รถเป็นรอย

เทคนิคแก้ปัญหารถเป็นรอยแบบง่าย ๆ

สำหรับคนที่มีรถแล้วคงไม่อยากให้รถที่คุณรักมีปัญหาใด ๆ เกิดขึ้น เพราะกว่าจะสามารถหาเงินซื้อมาได้ต้องใช้เวลาอย่างมาก หากแต่ในความเป็นจริงไม่สามารถที่จะทำอย่างนั้นได้ โดยเฉพาะอุบัติเหตุเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่ทำให้ รถเป็นรอย ซึ่งบางครั้งเหตุที่เกิดก็ไม่ได้มาจากการกระทำของเจ้าของรถเอง อาจเป็นคู่กรณีมาเฉี่ยวชน โดนก้อนหินกระเด็นใส่ หรือแม้แต่กิ่งไม้ตกใส่รถก็สามารถทำให้รถที่สวยงามเป็นรอยได้

เมื่อ รถเป็นรอย หลาย ๆ คนคงหงุดหงิดใจเป็นอย่างยิ่ง ว่าทำไมนะขับรถก็ขับดี ๆ ทำไมคนอื่นไม่ระวังต้องมาเฉี่ยวชนด้วย สำหรับรถที่เป็นรอยเล็ก ๆ ยังพอสามารถแก้ไขและซ่อมเองได้ หากแต่ถ้าเป็นรอยใหญ่คงต้องเอาเข้าอู่ ถ้ารถมีประกันก็ดีไปถ้าไม่มีก็ต้องศึกษาเคล็ดลับต่อไปนี้เพื่อใช้ในการซ่อมแซมรอยรถตั้งแต่แบบง่าย ๆ ไปจนระดับที่ยาก

1. ใช้ WAX เคลือบสีรถ

โดยปกติหากนำรถเข้าล้างที่คาร์แคร์ ทางร้านก็จะมีบริการเคลือบรถให้ ก็อาศัยช่วงนี้ให้ทางร้านเคลือบสีเน้นบริเวณที่เป็นรอยให้กลับมาดูสวยขึ้น วิธีนี้จะใช้ได้กับรถที่เป็นรอยไม่ลึกหรือเป็นแค่รอยขนแมวเท่านั้น หากต้องการที่จะทำเองก็สามารถทำได้ด้วยการใช้มือขัดวน ๆ เป็นก้นหอยในบริเวณที่เป็นรอย ซึ่งสามารถที่จะลง WAX ซ้ำได้หลาย ๆ รอบตามความต้องการของเจ้าของรถได้เลย

 

2. ใช้เครื่องขัดพร้อมน้ำยาขัด

หากรอยที่เกิดขึ้นมีเยอะและท่าทางจะลึกกว่ารอยขนแมว ก็จะใช้น้ำยาขัดสีรถเข้าช่วย เพื่อที่จะให้รอยที่เกิดขึ้นเมื่อโดนขัดพร้อมน้ำยาก็จะทำให้รอยดูจางลง โดยเฉพาะเมื่อใช้คู่กับเครื่องขัดเพื่อที่จะให้รอยที่รถดูจางและบางลง แถมดูสม่ำเสมอจากการใช้เครื่องขัดอีกด้วยและให้ดีก็ลง WAX เคลือบสีรถซ้ำไปอีกครั้งทำให้รถกลับมาสวยเงางามได้อีก

 

3. ปากกาลบรอยขีดข่วน

หากรอยขีดข่วนของรถ มีรอยใหญ่และกว้างมากขึ้น ก็สามารถที่จะใช้ปากกาลบรอยขีดขวนได้ ถือว่าเป็นอุปกรณ์ที่มีความสะดวกแก่ผู้ใช้งานเป็นอย่างมาก แต่ขอแนะนำให้ใช้ในจุดที่มองดูไม่ซีเรียสมากนัก เช่น บริเวณกันชนหลังด้านล่าง หากฝีมือการป้ายปากกาลบรอยขีดขวนยังไม่เก่งพอก็จะทำให้เป็นรอยด่างสีของรถก็เป็นได้ เมื่อรอยเริ่มจางลงก็ให้ใช้ WAX เคลือบสีรถขัดซ้ำลงไปอีกทีให้ดูเงางาม กลับมาใกล้เคียงของเก่าอีกครั้ง

4. ใช้สีแต้มรถ

วิธีนี้เจ้าของรถจะต้องหาสีที่จะใช้แต้มรถ เพื่อให้สีที่แต้มตรงตามสีรถที่ใช้งาน หากเลือกผิดเฉดสีจะทำสีรถเป็นรอยด่างได้ ซึ่งราคาก็อาจจะสูงแต่ไม่มากท่าไรนัก โดยสีแต้มรถสามารถใช้สีตัวอย่างที่ได้มาจากศูนย์รถหรือหาซื้อได้จากร้านทำสีรถ อู่ซ่อมรถหรือร้านค้าชั้นนำ ซึ่งการใช้งานต้องอาศัยฝีมือของผู้ใช้งานเป็นอย่างมากเพราะต้องทำให้สีที่แต้มลงไปเกิดความสม่ำเสมอไปผิดเพี้ยน

5. ใช้สีโป้ว

เมื่อ รถเป็นรอย ที่ลึกมากเกินกว่าที่การขัดเคลือบสีจะแก้ไขได้ ให้เลือกใช้วิธีสีโป้วปิดทับ วิธีนี้จะต้องเป็นคนที่มีประสบการณ์ในการทำมาพอสมควร เพราะนอกจากจะเป็นการโป้วสีแล้วยังมีขั้นตอนการขัดสีด้วยกระดาษทรายให้เรียบเนียน จนการโป้วสีที่ให้ดูสวยงาม เข้ารูปทรงแบบเดิม ไม่บิดเบี้ยว ค่อยพ่นสีรองพื้นทับ ตามด้วยสีจริงและสีเคลือบเงารถ จบด้วยการขัดสีและเคลือบสีด้วย WAX ซึ่งเป็นขั้นตอนที่สลับซับซ้อนเป็นอย่างมาก หากไม่ชำนาญแล้วก็อาจะทำให้สีเพี้ยนหรือรอยไม่สม่ำเสมอจนเป็นคลื่นที่ผิวรถก็เป็นได้

6. หาอู่ที่มีฝีมือ

การที่รถเป็นรอยบ้างครั้งเป็นรอยที่ลึกและเป็นทางยาวจนไม่สามารถที่จะแก้ไขปัญหาได้เอง ก็ต้องอาศัยการหาอู่ซ่อมสีรถที่มีฝีมือ ด้วยการค้นหาทางอินเทอร์เน็ตเพื่อหาข้อมูลของอู่ซ่อมสีรถว่ามีปัญหาในการซ่อมมากน้อยแค่ไหน ดีกว่าไม่มีข้อมูลแล้วเอาไปซ่อมจากแค่ราคาซ่อมสีไม่กี่ร้อยบาท อาจเป็นหลักหมื่นก็เป็นได้ ในการซ่อมสีที่อู่เองสิ่งหนึ่งที่ห้ามพลาดในการถามเริ่มแรกก่อนนำรถมาซ่อมสีคือ เมื่อทางอู่เห็นรอยแล้ว ให้ถามราคาในการซ่อมให้ดี เพราะบางทีซ่อมเสร็จไปแล้วยังไม่มีการตกลงเรื่องราคาก็จะทำให้มีปัญหากันภายหลังได้

จะเห็นได้ว่าการซ่อมสีในรอยเล็กน้อยไม่ใช่เรื่องยากสำหรับมือใหม่หัดซ่อมสีรถ แต่ถ้าหากเป็นรอยที่มีขนาดใหญ่เกินกว่าที่มือใหม่จะซ่อมได้คงต้องอาศัยอู่สีที่มีประสบการณ์ในการแก้ไข รถเป็นรอย ได้ อีกทั้งการเลือกประกันภัยรถยนต์ที่มีสัญญากับอู่รถต่าง ๆ ที่มีคุณภาพให้เจ้าของรถได้เลือกใช้บริการได้อย่างมั่นใจ เพราะรถที่ใครหลายคนรักจึงจำเป็นที่จะต้องดูแลเป็นพิเศษ  ไม่ว่าจะเป็นการลง WAX เคลือบสีบ่อย ๆ การทำสปาให้รถ การเคลือบสีรถด้วยเทคโนโลยีเคลือบแก้วหรือแม้แต่การ WRAP สติกเกอร์ที่มีสีเดียวกันกับรถ เพื่อป้องกันรอยขีดข่วนให้ห่างไกลจากรถที่รักของใครหลาย ๆ คน  สามารถติดตามบทความเพิ่มเติมได้ ที่นี่..

More To Explore

Norway
gpscar-3