อย่างที่รู้กันดีอยู่แล้วว่า ในทุกวันนี้ แทบทุกคนต่างมีบัตรเครดิตเอาไว้ใช้ เพื่อความสะดวกสบายในการจับจ่ายใช้สอย แต่เราเชื่อมั่นว่า ยังมีผู้ใช้บัตรเครดิตอีกมากมาย ที่ยังไม่รู้จักการใช้บัตรเครดิตที่ถูกวิธี จนส่งผลให้เป็นหนี้สินถึงขั้นแบกรับไว้ไม่ไหว และในบางท่านอาจถึงขึ้นต้องเบี้ยวหนี้บัตรเครดิต เพราะหมุนเงินไม่ทัน เงินไม่พอจ่าย แต่การเป็นหนี้เท่าไหร่ ถึงโดนฟ้อง และจะมีผลอะไรที่ตามมาบ้างนั้น ในวันนี้เราจะมานำเสนอให้คุณได้ทราบกัน และสามารถนำไปปฎิบัติได้ แต่จะมีข้อมูลอะไรบ้างที่นำมาฝากคุณวันนี้ ตามเรามาได้เลยค่ะ
เป็นหนี้เท่าไหร่ถึงโดนฟ้อง เบี้ยวหนี้ต้องโดนอะไร เครดิตเสียหรือไม่
• เบี้ยวหนี้บัตรเครดิต โดนทวงก่อนเลย เป็นอันดับแรก
ในการถูกทวงถามหนี้ และ เป็นหนี้เท่าไหร่ ถึงโดนฟ้อง ถือเป็นเรื่องที่ใคร ๆ คงได้เจอกันมาบ้างแล้ว ซึ่งอาจมาในรูปแบบทั้งข้อความ SMS หรือการโทรสอบถามอย่างสุภาพเรียบร้อย แต่ถึงกระนั้น คุณก็จะถูกทวงถาม แม้คุณอาจชำระช้าไปเพียงแค่วันเดียวเท่านั้น อีกทั้งยังไม่ได้คิดว่าจะเบี้ยวด้วยซ้ำไป แต่หากคุณคิดจะเบี้ยวจริง ๆ แล้วละก็ ในการเริ่มต้นทวงนี้ช่วงแรก ๆ นั้น ก็ยังเป็นการทวงแบบเบา ๆ อ่อนน้อม และสุภาพอยู่ แต่หากคุณเบี้ยวหลาย ๆครั้งเข้าแล้วนั้น คุณอาจโดนโทรจิกอยู่บ่อยครั้ง อาจทุกวัน ทุกชั่วโมง ก็เป็นได้เช่นกัน เพียงเท่านี้น ก็สามาถทำให้คุณทั้งปวดหัว และเครียดไปพร้อม ๆ กัน จากการทวงหนี้หนัก ๆ แบบนี้ หรือหนักหน่อย อาจทำให้คุณสติแตกเลยก็เป็นได้ ดังนั้นคุณอย่าเพิ่งไปถึงคำถามที่ว่า เป็นหนี้เท่าไหร่ ถึงโดนฟ้อง เพราะในแค่อันดับต้น ๆ นี้ คุณอาจรับมันไม่ไหวเป็น แน่ ๆ
• ประวัติเสีย เครดิตพัง สูญเสียโอกาสกู้เงินก้อนใหญ่
เป็นที่แน่นอนอยู่แล้วว่า เป็นหนี้เท่าไหร่ ถึงโดนฟ้อง เพราะไม่ว่าคุณจะจ่ายหนี้ หรือไม่มีเงินจ่าย โดยการเบี้ยงหนีไม่จ่ายเสียเฉย ๆ นั้น ประวัติเสีย ๆ เหล่านี้ของคุณนั้น จะถูกบันทึกเข้าระบบของธนาคารโดยอัตโนมัติ แต่นั่นไม่เพียงพอที่คุณต้องโดน เป็นหนี้เท่าไหร่ ถึงโดนฟ้อง แต่ข้อมูลเหล่านี้จะถูกส่งไปยังเครดิตบูโรเพื่อให้เก็บบันทึกไว้อีกด้วย โดยจะมีผลย้อนหลังไปถึง 36 งวด หรือ 3 ปีกันเลยทีเดียว ในยังมีในบางท่าน อาจไม่แคร์เรื่อง เป็นหนี้เท่าไหร่ ถึงโดนฟ้อง แต่เรื่องของอนาคต ไม่มีใครอาจรู้ได้ คุณอาจร้อนเงิน ต้องการใช้เงินอย่างฉุกเฉิน ต้องการกู้เงินด่วน หรือคุณอาจต้องการกู้เงินซื้อของชิ้นใหญ่ อย่างบ้าน รถ เป็นต้น แต่คุณรู้ไหมว่า จะไม่มีธนาคารไหนเลยที่กล้าอนุมัติวงเงินให้กับคุณ เนื่องจากว่า คุณมีทั้งประวัติจ่ายช้า ทั้งเบี้ยวหนี้อยู่นั่นเอง หรือคุณอาจจะเถียงอยู่ในใจว่า ก็ไปกู้แบงค์อื่น ที่คุณไม่เคยกู้มาก่อน พวกเขาเหล่านั้นอาจไม่รู้ว่าว่าคุณมีประวัติเสีย มีประวัติ เป็นหนี้เท่าไหร่ ถึงโดนฟ้อง คุณคิดผิดค่ะ เพราะมันส่งผลเป็นอย่างแน่นอน เพราะธนาคารทุกธนาคาร สามารถร้องขอไปยังเครดิตบูโร เพื่อดูรายการประวัติของคุณได้เช่นกัน
• เป็นหนี้เท่าไหร่ถึงโดนฟ้อง โดนฟ้องแน่ ๆ เตรียมตัวได้เลย
บางท่านอาจหมุนเงินไม่ทัน หรือในบางท่านอาจไม่มีเงินจ่ายจริง ๆ เลยติดสินใจเลือกที่จะเบี้ยวหนี้ไปเฉย ๆ โดยการไม่จ่ายเลยติดต่อกันเป็นเวลานานหลายเดือน เพราะเขาไม่รู้ว่าต้อง เป็นหนี้เท่าไหร่ ถึงโดนฟ้อง แม้พวกเขาเหล่านั้นจะโดนโทรทวงหนี้ทุกวัน แต่ก็ยังคงไม่จ่าย ดังนั้นในขั้นตอนไปคือ คุณต้องโดนฟ้องร้องเป็นแน่ และคุณเตรียมตัวรับหมายศาลเอาไว้ได้เลย โดยหมายศาล เป็นหนี้เท่าไหร่ ถึงโดนฟ้อง จะถูกส่งไปยังที่อยู่ตามทะเบียนบ้านปัจจุบันของคุณ หรืออาจเรียกได้ว่า ไปแขวนถึงประตูหน้าบ้านเลย ก็ว่าได้ โดยในหมายศาลนั้น จะระบุวันนัดไกล่เกลี่ยเอาไว้อย่างชัดเจนว่าคุณ เป็นหนี้เท่าไหร่ ถึงโดนฟ้อง แต่อย่างเพิ่งตกใจไปว่า คุณจะต้องติดคุกติดตาราง เพราะคดีหนี้บัตรเครดิตเป็นคดีแพ่ง ไม่มีโทษติดคุกเป็นอย่างแน่นอน แต่คุณต้องไปตามนัดไกล่เกลี่ยของศาล ห้ามผิดนัดศาลโดยเด็ดขาด โดยในวันไกล่เกลี่ยนั้น จะมีเจ้าหน้าที่จากธนาคารเจ้าหนี้มาทำการตกลงกับคุณ ด้วยการยื่นข้อเสนอต่าง ๆ ที่จะช่วยปลดหนี้ให้คุณง่ายขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการลดดอกเบี้ยทั้งหมด จ่ายแค่เงินต้น หรือ Haircut ลดจำนวนหนี้ให้เหลืออยู่เพียงบางส่วน เพื่อที่เรื่องจะหยุดอยู่ที่การไกล่เกลี่ย ไม่บานปลายใหญ่โต ไปจนถึงชั้นศาล
เบี้ยวหนี้บัตรเครดิต ถูกยึดทรัพย์ ถูกอายัดเงิน ถูกฟ้องล้มละบาย
• ถูกยึดทรัพย์ ถูกอายัดเงิน จริงหรือไม่
รู้ไหมว่า หากคุณมีนิสัยเบี้ยวหนี้เป็นประจำ และยังเบี้ยวไม่ไปตามหนัดไกล่เกลี่ย เป็นหนี้เท่าไหร่ ถึงโดนฟ้อง เมื่อเรื่องส่งฟ้องศาลแล้วนั้น เป็นที่แน่นอนว่า คุณไม่มีทางชนะได้ เพราะหลังจากที่ศาลตัดสินคดีสิ้นสุดลงแล้ว และหากคุณไม่มาชำระหนี้ทั้งหมดภายใน 30 วัน คุณจะถูกศาลสั่งบังคับคดียึดทรัพย์ และอายัดเงินเดือนเพื่อชดใช้หนี้ให้แก่เจ้าหนี้ คุณต้องถูกอายัดเงินเดือนไปจนกว่าจะครบตามจำนวน ทั้งต้นและดอกเบี้ย แต่หากคุณมีเงินเดือนไม่ถึง 20,000 บาท หรือเป็นข้าราชการ โชคอาจเข้าข้างคุณ ไม่ต้องถูกบังคับคดี เป็นหนี้เท่าไหร่ ถึงโดนฟ้อง หรือถูกอายัดเงินเดือน แต่เงินรายได้อื่น ๆ อาจต้องถูกอายัดไป รวมไปถึงการยึดทรัพย์ด้วย แต่ในรายละเอียดว่าคุณต้องถูกยึดทรัพย์อะไรบ้างนั้น ต้องไปดูจากบทความที่เราเคยบอกไปแล้ว แม้ว่าคดีหนี้บัตรเครดิต จะเป็นคดีแพ่ง ไม่ต้องติดคุกติดตาราง แต่หากคุณเบี้ยวหนี้ ไม่ยอมจ่ายนั้น จะมีปัญหามากมายจะตามมาถึงตัวคุณ โดยจะส่งผลเสียให้กับชีวิตคุณไปอีกยาวนาน ดังนั้น ควรใช้บัตรเครดิตอย่างมีสติ และใช้วงเงินบัตรเครดิตเท่าที่คุณมีความสามารถจะคืนได้ ถือว่าเป็นการกันไว้ดีกว่าแก้ เพราะเมื่อถึงเวลานั้นแล้ว คุณอาจต้องปวดหัวเป็นอย่างมาก
• ถึงขั้นฟ้องล้มละลายไหม ต้องทำอย่างไร
กรณีที่คุณถูกฟ้องคดี เป็นหนี้เท่าไหร่ ถึงโดนฟ้อง ศาลจะทำการพิจารณาสืบพยานหลักฐานให้ได้ความจริง จากนั้นศาลจะมีคำสั่ง “พิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาดลูกหนี้” เมื่อศาลมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์แล้ว นี่ถือเป็นเพียงแค่การเริ่มต้นของคดีล้มละลาย โดยที่ศาลยังไม่ได้มีคำพิพากษาให้ลูกหนี้ล้มละลายในทันที และในกรณีนี้ หากลูกหนี้ที่รับราชการ ลูกหนี้ยังไม่ขาดคุณสมบัติการเป็นข้าราชการ และยังคงรับราชการต่อไปได้ จนกว่าศาลจะพิพากษาให้ล้มละลาย และเมื่อศาลมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์ลูกหนี้ ไม่ว่าจะกรณีพิทักษ์ทรัพย์ชั่วคราว หรือเด็ดขาด ศาลจะทำการส่งหมายแจ้งคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์ ให้ทางเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ทราบ โดยตามกฎหมายล้มละลาย บุคคลที่เข่าข่ายฟ้องล้มลายได้นั้น คือ หากเป็นกรณีบุคคลธรรมดา มีหนี้สินเกิน 1 ล้านบาท แต่หากเป็นนิติบุคคคล มีหนี้เกิน 2ล้านบาท หรือผู้ที่เข้าข่ายว่า “มีหนี้สินล้นพ้นตัว” และไม่มีความสามารถที่จะชำระหนี้ได้ ซึ่งหลายคนอาจสงสัยว่า “ล้มละลาย” แล้ว จะทำให้ชีวิตเราเปลี่ยนแปลงอย่างไร เราบอกคุณได้ว่า คุณจะไม่สามารถทำนิติกรรม หรือสัญญาใด ๆ ได้ทั้งสิ้น ทั้งนี้ยังรวมไปถึงธุรกรรมทางการเงินต่าง ๆ แม้เพียงแค่เปิดบัญชีธนาคารง่าย ๆ คุณก็ไม่สามารถทำได้ ไม่สามารถดำรงตำแหน่งใด ๆ ในบริษัทหรือห้างร้านได้ แต่หากมีความจำเป็น ก็ต้องได้รับอนุญาตจากศาลเสียก่อน และเป็นที่แน่นอนอยู่แล้วว่า คุณไม่สามารถรับราชการได้ หรือหากเป็นอยู่ คุณต้องถูกออกจากราชการ หรือหากเป็นพนักงานบริษัท และในเงื่อนไขมีระบุไว้ว่า พนักงานต้องไม่เป็นบุคคลล้มละลาย คุณอาจต้องถูกออกจากงานเช่นเดียวกัน สามารถติดตามบทความเพิ่มเติมได้ ที่นี่..
