เชื่อว่าทริคในการสอนให้ลูกเป็นคนอดออมมัธยัสถ์ เริ่มจากการให้กระปุกออมสินน่ารัก ๆ เป็นของขวัญและอาจมีค่าขนมจำกัดจำนวนเงิน พร้อมกำชับว่าต้องมีเหลือเก็บมาหยอดกระปุกด้วย ในเด็กบางคนเขาสามารถทำได้ตามที่พ่อแม่สอน แต่บางคนตั้งใจจะเอาไปออมแต่กลับทำเงินหายหรือซื้อขนมกินหมด ซึ่งอยู่ที่ลักษณะนิสัยของเด็ก ๆ ด้วย แม้กระทั่งกับพ่อแม่บางคนตั้งชื่อลูก “ออมสิน” หวังว่าลูกจะมีลักษณะนิสัยเช่นนั้น ถึงอย่างไรเรื่องความเชื่อก็ไม่ผิดแถมเป็นชื่อที่ฟังแล้วส่งผลดีไม่น้อย เรียกได้ว่า เคล็ดลับออมเงิน มีหลายรูปแบบ ฉะนั้นการจะทำให้เด็ก ๆ ยอมออมเงินต้องอาศัยเทคนิคบวกกับให้ความสนุกไปด้วย ไปดูกันว่าเราจะเอาทริคไหนไปใช้กับลูก ๆ ที่บ้าน
เห็นตัวอย่างที่ดีเช่นพ่อแม่รักการออม
เด็กจะเริ่มเลียนแบบพฤติกรรมจากผู้ใหญ่ เพื่อนหรือคนรอบ ๆ ข้าง ตั้งแต่อายุ 2 ขวบขึ้นไป ฉะนั้นหากพ่อแม่ต้องการให้ลูกรู้จักออมเงินต้องเริ่มที่ผู้ใหญ่ก่อน เมื่อเด็ก ๆ เห็นเขาจะสนใจและซึมซับทำตาม นอกจากนี้ไม่จำเป็นต้องออมด้วยการหยอดเงินใส่กระปุก เริ่มจากการเปลี่ยนพฤติกรรมอย่างเช่น ไม่กินทิ้งกินขว้าง นำของเก่าเช่นรองเท้า เสื้อผ้ามาซ่อมแซมเพื่อนำกลับมาใช้ใหม่ สิ่งเหล่านี้ก็สามารถสอนเด็ก ๆ ได้แบบนี้รับรองว่าประหยัดได้ทั้งบ้านแบบไม่ต้องเสียตังไปซื้อใหม่เลย
ใช้จ่ายตามจำนวนที่จำกัด
เคล็ดลับออมเงิน ง่าย ๆ ที่เด็ก ๆ สามารถเข้าใจในเวลาอันรวดเร็ว เพราะในกิจวัตรทุก ๆ วันของการไปโรงเรียนพวกเขาจะต้องมีเงินติดตัวไปเพื่อซื้อขนมที่เขาชอบและอยากกิน แต่มีข้อแม้ที่เขาต้องจำก็คือห้ามใช้เกินจำนวนที่ให้ไว้ หากมีเศษเหรียญกลับบ้านเพื่อหยอดกระปุกถือว่าดีมาก ๆ เลยละ ผู้ปกครองอาจจะให้เป็นรางวัลหรือสอนให้เขารู้ถึงประโยชน์ของการมีตังเหลือกลับมาเชื่อว่าเด็ก ๆ ต้องเข้าใจแน่นอน และข้อนี้ถือเป็นการสร้างวินัยในการใช้เงินที่ได้ผลและจะซึมซับติดตัวไปพวกเขาไปจนถึงตอนโต
รู้จักบริหารเงิน
สอนให้รู้จักจัดสรรปันส่วนจากค่าขนมที่ได้ ถึงแม้จำนวนไม่มากแต่นั้นถือเป็นการสร้างนิสัยที่ดีในการออม ฉะนั้นควรยกตัวอย่างง่าย ๆ เช่น หากเขาไปซื้อขนมที่ร้านมีสินค้ามากมายเต็มไปหมด แต่เมื่อเขามองเงินในมือมีเพียง 20 บาท เขาจะหันกลบมาถามคุณแน่ ๆ ว่าสามารถซื้ออะไรได้บ้าง ซึ่งในระหว่างนั้นเองที่กำลังตัดสินใจพ่อแม่อาจจะต้องยืนอยู่ข้าง ๆ เพื่อเปรียบเทียบราคาให้เห็นว่าขนมชิ้นนี้ราคาเท่านี้ได้กี่ถุง อะไรบ้าง เพียงเท่านี้ลูกเขาก็จะคิดวิเคราะห์เองโดยที่เราขัดไม่ได้
รู้จักอดทนกับสิ่งที่อยากได้
เด็ก ๆ ในวัยนี้เริ่มสนใจสิ่งของใหม่ ๆ และในเวลาที่เขาได้ออกไปข้างนอกมักเจอสิ่งล้อตาล้อใจมากมาย วึ่งไม่ต่างจากผู้ใหญ่เหมือนกันที่มักจะอดใจต่อสิ่งเหล่านั้นได้และด้วยสินค้ามีดีไซด์มาเพื่อเอาใจเด็ก ๆ ซะด้วย แบบนี้ผู้ปกครองควรหาวิธีทำให้เขารู้จักอดทน เพราะหากเขาขอแล้วเราซื้อให้เลยดูจะเป็นการตามใจโดยไร้เหตุผล ฉะนั้นในขณะที่เขาบ่นอยากได้เราอาจะใช้ เคล็ดลับออมเงิน ด้วยวิธีบอกกับเขาว่าให้ออมจากเงินค่าขนมที่ให้ตอนไปโรงเรียนหรืออาจมีกิจกรรมเล็ก ๆ น้อย เช่น ทำความดีแล้วได้ดาว ดาวเป็นจำนวนเงินที่เขาเก็บได้ เมื่อครบตามจำนวนราคาสินค้าที่ต้องการ พ่อแม่จะพาไปซื้อตามสัญญา รับรองเป็นแรงจูงใจได้ผลดีแน่นอน
สอนให้รู้จักคิดวิเคราะห์
ก่อนอื่นเมื่อค่าขนมที่ให้ลูกไปหมดควรมีเทคนิคในการถาม เพื่อไม่ให้เขารู้สึกไม่โดนจับผิดหรือเค้นเอาความจริงเช่น ถามเขาด้วยความเป็นห่วงว่า หนูรอแม่นานจนหิวหรอลูก หรือวันนี้ทำกิจกรรมที่โรงเรียนเยอะไปไหม เมื่อเด็กคลายความกังวลเขาจะบอกเหตุผลกับเราเองและต่อมาผู้ปกครองจึงสอนให้เขารู้จักหาเหตุผลคิดก่อนซื้อว่าสิ่งนั้นจำเป็นหรือไม่จำเป็น ฉะนั้นเทคนิคการแนะนำลูก ๆ ถือว่าได้ผลดีแถมไม่สร้างความรู้สึกแย่ ๆ แก่ลูกด้วย
ปลูกฝังเรื่องความสุขที่ไม่จำเป็นต้องใช้เงิน
ข้อนี้รับรองเข้าทางของคุณแม่ที่ชอบการทำขนม เพราะนอกจากในบ้านจะมีวัตถุดิบเตรียมไว้อยู่แล้วแบบไม่ต้องออกไปซื้อเพิ่ม ยังเป็นกิจกรรมระหว่างลูกถือเป็น เคล็ดลับออมเงิน ของวันนี้ด้วย ซึ่งเป็นหนึ่งการปลูกฝังลูกว่าบางครั้งการที่จะได้กินของอร่อย ๆ ก็ไม่จำเป็นต้องจ่ายเงิน ใช้ของที่มีอยู่ในบ้านอยู่แล้วมาทำขนมอร่อย ๆ ถือว่าเป็นการออมและอิ่มท้อง แถมมีความสุขมาก ๆ ด้วย แถมเด็ก ๆ ยังได้เรียนรู้วิธีการทำขนมด้วย
เชื่อว่าหนึ่งในทริคนี้พ่อแม่บางคนก็ทำอยู่แล้วปกติ เพียงแค่ยังขาดรายละเอียดบางอย่าง ลองอ่านแล้วนำไปปรับใช้กับลูก ๆ ดูกัน แต่ก็ไม่ควรคาดหวังจนทำให้เขารู้สึกอึดอัดและเครียด ทุกอย่างล้วนต้องอาศัยระยะเวลาให้เขาค่อย ๆ เรียนรู้ ซึมซับตาม ผู้ปกครองเองก็ควรทำให้เป็นตัวอย่างแก่ลูก ๆ รับรองว่าหลังจากที่ลองทำตามด้านบนอาจจะเป็นกิจกรรมเล็ก ๆ สร้างความสัมพันธ์ภายในครอบครัวอีกด้วย
