ขับรถขึ้นเขา

เตรียมให้พร้อม ขับรถท่องเที่ยวในเส้นทางภูเขา

 

สำหรับใครหลาย ๆ คนคงจะมีความฝันที่อยากจะขับรถตะลอนเที่ยวไปทั่วทุกภาคของประเทศไทย โดยเฉพาะทางภาคเหนือของประเทศที่มีภูมิอากาศที่หนาวเย็นในช่วงฤดูหนาว อีกทั้งสายหมอกที่สวยงามในยามเช้า แต่จะมีสักกี่คนที่ได้ทำตามความฝันนี้ หากท่านได้มีโอกาสอยากให้ลองสักครั้งว่าการขับรถท่องเที่ยวไปทางภาคเหนือของประเทศมีความสนุกสนานมากแค่ไหน โดยเฉพาะการขับ รถขึ้นเขา ที่มีความน่าตื่นเต้นและท้าทายกับฝีมือการขับรถรวมถึงสภาพรถที่พร้อมมากแค่ไหน ถือว่าเป็นบททดสอบให้ผู้ที่สนใจการขับรถไปในเส้นทางที่ลาดชัน คดเคี้ยวด้วยโค้งต่าง ๆ มากมาย

การขับรถไปในสถานที่ที่ไม่เคยไปมาก่อนทางผู้ขับจะต้องศึกษาเส้นทางให้ดี เพื่อที่จะได้ไม่หลงทางรวมถึงความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุ การเตรียมความพร้อมของร่างกายและสภาพรถที่ต้องอยู่ในความสมบูรณ์มากที่สุด การตรวจเช็คสภาพภูมิอากาศว่าเหมาะสมในการขับรถหรือไม่ เทคนิคต่าง ๆที่ต้องใช้ในการขับรถในทางลาดชันและมีโค้งสลับไปมา หากมีความสนใจที่จะลองไปตามหาฝันดูสักครั้ง ลองมาอ่านเทคนิคการขับรถและการเตรียมความพร้อมชองรถก่อนการเดินทางกันเลย

 

 

1. สภาพร่างกายของคนขับ จะต้องได้รับการพักผ่อนที่เพียงพอด้วยการนอนอย่างน้อย 7-8 ชั่วโมง การรับประทานอาหารให้อิ่มพอดีไม่มากเกินไป

2. ลูกอม ขนมขบเคี้ยว สำหรับการขับรถไปเที่ยวในระยะทางไกล ๆ สิ่งจำเป็นอีกอย่างคือลูกอมและขนมหรือผลไม้ที่มีรสเปรี้ยว เพื่อให้คนขับได้ตื่นตัวอยู่ตลอดเวลา โดยเฉพาะในเวลากลางคืนที่มีการขับรถในเส้นทางผ่านภูเขาที่มีถนนที่แคบและลาดชัน เช่น เส้นทางถนน 304 ที่ผ่านเขาใหญ่ แม้เส้นทางจะไม่ลาดชันมาก แต่ยังมีข่าวการเกิดอุบัติเหตุรถตกเขาอยู่บ่อย ๆ เนื่องจากคนขับหลับใน

3. เครื่องดื่ม ในกรณีนี้ขอแนะนำน้ำเปล่ามากกว่าการดื่มเครื่องดื่มประเภทชูกำลังหรือกาแฟ เพราะน้ำเปล่าคนขับสามารถที่จะคอยจิบน้ำได้บ่อยครั้งกว่าทำให้ไม่ง่วงได้

4. รถอยู่ในสภาพที่สมบูรณ์ ก่อนการเดินทางต้องทำการตรวจเช็คสภาพรถให้แน่นอน โดยเฉพาะระบบเบรกและเกียร์ ว่าอยู่ในสภาพปกติหรือไม่ เนื่องจากการขับ รถขึ้นเขา จะต้องใช้งานในส่วนนี้มาก อีกทั้งหม้อน้ำต้องดูระดับน้ำในหม้อน้ำให้อยู่ในสภาพปกติ เพราะการขับรถในทางลาดชันต้องใช้กำลังของเครื่องยนต์เป็นอย่างมาก ทำให้เครื่องมีอุณหภูมิที่สูงหากน้ำในหม้อน้ำไม่เพียงจะก่อให้เกิดปัญหาใหญ่ตามมาก็ได้

5. ปฏิบัติตามป้ายบอกความเร็วอย่างเคร่งครัด ในการขับรถในทางขึ้นเขาจะมีป้ายบอกจำกัดความเร็วเป็นระยะ เพื่อให้ผู้ขับขี่ได้ใช้ความเร็วในระดับที่ปลอดภัย เพราะการขึ้นเขาไม่ใช่มีแต่ทางตรงเสมอไป จะประกอบไปด้วยทางคดเคี้ยวต่าง ๆ รออยู่ข้างหน้า หากใช้ความเร็วสูงมีโอกาสที่จะทำให้รถแหกโค้งตกภูเขาได้

6. ใช้เกียร์ต่ำปลอดภัยไว้ก่อน เมื่อถึงจังหวะที่ต้องเริ่มขึ้นเขาให้ลดความเร็วลงและบังคับรถให้อยู่ในเลนให้ดีพร้อม ๆ กับประเมินสถานการณ์การใช้เกียร์ที่ต่ำลง หากทางลาดชันมากให้พิจารณาใช้เกียร์ 1 หรือเกียร์ 2 สลับกันไปมาในรถเกียร์ธรรมดา หากเป็นเกียร์ออโต้ให้เลือกใช้เกียร์ L เพื่อให้มีแรงส่งที่ดี รวมถึงทางลงเขาก็เช่นกัน พยายามใช้เกียร์ช่วยมากกว่าการเหยียบคันเร่งอย่างเดียว เพราะหากพลาดมาจะทำให้รถพุ่งลงเขาด้วยความเร็วสูง

7. โค้งอันตราย ให้ผู้ขับขี่คิดไว้เสมอว่าโค้งทุกโค้งที่ขึ้นเขา-ลงเขาอันตรายทุกโค้ง เพื่อความไม่ประมาทแม้ว่าตัวผู้ขับเองจะไม่ประมาท พยายามขับรถให้เป็นปกติแต่ก็อาจพบสิ่งที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้นได้ เพราะไม่เพียงแต่จะมีรถของท่านเองเท่านั้นที่ใช้ถนน หากแต่มีรถคันอื่น ๆ ก็ใช้ร่วมด้วย บางทีอาจมีรถสวนทางที่ลงเขามาเจอทางโค้งเดียวกับท่านที่กำลังจะขึ้นเขาไปพอดี หากประมาทก็สามารถทำให้รถชนกันก็เป็นได้ เนื่องจากทางโค้งขึ้นเขาจะเป็นมุมที่แคบทำให้การมองเห็นทางข้างหน้าได้น้อยและที่สำคัญที่สุด ห้าม! แซงทางโค้งเป็นอันขาด

8. รักษาระยะห่างสำคัญมาก การขับรถขึ้นทางลาดชัน การรักษาระยะห่างจากรถคันข้างหน้ามีความสำคัญอย่างยิ่ง โดยเฉพาะหากท่านได้ขับรถตามรถบรรทุก รถโดยสารขนาดใหญ่ จะต้องเว้นระยะห่างอย่างน้อยไม่ต่ำกว่า 50-100 เมตร เหตุเพราะรถบรรทุกหนักมีขนาดใหญ่ทำให้บดบังทัศนวิสัยในการขับขี่ของท่านได้ ท่านจึงมองไม่เห็นทางข้างหน้าและหากรถบรรทุกเกิดไม่สามารถขึ้นเขาได้จนทำให้รถเบรกแตกไหลลงมา การเว้นระยะห่างจะช่วยให้ท่านมีเวลาในการตัดสินใจที่จะหักหลบรถที่ไหลลงมาหาท่านได้

9. พักรถพักคน สำหรับการขึ้นเขาในระยะทางที่ไกลและมีจำนวนโค้งที่มากทำให้การทำงานของเครื่องยนต์และคนขับรถมีอาการที่เหนื่อยล้า เนื่องมาจากต้องใช้สมาธิทั้งสายตาและร่างกายในการที่จะประคองรถให้มีความปลอดภัย จึงเกิดอาการเครียดสะสมขึ้นได้ การได้แวะพักในปั๊มหรือศาลาพักข้างทางจะสามารถให้ท่านได้ผ่อนคลาย รวมถึงรถยนต์เองก็จะได้พักเพื่อระบายความร้อนทั้งหม้อน้ำ ระบบเบรกและเกียร์ที่ผ่านการใช้งานมาอย่างหนัก ซึ่งจะทำให้การขับขี่ไปถึงเป้าหมายได้อย่างปลอดภัยมากยิ่งขึ้น

10. กะจังหวะการขับขี่ให้ดี เพื่อให้การขับรถเป็นไปอย่างปลอดภัย สำหรับมือใหม่การกะจังหวะความเร็วทั้งทางขึ้นเขา-ลงเขา ทางโค้ง จึงมีความจำเป็นอย่างมาก เพราะหากกะจังหวะไม่ดีก็สามารถทำให้เกิดอุบัติเหตุขึ้นได้ง่าย ๆ

การขับ รถขึ้นเขา – ลงเขา ในทุกเส้นทางมีความเสี่ยงที่จะทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ง่ายที่สุด หากแต่ทุกท่านไม่ประมาทและเตรียมความพร้อมทั้งคนและรถให้อยู่ในสภาพที่สมบูรณ์ที่สุด การศึกษาเส้นทางที่จะไป สภาพดิน ฟ้า อากาศ หากมีฝนตกจะต้องทำอย่างไร การฟังข่าวก็มีส่วนช่วยได้ เมื่อไปเจอช่วงที่มีพายุเข้าจนทำให้ดินสไลด์ปิดทางหรือแม้แต่ดินถล่มลงมา ก็สามารถที่จะหลีกเลี่ยงหรือยกเลิกการเดินทางนั้นได้ทันเวลา โดยเฉพาะมือใหม่ที่เป็นการขับรถในทางชันครั้งแรก จะต้องมีสติและไม่ประมาทในเส้นทางนั้น สามารถติดตามบทความเพิ่มเติมได้ ที่นี่..

More To Explore

GPScar
examinationof6