เงินฝากประจำ มีข้อดี – ข้อเสียอย่างไร ต้องพิจารณาก่อนการตัดสินใจ

การ ฝากประจำ ถือเป็นทางเลือกในการออมเงิน อีกทางเลือกหนึ่งที่เหล่าบรรดาหนุ่มสาวในยุคปัจจุบันนิยมใช้ เนื่องจากมีอัตราดอกเบี้ยที่สูงกว่าแบบออมทรัพย์ แต่อย่างที่รู้ดีกันอยู่แล้วว่า ของทุกอย่างบนโลกใบนี้นั้น ต่างมีทั้งจข้อดี และข้อเสีย ในการของเงินฝากก็เช่นเดียว ซึ่งในวันนี้เราได้นำ ทั้งข้อดี และข้อเสีย โดยนำมาเปรียบเทียบกันเป็นข้อ ๆ เลยว่า แตกต่างกันอย่างไร เพื่อเป็นข้อมูลสำหรับผู้อ่านที่กำลังมองหา วิธีการออมเงิน ออมเงินแบบไหนถึงจะได้ผลประโยชน์สูงสุด ให้คุณได้พิจารณาก่อนการตัดสินใจออมเงิน เพราะเรื่องเงินคือเรื่องใหญ่ สำหรับในยุคภาวะเศรษฐกิจแบบนี้ ตามเรามาดูกันเลยครับ

ทำไมต้องฝากประจำ เงินฝากประจำคืออะไร มีข้อดี ข้อเสียอย่างไร

• เงินฝากประจำคืออะไร

สิ่งแรกที่เราอยากให้คุณรู้คือ คุณต้องทำความเข้าใจเกี่ยวกับการ ฝากประจำกัน เสียก่อน การฝากประจำ คือ การนำเงินจำนวนหนึ่ง ไปฝากไว้ที่ธนาคาร โดยที่จำนวนเงินฝากในครั้งแรกเท่าไร ครั้งต่อไปต้องนำจำนวนเงินเท่ากันนี้ ฝากเข้าบัญชีในทุก ๆ เดือน และเมื่อถึงกำหนดระยะเวลา และบัญชีเงินฝากประจำนั้น ยังสามารถแบบออกได้อีก 2 รูปแบบคือ บัญชีเงิน ฝากประจำ แบบฝากครั้งเดียว ซึ่งโดยทั่วไปแล้วนั้น จะมีกำหนดระยะเวลาให้เลือก เริ่มจากฝากประจำ 3 เดือน 6 เดือน 12 เดือน 24 เดือน และ 36 เดือน แต่ผู้ฝากต้องคงเงินไว้จกว่าจะถึงเวลาที่กำหนด จึงจะสามารถถอนเงินพร้อมดอกเบี้ยออกมาได้ รูปแบบที่สองคือ บัญชีเงิน ฝากประจำ แบบฝากทุกเดือน รูปแบบนี้นั้น เป็นการฝากเงินเข้าบัญชีในทุก ๆ เดือน เป็นจำนวนเงินที่เท่ากันกับตอนเปิดบัญชีครั้งแรก และต้องฝากให้ครบตามกำหนดระยะเวลาที่ธนาคารกำหนด เช่น 6 เดือน 24 เดือน หรือ 36 เดือน เมื่อครบกำหนดแล้วถึงจะสามารถถอนเงินพร้อมดอกเบี้ยออกมาใช้ได้ ซึ่งรูปแบบที่ 2 นี้ เหมาะกับน้อง ๆ วัยเรียนเป็นอย่างมาก เพราะถือได้ว่า เป็นเครื่องมือช่วยฝึกวินัยในการออกของตนได้ โดยให้มีการออมในทุก ๆ เดือน

• การฝากประจำ มีข้อดีอย่างไร

วิธีการออมเงินโดยใช้วิธีการ ฝากประจำ นั้น มีข้อดีต่าง ๆ อย่างมากมาย สิ่งแรกที่เห็นได้ชัดคือ ทำให้มีวินัยในการออมเงินมากขึ้น เนื่องจากต้องถูกบังคับให้ฝากเข้าทุกเดือน อีกทั้งต้องเป็นจำนวนที่เท่ากัน อีกทั้งยังได้รับดอกเบี้ยในอัตราที่สูงกว่าธรรมดาอีกด้วย อีกทั้งยังเป็นการเสริมสร้างเครดิตที่ดี เพราะอย่างที่รู้ดีกันอยู่แล้วว่า การที่คนเรามีเครดิตดีนั้น เป็นสิ่งสำคัญมากในการขอกู้สินเชื่อก้อนใหญ่ในอนาคต เพราะยิ่งคุณมีเครดิตดีมากเท่าไร การกู้สินเชื่อจะได้รับการอนุมัติอย่างง่ายนั่นเอง อีกทั้งยังมีอัตราดอกเบี้ยที่สูงกว่าการฝากบัญชีออมทรัพย์ทั่วไป และยิ่งฝากเป็นเวลานานเท่าไหร ก็ยิ่งได้อัตราดอกเบี้ยที่สูงมากขึ้นนั่นเอง การออมเงินด้วยการ ฝากประจำ ถือเป็นการลงทุนที่มีความปลอดภัยสูง เนื่องจากมีความเสียงน้อย โดยเงินต้นไม่หาย แถมยังได้ดอกเบี้ยมาอีกด้วย อีกทั้งการฝากประจำ ยังถือเป็นแหล่งเงินสำรองที่ดี หากมีเรื่องฉุกเฉิน หรือจำเป็นต้องใช้เงินก้อน เงินในส่วนนี้จะสามารถช่วยคุณได้ โดยไม่ทำลายสถานะทางการเงินของคุณ อีกทั้งยังไม่ต้องไปกู้หนี้ยืมสินใครอีกด้วย

• การฝากประจำ มีข้อเสียอย่างไร

ในเมื่อมีข้อดีแล้วนั้น ก็ใช่ว่าจะไม่มีข้อเสีย โดยการ ฝากประจำ จะมีข้อเสียคือ หากคุณทำการถอนเงินออกก่อนกำหนด คุณจะไม่ได้รับอัตราดอกเบี้ยพิเศษใด ๆ เลย คุณจะได้รับดอกเบี้ยในอัตราเดียวกับฝากออมทรัพย์ทั่วไป การฝากจำประจำนั้น เป็นการลงทุนที่ได้กำไรน้อยกว่าการลงทุนประเภทอื่น แม้ว่าจะได้อัตราดอกเบี้ยที่สูงกว่าออมทรัพย์ธรรมดา แต่ก็ยังน้อยกว่าการลงทุนในประเภทอื่น เช่น การลงทุนในหุ้น เป็นต้น การ ฝากประจำ มีวงเงินฝากขั้นต่ำที่ค่อนข้างสูง อีกทั้งในแต่ละเดือนยังต้องฝากเป็นจำนวนเงินที่เท่ากัน เพื่อแลกกับอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นตามไปด้วย นั่นอาจทำให้เกิดปัญหาสภาพคล่องทางการเงิน ในสำหรับผู้ที่มีรายได้ไม่สูงนัก หรือผู้ที่มีรายได้ไม่แน่นอน ดังนั้นก่อนการตัดสินใจเลือก ฝากประจำ นั้น ควรศึกษารายละเอียดให้ดี พร้อมทั้งมองไปถึงอนาคตของตนเองด้วยว่า พร้อมที่จะลงทุนในระยะยาวแบบนี้หรือไม่ เพราะการลงทุนตามแบบคนอื่นนั้น อาจไม่ได้ผลตอบแทนอย่างที่คุณคาดหวังไว้ก็เป็นได้

เงินฝากประจำ มีกี่แบบ และแบบอะไรบ้าง

• บัญชีเงินฝากประประจำแบบทั่วไป (General Fixed Deposit)

บัญชีเงิน ฝากประจำแบบทั่วไป คือ การฝากเงินก้อนเข้าไปในธนาคารเป็นครั้ง ๆ โดยมีสัญญาว่า จะทำการถอนใด ๆ เลย จนกว่าจะครบกำหนดเวลา ซึ่งบัญชีเงินฝากประจำแบบทั่วไปนั้น คุณสามารถฝากกี่ครั้งก็ได้ อีกทั้งยังสามารถฝากเงิน ครั้งละเท่าไรก็ได้เช่นกัน แต่เงินฝากก้อนนั้น ต้องเป็นก้อนใหญ่ ๆ และโดยเงินฝากในแต่ละก้อนนั้น จะนับช่วงเวลาแยกกัน เช่น หากคุณฝากเงินครั้งแรกในเดือนมกราคม เป็นจำนวนเงิน 200,000 บาท และฝากครั้งที่สองในเดือนมีนาคม เป็นจำนวนเงิน 500,000 บาท สมมุติว่าคุณเปิดบัญชีที่จ่ายดอกเบี้ยทุก 6 เดือน วิธีนับอายุเงินฝาก และดอกเบี้ย กรณีไม่ถอนก่อนครบสัญญา คือ เงินฝากครั้งแรกจะได้ดอกเบี้ยครั้งแรกในเดือนมิถุนายน โดยคิดดอกเบี้ยจากเงิน 200,000 บาท และจะได้ดอกเบี้ยจากการฝากครั้งที่สองนั้น ในเดือนกันยายน โดยคิดดอกเบี้ยจากเงิน 500,000 บาท บัญชีเงินฝากประจำประเภทนี้ มีการภาษีจากจำนวนเงินดอกเบี้ย 15% ซึ่งหนึ่งคน สามารถเปิดได้หลายบัญชี

• บัญชีเงินฝากประจำแบบปลอดภาษี(Tax Free Monthly Deposit)

บัญชีเงินฝากประจำแบบปลอดภาษี เป็นการฝากประจำทุกเดือน ด้วยจำนวนเงินที่เท่ากัน ซึ่งธนาคารส่วนใหญ่จะกำหนดจำนวนเงินฝากขั้นต่ำในแต่ละเดือนไว้ที่ 1,000 บาท ดังนั้นหากคุณอยากจะออมไว้เดือนละกี่บาท ควรวางแผนล่วงหน้าไว้ก่อนเลย ซึ่งวิธีการแบบนี้ ทำให้คุณได้ฝึกวินัยในการออมเงิน เพราะคุณต้องฝากเงินในระยะเวลาที่กำหนดคือ 24 เดือน ซึ่งเป็นกำหนดระยะเวลาที่ธนาคาส่วนใหญ่กำหนดเอาไว้ในสัญญา แต่ในบางธนาคารก็มีแบบ 36 เดือนให้เลือก เมื่อหลายคนอ่านมาถึงตรงนี้แล้วนั้น อาจท้อก็เป็นได้ เพราะคิดว่าเราต้องฝากเงินตั้ง 24 เดือน นานไปไหม แต่หากคุณได้ลองแล้วนั้น เมื่อครบ 24 เดือนเมื่อไร คุณจะเห็นเงินเป็นกอบเป็นกำ และที่สำคัญบัญชีเงินฝากประเภทนี้ ให้ดอกเบี้ยที่สูงกว่า เงินฝากประจำทั่วไป เช่น หากคุณฝากเดือนละ 2,000 บาท เป็นระยะเวลานาน 24 เดือน คุณจะได้เงินก้อน 48,000 บาท แต่คุณต้องฝากให้ครบจำนวน และฝากตรงตามเวลา เพราะหากคุณต้องการความมั่นใจว่า ดอกเบี้ยคุณได้นั้นจะปลอดภาษีจริง ๆ หรือป่าว คุณต้องมั่นใจว่า สามารถฝากได้ครบตามจำนวนเวลาที่กำหนด และยอดเงินครบตามจำนวนที่กำหนด เพราะหากคุณทำผิดเงื่อนไข เช่น ฝากไม่ครบจำนวน หรือ ฝากไม่ครบเวลา ซึ่งโดยส่วนใหญ่ทางธนาคารจะกำหนดไว้ว่า ขาดฝากได้ไม่เกิน 2 ครั้ง แต่หากผิดเงื่อนไข คุณจะไม่ได้ดอกเบี้ยตามที่หวังไว้ แต่จะกลับไปได้ดอกเบี้ยในอัตราเงินฝากออมทรัพย์ อีกทั้งยังกลับไปเสียภาษีดอกเบี้ยในอัตราเดียวกับเงินฝากประจำแบบปรกติ คือ 15% ของจำนวนดอกเบี้ยที่ได้รับ

ดังนั้นก่อนที่คุณจะเปิดบัญชีประเภทนี้ ต้องมีความมั่นใจว่า สามารถฝากเงินจำนวนนั้นได้ในทุก ๆ เดือน และต้องสามารถบังคับ ให้ตัวเองออมเงินจนครบกำหนดเวลา และที่สำคัญต้องศึกษาเงื่อนไขการฝากเงินก่อนที่ตัดสินใจ โดยเฉพาะคนที่มีเงินรายได้เข้าบัญชีประจำทุกเดือน เพียงแค่คุณใช้บริการตัดบัญชีเงินฝากอัตโนมัติ เมื่อถึงวันเงินเข้าบัญชี ทางธนาคารตัดเข้าไปในบัญชีเงินฝากปลอดภาษีทันที เพียงเท่านี้ก็เรียบร้อยแล้ว หรืออีกหนึ่งทางเลือกคือ เลือกฝากกับธนาคารที่คุณสะดวกมากที่สุด สามารถเดินผ่านได้ทุกวัน แค่นี้การฝากเงินก็เป็นเรื่องง่ายสำหรับคุณแล้ว