ในการขับรถมีหนึ่งสิ่งสำคัญที่เจ้าของรถและคนที่ต้องใชรถเป็นประจำอยู่แล้วจะต้องรู้นั่นก็คือ อัตราการกินน้ำมัน แม้ว่าคำ ๆ นี้จะดูเป็นคำที่ทางการและค่อนข้างที่จะเข้าใจยากอยู่สักหน่อย แต่วันนี้เรามีวิธีการทำความเข้าใจแบบง่าย ๆ มาให้เจ้าของรถได้ทำความรู้จักกันว่ามันเกี่ยวข้องอย่างไรกับรถที่คุณกำลังขับแล้วมันส่งผลอะไรกับการขับขี่รถบนท้องถนนบ้าง เรามาหาคำตอบไปพร้อม ๆ กันเลยดีกว่า
อัตราการกินน้ำมัน คือสัดส่วนที่รถคันนั้นๆ มีการเผาผลาญพลังงานเชื้อเพลิงไปมากน้อยเท่าไหร่ โดยทั่วไปแล้วรถแต่ละคันจะมี อัตราการกินน้ำมัน ที่แตกต่างกันออกไป รถบางคันอาจมีสัดส่วนการกินน้ำมันที่เยอะ แต่รถบางคันก็มีอัตราการกินน้ำมันน้อย โดยอัตราการเผาผลาญหรืออัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันนี้ใช้วัดกับรถทุกคันไม่ว่าจะเป็นรถที่ใช้น้ำมันเป็นเชื้อเพลิง รถที่ใช้ระบบ Hybrid หรือรถที่ใช้แก๊สก็จะมีอัตราการเผาผลาญเชื้อเพลิงทุกคัน
- วิธีคำนวณแบบหยาบ เป็นวิธีการคำนวณที่ไม่ได้คิดตัวเลขอย่างละเอียดมากนักแต่ก็สามารถนำมาใช้ในการคำนวณหาอัตราการเผาผลาญเชื้อเพลิงของรถได้เช่นเดียวกัน ซึ่งวิธีก็คือเมื่อคุณขับรถไปจนครบ 100 กิโลเมตร ให้คุณบันทึกเอาไว้ว่ารถของคุณใช้น้ำมันไปเท่าไหร่ โดยสังเกตจากการเติมน้ำมัน หากหลังจากที่วิ่งรถไปแล้ว 100 กิโลเมตร คุณต้องเติมน้ำมัน 4 ลิตร ให้คำนวณโดยเอา 100 กิโลเมตร หารด้วย 4 ลิตร นั่นก็คือรถของคุณมี อัตราการกินน้ำมัน หรืออัตราสิ้นเปลืองอยู่ที่ 25 กิโลเมตรต่อลิตร
- วิธีคำนวณแบบละเอียด เป็นการคำนวณที่มีการวัดตัวเลขอย่างละเอียด ทำให้คุณสามารถทราบอัตราการเผาผลาญเชื้อเพลิงของรถได้อย่างแม่นยำกว่าแบบแรก โดยวิธีการคำนวณมีดังต่อไปนี้
เติมน้ำมันรถให้เต็มถัง โดยเติมให้ถึงเพียงแค่หัวจ่ายน้ำมันตัดเท่านั้น ไม่ต้องเติมจนถึงคอถัง แล้วตั้งค่าหน้าปัดคอนโซลของรถให้เป็นค่าเริ่มต้นของรถเพื่อพร้อมต่อการใช้งานโดยให้เป็นเลขศูนย์
จากนั้นให้ขับรถไปตามปกติให้ครบ 100 กิโลเมตร โดยไม่ต้องเร่งเครื่องยนต์หรือเร่งความเร็วให้ต่างกันและให้หลีกเลี่ยงเส้นทางการจราจรที่ติดขัด
เมื่อขับรถไปตามทางจนครบ 100 กิโลเมตรแล้ว ให้คุณเติมน้ำมันให้เต็มถังอีกครั้ง โดยน้ำมันที่เติมนั้นจะต้องเป็นน้ำมันชนิดเดียวกันเท่านั้น
ให้คุณคำนวณ อัตราการกินน้ำมัน โดยคุณจะต้องมีตัวเลขทั้ง 3 ตัวนี้คือ ระยะทางที่รถวิ่งได้มีหน่วยเป็นกิโลเมตร, ปริมาณน้ำมันที่เติมลงไปในถังหลังจากเติมน้ำมันไปครั้งที่สอง มีหน่วยของน้ำมันเป็นลิตร และ ราคาน้ำมันในวันที่เติมน้ำมันครั้งที่ 2 โดยราคาน้ำมันมีหน่วยเป็นบาท - นำตัวเลขของปริมาณน้ำมันที่เติมลงไปในถัง หลังจากเติมน้ำมันไปครั้งที่สองคูณด้วยราคาน้ำมันแล้วหารด้วยระยะทางที่รถวิ่งได้ คุณจะได้ทราบตัวเลขของอัตราการเผาผลาญเชื้อเพลงแล้วยังทราบด้วยว่าคุณใช้จ่ายเงินไปเท่าไหร่กับการวิ่ง
- น้ำมันที่มีราคาแพงมากที่สุดก็น้ำมัน E 85 แก๊สโซฮอลล์ เมื่อคุณเห็นราคาของน้ำมันต่อหน่วยแล้วคุณอาจคิดว่าเป็นราคาที่ต่ำที่สุดในบรรดาน้ำมัน แต่เมื่อเทียบกันเรื่องการขับรถในระยะทางเท่ากันแล้วคุณจะรู้ว่า แก๊สโซฮอลล์ E85 แพงกว่า แก๊สโซฮอลล์ E95
- น้ำมันที่ช่วยให้เจ้าของรถสามารถประหยัดได้มากกว่าน้ำมันเบนซินและแก๊สโซฮอล์ก็คือน้ำมันดีเซลนั่นเอง แต่น้ำมันดีเซลนั้นสามารถใช้ได้กับเครื่องยนต์บางประเภทเท่านั้น เช่น รถสิบล้อหรือรถบรรทุก
- เชื้อเพลิงที่มีราคาต่ำที่สุดนั่นก็คือก๊าซ LPG และ NGV เมื่อเราเปรียบเทียบเรื่องระยะทางที่รถวิ่งได้กับราคาของเชื้อเพลิงแล้วก๊าซทั้ง 2 ชนิดนี้เป็นพลังงานเชื้อเพลิงที่ราคาถูกกว่าแก๊สโซฮอล์และน้ำมันเบนซิน
- เมื่อคุณตรวจเช็คอัตราการเผาผลาญเชื้อเพลิงนั้นจะทำให้คุณทราบความผิดปกติหรือส่วนประกอบของรถที่ต้องการซ่อมแซมไปในตัวด้วย เพราะคุณจะมองเห็นจุดที่มีการรั่วของน้ำมันกรือระบบการจ่ายน้ำมันได้ หากคุณพบปัญหานี้ก็สามารถให้ช่างมาซ่อมแซมให้รถอยู่ในสภาพปกติเพื่อป้องกันอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้นได้
- เครื่องยนต์แต่ละประเภทนั้นมีอัตราการเผาผลาญที่แตกต่างกันออกไป หากเครื่องยนต์มีขนาดเล็กก็ทำให้กินน้ำมันน้อยกว่า หากเป็นรถที่มีเครื่องยนต์ใหญ่ก็จะทำให้กินน้ำมันมาก ซึ่งรถแต่ละประเภทก็มีการเติมเชื้อเพลิงหรือการเติมน้ำมันที่เหมาะสมกับเครื่องยนต์แต่ละประเภทไป
- การแตะเบรกบ่อยหรือออกตัวรถแรงนั้นทำให้รถกินน้ำมันมากกว่าการออกตัวธรรมดาและขับด้วยความเร็วปกติ เพราะการออกตัวรถด้วยความเร็วสูงนั้นเป็นการดึงเชื้อเพลิงของเครื่องยนต์มาใช้
การที่คุณได้ทราบถึงวิธีการคำนวณหาค่า อัตราการกินน้ำมัน นั้นจะทำให้คุณขับขี่รถด้วยความรู้มากขึ้น หากคุณต้องการเป็นเจ้าของรถนั้นก็จะทำให้สามารถเลือกรถประเภทที่เหมาะกับการขับขี่ของคุณได้ เมื่อคุณเข้าใจเรื่องอัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันในวันนี้แล้วอย่าลืมนำเอาความรู้ไปใช้ขับขี่รถบนท้องถนนเพื่อประโยชน์ต่อคุณ ต่อองค์กรและคนที่คุณรัก สามารถติดตามบทความเพิ่มเติมได้ ที่นี่..
