20 มือถือถ่ายรูปสวย ที่คนรักการถ่ายรูปต้องมี

 

ทุกวันนี้เรามีโทรศัพท์มือถือที่มีฟังก์ชั่นการทำงานสุดล้ำ สามารถทำอะไรได้หลายอย่างเพียงแค่มีมือถือเครื่องเดียว โดยเฉพาะอย่างยิ่งฟังก์ชั่นยอดนิยมอย่างกล้องถ่ายรูปที่ช่วยให้คุณถ่ายรูปได้อย่างสวยงามทุกที่ทุกเวลาที่ต้องการโดยไม่จำเป็นต้องเสียเงินซื้อกล้องถ่ายรูปแพง ๆ และต้องพกกล้องใหญ่ ๆ ไปไหนมาไหนให้เกะกะ ซึ่ง มือถือถ่ายรูปสวย ที่คนรักการถ่ายรูปต้องมี ประกอบไปด้วยแบรนด์และรุ่นดังต่อไปนี้

 

1. Huawei P30 Pro กล้องหลัก 40 MP และกล้องหลัง 4 เลนส์ความละเอียด 32 MP ซูมได้ถึง 50 เท่า

ข้อดี : สมาร์ทโฟนกล้องเทพที่มาพร้อมโหมดในการถ่ายรูปมากมาย มีระบบ AI HDR+ ที่ช่วยให้คุณถ่ายภาพออกมาได้ดูดียิ่งขึ้น ถ่ายภาพกลางคืนหรือในช่วงที่มีแสงน้อยได้อย่างสวยงาม

ข้อเสีย : กล้องหน้าถ่ายภาพความชัดระดับ 4K ไม่ได้

2. Samsung Galaxy S10 กล้องถ่ายรูป 5 ตัว กล้องหน้า 2 เลนส์ ความละเอียด 8 และ 10 ล้าน Pixels กล้องหลัง 3 เลนส์ แบบ Triple Camera ความละเอียด 12,12 และ 16 MP

ข้อดี : มีระบบ  Scene Optimizer ซึ่งเป็น AI ช่วยวิเคราะห์ภาพจากกล้องแล้วทำการตั้งค่าให้เหมาะสม ซึ่งเป็นฟีเจอร์ในการใช้งานของกล้องที่สามารถใช้งานได้ง่ายและถ่ายภาพออกมาได้สวยงาม มีระบบป้องกันการสั่นที่ยอดเยี่ยม

ข้อเสีย : ฟังก์ชั่นถ่ายวีดีโอแบบ 4K ยังมีปัญหาภาพไม่ชัดบ้าง

3. Samsung Galaxy Note 9 กล้องหลัง 12 MP กล้องหน้า 8 MP ซูมได้ 2 เท่า

ข้อดี : มีระบบ AI ที่ช่วยให้ถ่ายภาพได้ง่ายและสวยงามยิ่งขึ้น สามารถแจ้งเตือนจุดบกพร่องของภาพได้ สั่งการถ่ายภาพผ่านปากการีโมทในระยะห่างมากสุดได้ถึง 10 เมตร

ข้อเสีย : โหมด Live focus สำหรับถ่ายภาพหน้าชัดหลังเบลอ ใช้งานค่อนข้างยากและภาพออกมายังดูไม่เนียน

4. Xiaomi Mi 8 กล้องหน้าความละเอียด 20 MP กล้องหลังคู่ความละเอียด 12,12 MP ซูมได้ 2 เท่า รูรับแสงกว้างสุด f/8 มีระบบกันสั่นที่ช่วยให้ถ่ายภาพได้คมชัด

ข้อดี : มีระบบ AI Dual Camera ที่สามารถประมวลผลสภาพแวดล้อมในการถ่ายรูปพร้อมทั้งปรับสีให้เหมาะสมโดยอัตโนมัติ สามารถซูมได้โดยไม่เสียความคมชัด มี Mode ในการถ่ายภาพมากมายให้เลือกได้อย่างจุใจ สามารถถ่ายวีดีโอได้ละเอียดถึงระดับ 4K และถ่ายวีดีโอสโลว์โมชั่น frame rate สูงสุด 240 fps

ข้อเสีย : ระบบกันสั่นยังทำงานได้ไม่ค่อยดีนัก

5. Samsung Galaxy S9+ กล้องหน้าความละเอียด 8MP รูรับแสง 7 กล้องหลังความละเอียด 12MP รูรับแสง F1.5/F2.4 ถ่ายวีดีโอที่ความละเอียด 4K  frame rate สูงสุด 60 fps

ข้อดี : เป็น มือถือถ่ายรูปสวย  ที่มีฟีเจอร์ live focus ที่ช่วยในการถ่ายภาพหนาชัดหลังเบลอให้ออกมาดูดียิ่งขึ้น สามารถถ่ายภาพ 1 shot ได้ 2 รูปทั้งมุมแคบและมุมกว้าง รูรับแสงแบบ Dual Aperture ที่ช่วยให้ถ่ายภาพบริเวณที่มีแสงน้อยให้ออกมาคมชัด สว่างพร้อมด้วยฟีเจอร์ใหม่ Super – speed Dual Pixel  ที่ช่วยให้การถ่ายภาพเคลื่อนไหวเป็นไปอย่างชัดเจน

ข้อเสีย : การถ่ายภาพหน้าชัดหลังเบลอยังทำได้ไม่เนียนในบางครั้ง

6. Google Pixel 3 กล้องหน้าคู่ ความละเอียด 8 MP (f/1.8) , 8MP (f/2.2) กล้องหลัง ความละเอียด 12 MP (f/1.8)

ข้อดี : มีจุดเด่นในเรื่องของการถ่ายภาพในพื้นที่ที่มีแสงน้อยออกมาได้สวยงามคมชัด มี Top Shot Mode ที่ให้ผู้ใช้สามารถเลือกรูปที่ดีที่สุด ฟีเจอร์ Portrait และ Group Selfies ที่ใช้งานได้ดีมาก ถ่ายภาพออกมาได้คมชัดและปรับความกว้างของภาพได้

ข้อเสีย : ซูมภาพแล้วยังไม่ค่อยชัด มีเบลอๆเล็กน้อย

7. Honor 20 Pro กล้องหลัง Quad Camera 4 ตัว ความละเอียดหลัก 48 MP F/4,16 MP Super Wide Angle,8 MP แบบ Telephoto,2 MP แบบ Macro กล้องหน้า ความละเอียด 32 MP

ข้อดี : สเปคกล้องจัดเต็ม รองรับการใช้งานทุกรูปแบบ พร้อมด้วย AI function ที่ช่วยให้ถ่ายรูปสวยๆออกมาได้ง่ายยิ่งขึ้น

ข้อเสีย : มีรายงานว่ากล้องถ่าย macro ยังถ่ายออกมาได้ไม่ดีนัก

8. Samsung Galaxy S8 กล้องหลัง ความละเอียด 12 MP F/7 และ F/2.4 กล้องหน้า ความละเอียด 8 MP F/1.7

ข้อดี : กล้องหน้ามีระบบ auto focus ที่ช่วยให้ถ่ายรูปได้ง่ายขึ้นและสวยงามคมชัด ถ่ายสวยแม้อยู่ในที่แสงน้อย มีระบบจับการเคลื่อนไหวที่ทำให้ถ่ายภาพเคลื่อนไหวได้ชัดเจนมากขึ้น มีโหมดมือโปรที่สามารถปรับการตั้งค่าได้ถึง 6 ค่า พร้อมด้วยฟีเจอร์การใช้งานกล้องที่ครบครัน

ข้อเสีย : โหมดปรับภาพเบลอด้านหลังยังทำงานไม่สมบูรณ์ในบางครั้ง

9. IPhone XR กล้องหลังความละเอียด 12 MP พร้อมระบบ Auto Focus และ Smart HDR กล้องหน้าความละเอียด 7 MP

ข้อดี : มีฟีเจอร์ Depth Control ที่สามารถควบคุมระยะชัดลึกได้ตามที่ต้องการ สามารถถ่ายภาพ Portrait ให้มีโบเก้สวยงามได้ ปรับแสงได้ 3 รูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นแสงธรรมชาติ,แสงไฟคอนทัวร์ และแสงไฟสตูดิโอ ถ่ายภาพในที่แสงน้อยออกมาได้สวย

ข้อเสีย : ฟังก์ชั่นทำภาพเบลอยังทำได้ไม่ค่อยดีนัก

10. Huawei Mate 20 Pro กล้องหลังแบบ Leica Triple camera ความละเอียด 40 MP F/1.8,20 MP F/2.2, 8 MP Telephoto F/2.4

ข้อดี : มีระบบ auto focus ที่ทำให้ถ่ายภาพได้คมชัด มีระบบป้องกันภาพสั่นที่ทำให้ถ่ายภาพได้ง่ายยิ่งขึ้น มีฟีเจอร์ในการถ่ายภาพที่ครบถ้วนตามความต้องการ โหมดหน้าชัดหลังเบลอทำได้ดีมาก ๆ

ข้อเสีย : ยังไม่มีรายงาน

11. Huawei Mate 10 Pro กล้องหลัง แบบMonochrome ความละเอียด 20 MP F/1.6, 12 MP F/1.6 4K video recording กล้องหน้า 8 MP F/2.0

ข้อดี : มีฟังก์ชั่น AI ที่ช่วยให้การถ่ายภาพง่ายขึ้น แม้คนที่ถ่ายรูปไม่เก่งก็สามารถถ่ายออกมาให้สวยได้ โหมด Auto สามารถประมวลผลสภาพแวดล้อมและปรับภาพให้ออกมาพอเหมาะ ระบบกันสั่นทำงานได้ดีมาก เดินไปถ่ายรูปไปไม่เบลอ

ข้อเสีย : โหมดซูมในการถ่ายวีดีโอยังไม่ค่อยชัดเจนเมื่อเทียบกับสมาร์ทโฟนแบรนด์อื่น ๆ

12. Xiaomi Mi MIX 3 กล้องหลังเลนส์คู่ความละเอียด 12MP F/1.8 Dual Pixel ,12MP F1/3.4 กล้องหน้าเลนส์คู่ความละเอียด 24MPF1/2.8, 2 MP

ข้อดี : ความสามารถของกล้องทำให้ถ่ายภาพออกมาได้อย่างคมชัดสวยงาม ระบบ AI ช่วยในการปรับสี,ปรับแสง ทำให้ถ่ายภาพสวย ๆ ออกมาได้ง่ายขึ้น ไม่ว่าจะเป็น AI scene recognition ที่ช่วยในการปรับสภาพแวดล้อมหรือ AI Beautify ที่ช่วยแต่งภาพใบหน้าให้ออกมาดูดียิ่งขึ้น ถ่ายย้อนแสงได้สวย

ข้อเสีย : ยังไม่มีรายงาน

13. OnePlus 7 Pro กล้องหลังแบบ Triple Camera ความละเอียด 48 MP F/1.6, Telephoto ความละเอียด 8 MP F/2.4,Ultra Wide Angle ความละเอียด 16 MP F/2.2 กล้องหน้าความละเอียด 16 MP F/2.0

ข้อดี : กล้องหน้าสามารถเลื่อนขึ้นลงได้โดยอัตโนมัติ การใช้งานกล้อง Telephoto มีระบบป้องกันการสั่นไหวทำให้สามารถซูมและถ่ายภาพได้อย่างคมชัด เก็บรายละเอียดของภาพได้อย่างยอดเยี่ยม มีเลนส์ Ultra Wide Angle ที่สามารถเก็บภาพมุมกว้างได้ครบถ้วนสมบูรณ์

ข้อเสีย : หากเปิดใช้โหมด Nightscape จะไม่สามารถใช้เลนส์ Ultra wide ได้

14. IPhone XS Max กล้องหลังแบบ Dual-Camera ความละเอียด 12+12 MP กล้องหน้าแบบ TrueDepth ความละเอียด 7 กล้องหน้าแบบ TrueDepth ความละเอียด 7 MP

ข้อดี : มีการปรับปรุงเลนส์ให้สามารถถ่ายภาพได้คมชัดและสว่างมากขึ้น มีฟีเจอร์กล้องที่รองรับการถ่ายภาพได้ทุกแบบ สามารถปรับระยะชัดลึกชัดตื้นได้อย่างใจ ทำให้การถ่ายภาพหน้าชัดหลังเบลอออกมาดูเนียนมาก

ข้อเสีย : กล้องหน้ามีมุมค่อนข้างแคบ โหมด Beauty ยังทำงานได้ไม่ค่อยดีนัก

15. Sony Xperia 1 กล้อง 3 ตัว ความละเอียด 12 MP เท่ากันทั้งหมด แบ่งออกเป็นเลนส์ 12 mm สำหรับการถ่ายภาพมุมกว้าง เลนส์ 26 mm สำหรับการถ่ายภาพทั่วไปและเลนส์ 52 mm สำหรับซูมภาพ

ข้อดี : สเปคกล้องเทพที่ได้รับการปรับปรุงให้ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด มีโหมดการถ่ายภาพแบบโปรที่ทำให้สามารถถ่ายภาพสวย ๆ ได้ง่ายขึ้น ถ่ายภาพในเวลากลางคืนหรือที่ที่มีแสงน้อยได้สวยงามคมชัด สามารถปรับลากชัตเตอร์ให้ยาวขึ้นได้

ข้อเสีย : ระบบจัดแสงอาจมีปัญหาในบางครั้งทำให้แสงออกมาเพี้ยน ภาพเบลอด้านหลังยังทำได้ไม่ค่อยเนียน

16. HTC U12+ กล้องคู่แบบ Dual cam ความละเอียด 12+16 MP Wide F1.75 + Tele F2.6

ข้อดี : กล้องถ่ายรูปของ HTC U12+ ได้รับคะแนน BxOmark ซึ่งเป็นผู้จัดอันดับกล้องบนสมาร์ทโฟนในส่วนของกล้องหลังที่ดีที่สุด มีโหมดการถ่ายรูปมากมายให้เลือกใช้ได้อย่างจุใจ ซูมภาพได้2 เท่าโดยไม่แตก

ข้อเสีย : ฟีเจอร์ของกล้องหน้ายังถือว่าอยู่ในระดับธรรมดาเมื่อเทียบกับกล้องหน้าสมาร์ทโฟนแบรนด์อื่น

17. IPhone 8 Plus กล้องหลัง ความละเอียด 12MP กล้องหน้า FaceTime HD ขนาด 7 MP รูรับแสงกล้อง Wide F/1.8 กล้อง Tele F/2.8

ข้อดี : iPhone 8 Plus เป็น มือถือถ่ายรูปสวย ยังคงใช้ฟีเจอร์ Focus pixel ที่ผู้ใช้สามารถโฟกัสภาพได้อย่างรวดเร็วและต่อเนื่องซึ่งเป็นฟังก์ชั่นที่ผู้ใช้ชื่นชอบและขาดไม่ได้ สามารถถ่ายภาพแบบเคลื่อนไหว Live Photo ได้อย่างสวยงามคมชัด มี True Tone flash ที่ทำให้ภาพออกมาดูเป็นธรรมชาติมากขึ้น

ข้อเสีย : ฟังก์ชั่น Stage Light ที่ตัดภาพพื้นหลังออกยังทำงานได้ไม่สมบูรณ์นัก

18. Moto G6 กล้องหลังคู่ความละเอียด 12 MP F/8  + 5 MP F/2.2  กล้องหน้าความละเอียด  8 MP F/2.2

ข้อดี : โหมดการถ่ายภาพมีทั้งฟังก์ชั่นอัตโนมัติและโหมด Manual มีฟังก์ชั่นถ่ายภาพ Selfie ที่มี Face filters ทำออกมาได้ดีช่วยเพิ่มความสนุกในการถ่ายภาพได้มากยิ่งขึ้น  มีลูกเล่นในการใส่ภาพฉากหลังได้เองโดยใช้ software ช่วยในการตัดฉากหลังที่ไม่ต้องการออกไป ถ่ายได้สวยแม้ในที่มืดและสภาพแสงน้อย

ข้อเสีย : ฟังก์ชั่น Beauty Mode ยังทำได้ดีน้อยกว่าสมาร์ทโฟนหลายแบรนด์

19. OPPO A7 กล้องหลังระบบ Dual Camera ความละเอียด 13 + 2 MP กล้องหน้าความละเอียด 16 MP

ข้อดี : โหมดการถ่ายภาพที่ครบครันกับความต้องการทั้ง Beauty mode และ Portrait ที่ใช้ในการถ่ายภาพหน้าชัดหลังเบลอ สามารถปรับภาพให้สว่างมากขึ้น ฟังก์ชัน Depth Effect ที่ช่วยประมวลผลความตื้นลึกให้ถ่ายภาพออกมาสวยคมชัดยิ่งขึ้น มี AR Sticker  ที่ช่วยเพิ่มลูกเล่นและความสนุกสนานในการถ่ายภาพมากขึ้น

ข้อเสีย : ยังไม่มีรายงาน

20. OPPO F11 กล้องหลังแบบ Dual camera ความละเอียด 48 MP F/1.79 กล้องหน้า ความละเอียด 16 MP F/2.0

ข้อดี : กล้องหน้าเป็นแบบเลื่อนอัตโนมัติ เพิ่มความสะดวกในการใช้งาน มีเลนส์ 6 ชิ้นที่ช่วยทำให้ถ่ายภาพออกมาได้สวยงามคมชัดมากยิ่งขึ้น รูรับแสงขนาดใหญ่ที่ทำให้ถ่ายภาพในที่มืดหรือในที่แสงน้อยได้ดี ฟีเจอร์ Portrait Mode ที่สามารถจับใบหน้าได้แม่นยำและละลายฉากหลังได้เนียนตาพร้อมด้วย Depth Sensor ที่ช่วยจับความลึกตื้นของภาพได้แม่นยำทำให้ถ่ายภาพออกมาได้สวยคมชัดมาก ๆ

ข้อเสีย : แม้ว่ากล้องหน้าจะเป็นระบบเลื่อนอัตโนมัติที่จะเลื่อนออกมาเมื่อมีการใช้งานแต่ก็ยังมีฝุ่นจับหน้ากล้องซึ่งทำให้ต้องคอยเช็ดทำความสะอาดอยู่บ่อย ๆ

 

20 มือถือถ่ายรูปสวย ดังที่เราได้แนะนำไปข้างต้นนี้ คนที่ชอบถ่ายรูปสามารถนำไปใช้เป็นแนวทางในการหาโทรศัพท์มือถือที่ตอบโจทย์การใช้งานได้อย่างที่ต้องการ

 

 

More To Explore

แอร์ 4 ทิศทาง ยี่ห้อไหนดี
cheapgps