10 ข้อดี-ข้อเสีย ของการนำเงินจาก แหล่งเงินกู้ มาทำธุรกิจที่เจ้าของกิจการต้องรู้

การมีสินเชื่อนั้นมีทั้งข้อดีข้อเสีย บางคนอาจจะเห็นข้อดีของสินเชื่อที่ได้มาจากการกู้เงินหลายข้อแต่ก็ลืมไปว่าเงินที่ได้มาจากการดูนั้นก็มีข้อเสียเช่นเดียวกัน แต่บางคนอาจจะเห็นเพียงแค่ข้อเสียของการกู้เงินทำให้ไม่กล้าที่จะกู้เงินจากสถาบันการเงินทั้งๆ ที่การกู้เงินนั้นก็มีข้อดีหลายข้อที่ทำให้เจ้าของกิจการสามารถดำเนินธุรกิจได้ง่ายขึ้น แล้วคุณล่ะมองเห็นข้อดีหรือข้อเสียของ แหล่งเงินกู้ มากกว่ากัน? ถ้าคิดไม่ออกเรามาดูดีกว่าว่าข้อดีและข้อเสียของการกู้เงินนั้นมีอะไรบ้าง?

 

 

10 ข้อดีของการนำเงินจาก แหล่งเงินกู้ มาทำธุรกิจที่เจ้าของกิจการต้องรู้

  • มีเงินมาหมุนเวียนในกิจการทำให้จัดการได้ง่ายขึ้นหรือเป็นการเพิ่มสภาพคล่องให้กับธุรกิจได้

ธุรกิจหลายประเภทไม่สามารถดำเนินกิจการต่อไปได้ เพราะขาดสภาพคล่องในการดำเนินธุรกิจ บางธุรกิจถึงขั้นปิดตัวลงไปอย่างถาวร บางธุรกิจจะต้องดำเนินการอย่างทุลักทุเล แต่การมีสินเชื่อมาหมุนเวียนนั้นก็เป็นอีกทางหนึ่งที่ทำให้ธุรกิจอยู่รอดต่อไปได้

  • สามารถขยายธุรกิจให้เติบโตขึ้นได้กว่าเดิม

กรณีที่เจ้าของธุรกิจมีการดำเนินกิจการมาก่อนอยู่แล้ว แล้วต้องการให้ธุรกิจของตนเองเติบโตมากกว่าที่เป็นอยู่ก็สามารถขอกู้เงินมาช่วยขยายกิจการของตนเองให้เติบโตมากขึ้นได้ เพราะบางธุรกิจนั้นมีความจำเป็นในการใช้เงินเป็นปัจจัยในการขยายกิจการ เช่น การส่งออก จะต้องใช้เงินสำรองเพื่อส่งออกสินค้าไปยังประเทศลูกค้าให้มากขึ้น ซึ่งมีความจำเป็นต้องใช้เงินมากขึ้น หากมีเงินมาหนุนสำรองก่อนได้ก็ทำให้โอกาสเพิ่มรายได้มากขึ้นนั่นเอง

  • เจ้าของธุรกิจมีเพียงหลักประกันสินเชื่อก็สามารถเริ่มทำธุรกิจได้

บางกรณีที่เจ้าของธุรกิจเริ่มต้นด้วยการใช้แรงของตนเองแล้วต้องการสร้างธุรกิจให้มีความมั่นคงได้ เพียงแค่ใช้แรงและความสามารถของตัวเองอาจจะไม่พอ แต่ต้องมีเงินทุนในการเปิดกิจการให้เป็นกิจจะลักษณะ โดยเจ้าของธุรกิจสามารถขอกู้สินเชื่อโดยไม่ต้องรอเก็บเงินมาลงทุนเพื่อให้ทันต่อคู่แข่งและทันต่อความต้องการของลูกค้า

  • การขอสินเชื่อจะช่วยให้ผู้ที่ยื่นขอสินเชื่อสามารถนำเงินที่ได้รับไปใช้จ่ายได้

เช่น สินเชื่อบ้าน เป็นสินเชื่อที่มีเงื่อนไขว่าผู้กู้จะต้องนำเงินไปชำระค่าผ่อนบ้าน โดยหากผ่อนบ้านได้แล้วในขณะเดียวกันบ้านหลัวนั้นก็เป็นบ้านที่มีคนเช่าอยู่ด้วย ก็จะทำให้ผู้กู้มีเงินไปชำระค่าผ่อนบ้านแล้วยังได้กำไรจากการให้เช่าบ้านอีกด้วย ซึ่งถือว่าเป็นการทำธุรกิจแบบในนามบุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคลก็ได้

  • หลังจากกู้เงินมาแล้วเจ้าของธุรกิจสามารถผ่อนชำระได้เป็นงวดๆได้

โดยสถาบันการเงินจะเป็นผู้กำหนดระยะเวลาการผ่อน ซึ่งขึ้นอยู่กับราคาของสินค้านั้นๆ รวมถึงการกำหนดจำนวนชำระในแต่ละงวด เช่น ชำระหนี้ทุกเดือน บางสถาบันการเงินอาจกำหนดให้ชำระทุก 3 เดือน หรือ 6 เดือน ซึ่งทำให้เจ้าของธุรกิจสามารถมีเวลาไปหารายได้ ไม่ต้องเร่งรีบเพื่อชำระหนี้ก้อนโตทีเดียว แล้วยังเป็นการช่วยลดความกดดันในการชำระหนี้ แล้วยังให้วางแผนการเงินได้ง่ายขึ้น

  • ทำให้เจ้าของธุรกิจสามารถควบคุมค่าใช้จ่ายได้ในแต่ละเดือนได้ง่าย

เนื่องจากค่าชำระเงินต้นและดอกเบี้ยของการกู้เงินในแต่ละเดือนจะเท่ากันทุกเดือนและทราบอยู่แล้วว่าจะต้องชำระเงินให้กับสถาบันการเงินที่กู้เงินมานั้นในจำนวนเท่าไหร่นั่นเอง ทำให้เวลาเจ้าของธุรกิจวางแผนรายรับรายจ่ายของธุรกิจก็สามารถทำได้ง่ายและทราบข้อมูลในการชำระที่แน่นอนอยู่แล้ว

  • หากชำระหนี้ได้ตรงตามเวลาที่กำหนดจะได้เป็นลูกค้าชั้นดีของสถาบันการเงิน

แล้วหากคุณมีรายรับที่หมุนเวียนได้ดีอีกก็จะทำให้คุณขอสินเชื่อตัวอื่นได้ง่ายขึ้น ซึ่งถือว่าเป็นการเพิ่มสภาพคล่องให้กับตัวเองได้เป็นอย่างดี โดยการเป็นลูกค้าชั้นดีของสถาบันการเงินนั้นอาจได้รับสิทธิพิเศษมากกว่าที่คุณคิด เช่น คุณสามารถขอกู้เงินจากธนาคารได้ง่ายกว่าคนอื่น หรืออาจขอกู้เงินก้อนโตกว่าคนอื่นได้เพราะมีประวัติการชำระหนี้ที่ดีและมีสภาพคล่องที่ดีนั่นเอง

  • หากนำเงินมาปิดหนี้ก้อนเก่าได้ก็จะทำให้หนี้ลดลงได้

การมีหนี้ก้อนเก่าอยู่แล้วจะทำให้เจ้าของธุรกิจดำเนินกิจการได้ยากขึ้น เพราะจะต้องมีเรื่องการชำระหนี้มาให้ปวดหัวอยู่บ่อยๆ แล้วยังทำให้ไม่สามารถกู้เงินก้อนใหม่ได้ หากไม่สามารถปิดหนี้เงินก่อนเก่าให้หมดไป ฉะนั้นการนำเงินมาปิดหนี้ก้อนเก่าได้ก็ถือว่าเป็นการเพิ่มความน่าเชื่อถือและเป็นการเพิ่มสภาพคล่องให้กับเจ้าของธุรกิจได้อีกทางหนึ่งเช่นเดียวกัน

  • สินเชื่อบางประเภทมีโปรโมชั่นให้กับผู้ถือบัตรหรือผู้ที่มีสินเชื่อ

ทำให้ได้สิทธิประโยชน์มากกว่าคนอื่น ตัวอย่างเช่น เจ้าของธุรกิจบางคนขอสินเชื่อเป็นบัตรเครดิตสามารถใช้ประโยชน์จากโปรโมชั่นของบัตรเครดิตได้ เช่น สามารถใช้บริการเลาจ์รองรับแขกที่ทางธนาคารกำหนดเอาไว้ ซึ่งการทำธุรกิจบางครั้งจำเป็นต้องใช้ความน่าเชื่อถือและการใช้บริการสถานที่ที่ดูน่าเชื่อถือนั้นก็เป็นภาพลักษณ์ที่ดีให้กับเจ้าของธุรกิจด้วย

  • มีเงินสำรองเอาไว้ใช้จ่ายในยามที่ฉุกเฉิน

เราไม่มีวันทราบได้ว่าเมื่อไหร่ที่ธุรกิจจะมีปัญหาแล้วในการแก้ไขปัญหานั้นจะต้องใช้เงินจำนวนเท่าไหร่ บางครั้งปัญหาที่เกิดขึ้นไม่สามารถแก้ไขโดยใช้แรงงานหรือเวลาในการแก้ไขเท่านั้นแต่จำเป็นต้องใช้เงินเพื่อจบปัญหานั้นไป แล้วแน่นอนว่าการมีเงินสำรองเอาไว้ใช้ในยามฉุกเฉินก็จะเป็นอีกวิธีหนึ่งที่ทำให้ธุรกิจอยู่รอดต่อไปได้

 

10 ข้อเสียของการนำเงินจาก แหล่งเงินกู้ มาทำธุรกิจที่เจ้าของกิจการต้องรู้

  • ในการกู้เงินจากแหล่งกู้เงินนั้นต้องหาทรัพย์สินมาค้ำประกัน

ทำให้เสี่ยงต่อการถูกยึดในอนาคตได้ ซึ่งหลังจากที่ทำสินเชื่อหรือกู้เงินมาเป็นที่เรียบร้อยแล้วนั้นสิ่งที่คุณจะต้องทำก็คือการดำเนินธุรกิจให้เป็นไปตามเป้าหมายให้ได้มากที่สุดเพื่อมีสภาพคล่องที่ดีในการชำระหนี้ เจ้าของธุรกิจบางคนนำเอาโฉนดที่ดินบ้านของตัวเองมาใช้ในการกู้เงิน หากในอนาคตไม่สามารถใช้หนี้ตามที่กำหนดได้บ้านหลังบ้านก็จะโดนยึดไปพร้อมกับที่ดินซึ่งถืวอ่าน่าเสียดายมาก เพราะบ้านและที่ดินที่ถูกยึดไปนั้นมีมูลค่าที่เพิ่มในอนาคตได้

  • หากขอเงินกู้มาแล้วเจ้าของธุรกิจไม่สามารถดำเนินธุรกิจให้เป็นดังหวัง

หรืออยู่ภายในเป้าหมายที่กำหนดได้ก็อาจทำให้ถึงขั้นล้มละลายหรือติดแบล็คลิสต์ได้ เพราะการดำเนินธุรกิจนั้นจะต้องสร้างรายได้ที่มากพอที่จะนำเงินไปชำระดอกเบี้ยละเงินต้นที่กู้มาจากสถาบันการเงินนั่นเอง หากเงินจำนวนนั้นไม่เพียงพอก็จะทำให้ธุรกิจไม่มีกำไรหรืออาจขาดทุนจนไม่มีเงินไปใช้หนี้ได้

  • เมื่อกู้เงินมาแล้วนั่นหมายความว่าเจ้าของธุรกิจต้องยอมจ่ายดอกเบี้ย

ซึ่งทำให้ได้กำไรน้อยลง แทนที่จะได้กำไร 100% แต่พอหักค่าใช้จ่ายที่จะต้องนำไปใช้หนี้นั้นกำไรที่ได้อาจเหลือเพียงแค่ 30% – 50% เท่านั้น ฉะนั้นในการกู้เงินจากสถาบันการเงินออกมาแล้วจะต้องยอมรับด้วยว่าจะต้องมีการผ่อนชำระบัตรเครดิตหรือสินเชื่อ โดยเงินที่ได้มานั้นจะต้องถูกหักออกไปเป็นค่าใช้จ่ายสำหรับการชำระหนี้ด้วย ซึ่งอาจทำให้เจ้าของธุรกิจต้องทำงานหนักเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัวเพื่อให้ได้กำไรมาหล่อเลี้ยงธุรกิจและลูกจ้างให้ไปต่อได้

  • หากคุณสมบัติของผู้กู้ไม่เข้าหลักเกณฑ์ของสถาบันการเงินก็จะถูกปฎิเสธจากสถาบันการเงิน

และอาจจะทำให้ไม่สามารถขอสินเชื่อกับสถาบันการเงินนั้นๆ ได้โดยเฉพาะสินเชื่อประเภทบุคคลที่เรารู้จักกันเป็นอย่างดี เช่น หากผู้มีบัตรเครดิตหรือบัตรกดเงินสดไม่ชำระหนี้ตามที่กำหนดแล้วติดชื่อเครดิตบูโรนั้นก็จะทำให้ไม่สามารถสมัครบัตรอื่นได้หรืออาจจะขอสินเชื่อรปะเภทอื่นๆ ไม่ได้อีกเลย

  • เนื่องจากแต่ละสถาบันการเงินจะมีอัตราดอกเบี้ยที่ไม่เท่ากัน

ทำให้ผู้ที่ต้องการขอสินเชื่อต้องทำการตรวจสอบก่อนทำการขอสินเชื่อกับสถาบันการเงินก่อนเสมอ บางธนาคารอาจมีดอกเบี้ยที่สูงกว่ากันแต่เมื่เทียบประโยชน์และเงินต้นที่ได้จากการกู้นั้นเท่ากับจำนวนเงินที่ไปขอกับธนาคารอื่น ซึ่งในขณะเดียวกันบางธนาคารอาจมีดอกเบี้ยที่ถูกกว่า ซึ่งทำให้ผู้กู้ผ่อนจ่ายได้ง่ายกว่าก็ได้

  • เจ้าของธุรกิจจะต้องเสียค่าปรับที่สูงในกรณีที่ค้างชำระและอาจจะถูกฟ้องร้องได้ทุกเมื่อ

หากค้างชำระหนี้ล่าช้ากว่าที่สถาบันการเงินได้กำหนด โดยการชำหนี้ค่าปรับนั้นจะต้องชำระคืนพร้อมกับดอกเบี้ยที่ผิดนัดชำระอีกด้วย ซึ่งถือว่าเป็ฯความเสี่ยงอย่างหนึ่งในกรณีที่ธุรกิจมีระบบจัดการหนี้ที่ไม่ดีพอหรือมีความล่าช้า

  • มีค่าใช้จ่ายนอกเหนือจากดอกเบี้ย

การขอสินเชื่อบางประเภทจากหลายสถาบันการเงินนั้นจะมีค่าใช้จ่ายที่นอกเหนือจากดอกเบี้ยอย่างแน่นอน เช่น ค่าบริการทำสัญญาในการขอกู้เงิน ค่าประเมินหลักทรัพย์ของผู้ขอกู้ที่นำมาเป็นตัวค้ำประกันต่อสถาบันการเงิน ซึ่งสิ่งเหล่านี้เป็นค่าใช้จ่ายที่จะต้องเกิดขึ้นเมื่อมีการขอกู้เงินอยู่แล้ว

  • หากไม่วางแผนการใช้เงินอาจทำให้เกิดเป็นหนี้เสียได้

เมื่อไหร่ก็ตามที่มีการกู้เงินมาแล้วเจ้าของธุรกิจจะต้องวางแผนให้ดีว่าจะจัดการเงินที่มีอยู่อย่างไรให้เกิดประโยชน์สูงสุดแล้วจะใช้จ่ายเงินอย่างไรให้มีประสิทธิภาพต่อธุรกิจของตัวเอง แต่หากไม่มีการวางแผนการใช้จ่ายเงินนี้ก็อาจจะทำให้มีระบบหมุนเวียนเงินที่ไม่ดีพอ ซึ่งอาจส่งผลต่อการใช้หนี้จากเงินที่กู้มาได้เช่นกัน

  • ต้องยอมรับความเสี่ยงในการใช้หนี้ในอนาคต

เพราะในวันข้างหน้าไม่มีใครรู้ว่าจะเกิดวิกฤตทางการเงินจะเกิดขึ้นเมื่อไหร่แล้วจะกระทบกับธุรกิจที่ทำอยู่อย่างไรบ้าง อีกทั้งยังมีเรื่องของอัตราเงินเฟ้อเข้ามาเกี่ยวข้อง ทำให้เจ้าของธุรกิจจะต้องรัดเข็มขัด วางแผนการเงินและมีระบบจัดการเงินที่ดีให้พร้อมต่อการใช้หนี้ในอนาคตอยู่เสมอ เพราะเมื่อไหร่ที่เกิดวิกฤตขึ้นอาจทำให้ธุรกิจไม่สามารถดำเนินต่อไปได้แล้วทำให้ใช้หนี้ต่อไปไม่ได้จนถึงขั้นถูกฟ้องให้กลายเป็นบุคคลล้มละลายได้เลยทีเดียว

  • สินเชื่อบางประเภทใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิต

แต่ไม่ได้เป็นเงินสดทำให้การนำเงินออกมาใช้จ่ายยากขึ้น อย่างที่เราทราบกันว่าการซื้อสินค้าหรือการบริหารหลายประเภทนั้นไม่สามารถใช้เงินจากบัตรเครดิตได้แต่จะต้องใช้เงินสดในการซื้อเท่านั้น ทำให้เจ้าของกิจการหลายคนที่มีบัตรเครดิตที่ไม่ได้เป็นเงินสดจะต้องหาวิธีอื่นในการซื้อของนั่นเอง

แล้วนี่ก็คือข้อดีและข้อเสียของ แหล่งเงินกู้ ที่อาจเกิดขึ้นกับทุกคนที่กู้เงินจากสถาบันการเงินมาได้ หากคุณกำลังสนใจการกู้เงินอยู่ล่ะก็ อย่าลืมศึกษาข้อดีและข้อเสียรวมถึงเงื่อนไขของการกู้เงินจากสถาบันการเงินในแต่ละครั้งเพื่อให้การบริหารจัดการเงินนั้นมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น สามารถติดตามบทความเพิ่มเติมได้ ที่นี่..

More To Explore

phuchifah
หนังรถแข่ง