งานการขนส่งนั้นมีความสำคัญสูงมาก ในทุก ๆ ประเทศ โดยเฉพาะในส่วนของการขนส่งทางบก ซึ่งมีรถบรรทุกเป็นหัวใจหลักที่ช่วยให้สินค้าสามารถไปถึงที่หมายได้อย่างรวดเร็ว รวมทั้งช่วยให้การบรรทุกสินค้าสามารถทำได้ครั้งละมาก ๆ แต่ก็มีสิ่งที่สามารถพบเห็นได้บ่อย ๆ เป็นอุบัติเหตุที่จากรถบรรทุกเป็นส่วนใหญ่ อันมีสาเหตุมาจากเรื่องใดก็ตาม ย่อมก่อให้เกิดความสูญเสียต่อตัวบุคคลและทรัพย์สินได้เป็นจำนวนมากและการสูญเสียที่เกิดขึ้นแต่ละครั้งเมื่อนำมาคิดเป็นมูลค่าก็อาจเป็นมูลค่ามหาศาลได้ การติดตั้ง GPS รถบรรทุก จึงนับเป็นสิ่งสำคัญที่รถบรรทุก ๆ คันควรจะมีการติดตั้งไว้ ถือเป็นเหตุผลที่ทำให้เกิดความจำเป็นในการติดตั้ง GPS ในประเทศไทยเป็นอย่างมาก
อาจกล่าวได้ว่าเนื่องมาจาก กฎหมายของกรมการขนส่ง ที่มีผลบังคับใช้ล่าสุดที่ระบุรายละเอียดว่า ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2559 เป็นต้นไป รถบรรทุกที่มีขนาด 6-10 ล้อขึ้นไปจะต้องดำเนินการติดตั้งระบบ GPS โดยต้องเป็นระบบ GPS ที่ได้รับการรับรองมาตรฐานจากกรมการขนส่งทางบกแล้วเท่านั้น การ “ได้รับการรับรอง” ในกรณีนี้คือระบบ GPS ต้องสามารถตรวจสอบลักษณะการเดินทางได้ , ตรวจสอบลักษณะการใช้งานแบบย้อนหลังได้ เพื่อแสดงให้เห็นถึงตัวตนของผู้ขับขี่ที่ชัดเจน อันถือเป็นเหตุผลหลักที่กำหนดให้ทุกวันนี้มีมาตรการบังคับให้รถบรรทุก ๆ คันต้องดำเนินติดตั้ง GPS สอดคล้องกับสิ่งที่กฎหมายระบุเอาไว้ ผู้ใดฝ่าฝืนย่อมได้รับการลงโทษ โดยส่วนหนึ่งที่กฎหมายกำหนดเช่นนี้ก็เพื่อแก้ไขปัญหาที่มาจากการขับขี่ รวมไปถึงอุบัติเหตุที่มีสาเหตุมาจากรถบรรทุก คุณสมบัติโดยทั่วไปของระบบ GPS รถบรรทุก คือ
การรับรองตามมาตรฐานของกรมการขนส่งทางบกอันประกอบด้วย
- Chipset 3G, 4G ซึ่งเป็นอุปกรณ์ที่ใช้รับส่งข้อมูลด้วยความเร็วสูง, Case ของตัวเครื่อง GPS ที่ต้องผลิตขึ้นมาจากวัสดุที่มีความแข็งแรง สามารถทนต่อการผุกร่อนได้ดี ไม่เสียหายได้ง่าย
- Buzzer ระบบเสียงสำหรับแจ้งเตือนแบบอัตโนมัติที่ต้องดังขึ้นภายในห้องโดยสาร
- Alert, Report หรือระบบการแจ้งเตือนฉุกเฉินในกรณีที่เกิดสถานการณ์คับขัน ไม่ว่าจะเป็นกรณีที่ รถบรรทุกประสบอุบัติเหตุ ถูกขโมย ตัวรถเกิดปัญหา หรือในกรณีที่รถบรรทุกจอดนิ่ง ๆ อยู่กับที่นานเกินไป
- GPS & GSM Antenna ระบบที่ใช้รับส่งสัญญาณพร้อมตัวพัฒนาที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการส่งข้อมูลให้แม่นยำมากขึ้น ทั้งยังมีะบบการแจ้งเตือนในกรณีที่ GPS ถูกถอดออก เป็นการป้องกันการถูกทุจริต
นอกจากนี้ประเด็นที่กล่าวมานี้ เหตุผลที่กรมการขนส่งทางบกตัดสินใจออกกฎหมายบังคับการติดตั้ง GPS ก็เพื่อลดปัญหาอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นบนท้องถนนอันมีสาเหตุส่วนใหญ่มาจากรถบรรทุกนั่นเอง เพราะเมื่อติดตั้ง GPS รถบรรทุก แล้วจะสามารถลดปัญหาดังกล่าวได้ในระดับที่ดีขึ้นมาก รถบรรทุกจะถูกควบคุมความเร็วในการขับขี่, ไม่สามารถออกนอกเส้นทางที่กำหนดซึ่งอาจไม่เหมาะกับการขับขี่ของรถบรรทุก จึงช่วยให้ผู้ใช้รถใช้ถนนหลายคนปลอดภัย รวมถึงบ้านเรือน ห้างร้านต่าง ๆ ที่อยู่ข้างถนนให้ปลอดภัยมากกว่าเดิมได้มากมาย
ประเด็นสำคัญที่คนส่วนมากที่ทำธุรกิจด้านการขนส่งและใช้รถบรรทุกเป็นหลักตัดสินใจเลือกติดตั้ง GPS รถบรรทุก นั้น ก็เพื่อให้สามารถเห็นสถานะของรถบรรทุกได้ตลอดเวลา ช่วยให้สามารถตรวจสอบตำแหน่งของรถบรรทุกได้ตลอดเวลา ช่วยอำนวยให้การทำงานราบรื่น ทุกการทำงานตรงตามกำหนดระยะเวลา มีมาตรฐานการทำงานชัดเจน ให้ลองคิดตามดูว่าหากผู้ขับคิดทุจริตเวลาขับรถไปส่งสินค้าใกล้จุดชายแดน ผู้ขับอาจนำรถขับข้ามชายแดนไปเพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อตนเอง ส่งผลให้องค์กรเกิดความเสียหาย เพราะรถแต่ละคันนั้นราคาไม่ใช่ถูก ๆ การตรวจสอบด้วย GPS จะช่วยให้เกิดความปลอดภัยมากขึ้น ลดปัญหาในลักษณะดังกล่าว และยังช่วยให้องค์กรสามารถลดต้นทุนด้านการขนส่ง เพราะช่วยให้เลือกเส้นทางการเดินทางได้เหมาะสมที่สุด ไม่มีลักษณะของการจอดรถเพื่ออู้งานให้เปลืองน้ำมันและระบบไฟฟ้าโดยใช่เหตุ เมื่ออุบัติเหตุลดลงก็ไม่ต้องเสียเงินเพื่อดูแลพนักงาน ค่าเสียหายของตัวรถและคู่กรณีและอัตราเงินประกันภัยที่จะถูกปรับให้สูงขึ้นหรือหากพบพนักงานที่ทำงานไม่ได้ตามมาตรฐานที่กำหนดไว้ ก็สามารถเรียกมาเจรจาให้ทำตัวดีขึ้น กลายเป็นการช่วยให้องค์กรพัฒนาไปในทางที่ดีขึ้นแบบอ้อม ๆ
นอกเหนือไปเหตุผลที่กล่าวมาแล้วยังมีอีกเหตุผลหนึ่งที่ทำให้การติดตั้ง GPS รถบรรทุก มีความจำเป็น คือการจำกัดความเร็วในการขับขี่ให้เหมาะสม การตรวจวัดอุณหภูมิของรถให้อยู่ในมาตรฐาน ตรวจวัดระดับน้ำมันเพื่อลดโอกาสถูกโกง ตรวจสอบย้อนหลังระยะทางที่รถใช้เดินทาง เป็นต้น สิ่งเหล่านี้ล้วนแล้วสร้างผลประโยชน์ให้องค์กรทั้งสิ้น เพราะเมื่องานออกมาดีย่อมหมายถึงภาพลักษณ์ต่าง ๆ การบริหารจัดการก็ย่อมง่ายมากขึ้นด้วยและความปลอดภัยต่อชีวิต ทรัพย์สินของทุก ๆ คนก็ย่อมดีมากขึ้นกว่าเดิมด้วย
คงเห็นภาพกันชัดเจนขึ้นแล้วว่าการติดตั้ง GPS รถบรรทุก นั้นมีความสำคัญแค่ไหน เพราะผลประโยชน์ไม่ใช่ต่อตัวองค์กรเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงทุก ๆ คนที่เกี่ยวข้องทั้งทางตรงและทางอ้อม ทั้งตัวผู้ขับขี่รถยนต์ท้องถนน ตัวพนักงานขับรถบรรทุก บ้านเรือน ห้างร้านต่าง ๆ ฯลฯ อย่างในกรณีที่เคยเกิดอุบัติเหตุใหญ่ เมื่อ 30 ปีที่ผ่านมา โดยมีรถบรรทุกก๊าซซิ่งตกทางด่วนบริเวณถนนเพชรบุรีตัดใหม่และทำพื้นที่บริเวณดังกล่าวกลายเป็นทะเลเพลิง มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บมากมาย จนในปัจจุบันก็ยังคงมีการรำลึกถึงความเสียหายที่ใหญ่หลวงครั้งนั้นอยู่ การติดตั้ง GPS เอาไว้ก็นับเป็นหนทางที่จะช่วยทำให้ปัญหาเหล่านี้เกิดขึ้นน้อยลง สามารถติดตามบทความเพิ่มเติมได้ ที่นี่..