกำหนดเงินขั้นต่ำในการฝากไม่ว่าจะมากหรือน้อยและไม่ต้องฝากประทุกเดือนก็ได้ดอกเบี้ยที่ 0.700 % แบบนี้ต้องรีบไปฝากเงินด่วน ๆ เลย
11.บัญชีเงินฝากพื้นฐาน-ธนาคารทหารไทย (TMB)
ธนาคารทหารไทยเป็นธนาคารที่ไม่มีการคิดค่าธรรมเนียมแรกเข้าและรายปีแก่ผู้ที่มาเปิดบัญชี แบบนี้ห่วงเรื่องนี้ได้เลยเพราะไม่ว่าจะโอนไปบัญชีไหนหรือทำธุรกรรมการเงินใด ๆ ก็ไม่มีคิดค่าบริการ ซึ่งในการฝากแต่ละครั้งไม่จำกัดจำนวนเงินขั้นต่ำ จะฝากมากหรือน้อยอยู่ที่ความพอใจของเราเลย แบบนี้ไม่มีไม่ได้แล้วทั้งง่ายและฟรีค่าธรรมเนียมแบบนี้
12.บัญชีเงินฝากพื้นฐาน (Basic Banking Account)-แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ (LH Bank)
สำหรับธนาคารแห่งนี้อาจไม่คุ้นหูใครหลายคนเพราะเป็นธนาคารที่นิยมของคนเฉพาะกลุ่ม ซึ่งคุณสมบัติก็น่าสนใจไม่น้อยไปกว่าธนาคารอื่นเลยเช่นกัน เพราะคุณสามารถถอนได้และจะได้รับดอกเบี้ยด้วยปีละ 2 ครั้ง ดอกเบี้ยอยู่ที่ 0.625 % ไม่กำหนดเงินฝากขั้นต่ำ ที่สำคัญต้องมีอายุ 65 ปีขึ้นไปเท่านั้น
13.บัญชีเงินฝากพื้นฐาน (Basic Banking Account)-ทิสโก้ (TISCO)
เหมาะมากกับผู้ที่มีรายได้น้อยและต้องมีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐในมือ และกลุ่มคนที่มีอายุ 65 ปี บริบูรณ์ขึ้นไปจะได้รับสิทธิในการเปิดบัญชีเงินฝากพื้นฐานจากทิสโก้ ไม่ต้องกังวลด้วยว่าจะไม่ได้ดอกเบี้ยเพราะไม่ได้ฝากเงินเป็นประจำทุกเดือน เพราะเขาไม่ได้กำหนด ฉะนั้นดอกเบี้ยที่ได้คือ 0.250 % โดยไม่กำหนดจำนวนเงินฝาก
14.บัญชีเงินฝากสุขใจวัยเกษียณ-ธนาคารกรุงไทย (KTB)
เรียกได้ว่าธนาคารกรุงไทยมีความหลากหลายของบัญชีและให้ความสำคัญกับลูกค้าในหลายช่วงอายุ โดยเฉพาะช่วงวัยเกษียณ ซึ่งเป็นช่วงวัยที่หากมีเงินเก็บเงินเหล่านั้นจะสามารถล่อเลี้ยงพวกเขาได้ตลอด ฉะนั้นความพิเศษของบัญชีประเภทนี้ก็คือเงินที่ออมในระยะเวลา 60 เดือนและต้องเปิดบัญชีขั้นต่ำ1,000,000 -5,000,000 บาท ดอกเบี้ยอยู่ที่ 2.250 % อาจจะเป็นเงินจำนวนมาก แต่เชื่อว่าเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าในระยะยาว
15.บัญชีเงินฝากพื้นฐาน (Basic Banking Account)-ธนาคารกสิกรไทย (KBANK)
ธนาคารกสิกรเมื่อเราพูดถึงคงคิดถึงธนาคารที่ไม่มีค่าธรรมเนียมลองลงมาจากธนาคารทหารไทย แต่ครั้งนี้สำหรับผู้ที่ต้องการเปิดบัญชีฝากพื้นฐานต้องมีคุณสมบัติในเรื่องของอายุมีอายุตั้งแต่ 65 ปีขึ้นไป สามารถฝากเงินได้โดยไม่มีขั้นต่ำและได้รับดอกเบี้ย 0.500 % ที่สำคัญไม่มีค่าบริการรักษาบัญชีเงินฝากหากไม่มีการเคลื่อนไหวบัญชีเพราะจะมีการเปลี่ยนสถานะเป็นบัญชีเงินฝากประเภทออมทรัพย์ โดยเจ้าหน้าที่จะแจ้งล่วงหน้า 30 วัน แบบนี้ไม่ต้องกังวลว่าบัญชีจะสูญหายไปเร็ววัน
16.บัญชีเงินฝากพื้นฐาน-ธนาคารยูโอบี (UOB)
เชื่อว่าในการตัดสินใจส่วนใหญ่ดูเรื่องการ ฝากเงินให้ดอกเบี้ยสูง แต่จะมีแค่ไหนหากมีคุณสมบัติที่น่าสนใจอีกเรื่องคือเรื่องของการเปลี่ยนสถานะบัญชีเงินฝากจากบัญชีเงินฝากพื้นฐานเป็นบัญชีเงินฝากออมทรัพย์ เพราะเจ้าของบัญชีบางคนถึงแม้ไม่ได้มีการเคลื่อนไหวบัญชีอยู่ตลอดเวลาอาจจะต้องการรักษาบัญชีนี้ไว้ เพื่อใช้ในการอื่นด้วย ซึ่งถือเป็นเรื่องดีและคุ้มค่าต่อการเปิดบัญชีหนึ่งครั้งและธนาคารยูโอบีก้ได้ให้ความสำคัญในเรื่องนี้เช่นกัน
17.บัญชีเงินฝากพื้นฐาน-ธนาคารธนชาต (Thanachart)
ธนาคารธนาชาตนอกจากจะโดดเด่นในเรื่องสีส้มสดใสสะดุดตาแล้ว เรื่องดอกเบี้ยให้ให้ก็ น่าสนใจไม่แพ้กัน เพราะใน 1 ปี จะมีการจ่ายดอกเบี้ยถึง 2 ครั้ง ดอกเบี้ยอยู่ที่ 0.200 % ที่สำคัญเงินฝากเหล่านั้นสามารถถอนออกมาใช้ได้และยังคงได้รับดอกเบี้ยอยู่ ซึ่งไม่มีมการกำนหดจำนวนเงินฝากตายตัว
18.บัญชีเงินฝากพื้นฐาน-ธนาคารกรุงเทพ (BBL)
ธนาคารไหนฟรีค่าธรรมเนียม ฟรีค่ารักษาบัญชี เชื่อว่าทุกคนก็ต้องสนใจลองลงมาจากการ ฝากเงินให้ดอกเบี้ยสูง และธนาคารกรุงเทพเองก็มีบริการดี ๆ เช่นกัน นอกจากจะเป็นบัญชีเงินฝากสำหรับบุคคลธรรมดาอายุตั้งแต่ 65 ปีขึ้นไปแล้ว ผู้ที่มาฝากเงินต้องถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐที่ยังไม่หมดอายุด้วย โดยไม่จำเป็นต้องฝากประจำทุก ๆ เดือน ดอกเบี้ยที่ได้รับ 0.500 % ในทุกจำนวนเงินฝาก
19.บัญชีเงินฝากพื้นฐาน-ธนาคารกรุงศรี (BAY)
มาถึงโค้งสุดท้ายของอันดับที่ 19 ธนาคารสำหรับเปิดบัญชีเงินฝากก็ยังคงมีรายละเอียดคล้าย ๆ กับธนาคารอื่น ๆ คือ เป็นบัญชีสำหรับคนที่ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ เพื่อรับเงินสวัสดิการจากภาครัฐหรือบุคคลธนรมดาที่มาอายุ 65 ปีขึ้นไป ที่สำคัญไม่มีค่าธรรมเนียมในการรักษาบัญชีใด ๆ และหากบางคนต้องการถอนเงินออกใช้ก็สามารถทำได้ โดยยังคงได้รับดอกเบี้ยอยู่
20.บัญชีเงินฝากออมทรัพย์ A-Savings-ธ.ก.ส. (BAAC)
สมัยนี้การเปิดบัญชีไม่จำเป็นต้องพกสมุดบัญชีก็ได้ เพราะเพื่อความสะดวกและลดภาระในการรักษาสมุดบัญชีของตัวเอง ฉะนั้นธนาคาร ธ.ก.ส. จึงอยากทำให้ธุรกรรมด้านการเงินเป็นเรื่องง่ายสำหรับเจ้าของบัญชีทั้งหลาย ซึ่งมีให้เลือกทั้งแบบมีสมุดกับไม่มี และในการเปิดบัญชีต้องสมัครใช้บริการ ธ.ก.ส. A-Mobile และทำบัตร ATMพร้อมกัน เปิดบัญชีขั้นต่ำที่ 100 บาท ดอกเบี้ยอยู่ที่ 0.500 % จะจ่ายดอกเบี้ยปีละ 2 ครั้ง
หากเพื่อน ๆ ลองเข้าเว็บไซต์ของธนาคารต่าง ๆ หรือเว็บที่ให้ความรู้ทางด้านการเงิน และลองเลื่อนลงมาอ่านจะพบว่าในการแนะนำให้ข้อมูลเขาจะบอกไว้เสมอว่า ”ในการเปิดบัญชีในแต่ละครั้งอย่าดูเพียงดอกเบี้ยอย่างเดียว” ซึ่งนั้นก็แปลว่าความสำคัญที่แท้จริงไม่ได้อยู่ที่การ ฝากเงินให้ดอกเบี้ยสูง หากแต่ดูที่ความมั่นคงของสถาบันการเงินนั้น ๆ การศึกษาข้อมูลประกอบด้วย เพื่อให้เราได้รับความสะดวกและประโยชน์จากบัญชีเงินฝากแบบเต็มประสิทธิภาพ
