เครื่องมือที่จะช่วยให้การใช้จ่ายสะดวกมากขึ้นก็คือ บัตรเครดิต ซึ่งมีโปรโมชั่นลด แลก แจก แถม สิทธิพิเศษมากมายล่อตาล่อใจ ทำให้หลายคนเริ่มสมัครบัตรเครดิตและนำเงินอนาคตมาใช้แต่เมื่อความยับยั้งชั่งใจก็อาจเกินมือได้ง่าย ๆ กว่าจะรู้ตัวก็สายไปเสียแล้ว นอกจากนี้คนไทยส่วนใหญ่ในปัจจุบันพกบัตรเครดิตคนละ 1 – 2 ใบ เป็นอย่างน้อยสะท้อนให้เห็นถึงพฤติกรรมในการนำเงินอนาคตมาใช้จ่ายมากขึ้น
แม้ว่าการใช้บัตรเครดิตจะเป็นเรื่องของการอำนวยความสะดวกในการใช้จ่ายเพื่อซื้อสินค้าหรือบริการได้เป็นอย่างดี แต่สิ่งที่เกิดขึ้นหากเผลอหลงระเริงไปกับการใช้เงินอนาคตแบบไม่ลืมหูลืมตาและเมื่อมีหนี้สินมากขึ้น ไอเดียผิด ๆ ในการแก้ปัญหาหนี้จากบัตรเครดิตก็เริ่มก่อตัวขึ้น
แนวความคิดที่ทำให้การแก้หนี้บัตรเครดิตแย่กว่าเดิม
- รูดบัตรนี้ไปจ่ายอีกบัตร จุดเริ่มต้นของการมีบัตรเครดิตหลายใบอาจเริ่มต้นจากการมีบัตรเครดิตใบแรกและใช้จ่ายผ่านบัตรจนเต็มวงเงิน จนทำให้ต้องสมัครบัตรเพิ่มเพื่อนำมาจ่ายค่าบัตรเดิมและพัฒนาวงจรนี้ไปเรื่อย ๆ จนรู้ตัวอีกทีก็มีหนี้บัตรเครดิตมากจนไม่สามารถจ่ายได้
- จ่ายขั้นต่ำ รู้หรือไม่ว่าการจ่ายยอดขั้นต่ำนั้นเป็นเพียงการรักษาสภาพทางการเงินที่ผิด เพราะการเลือกจ่ายแต่ยอดขั้นต่ำนั้นแทบจะไม่ได้ช่วยลดเงินต้นเลยด้วยซ้ำ แถมยิ่งปล่อยเวลาผ่านไปยิ่งทำให้หนี้เพิ่มมากขึ้นอีกด้วย
- หยุดจ่าย สิ่งแรกที่เราต้องเจอหลังจากหยุดจ่ายหนี้บัตรเครดิตก็คือ
เจ้าหน้าที่โทรตามไม่มีหยุด ทำให้เกิดความเครียดจากการโดนทวงอาจกลายเป็นปัญหาด้านสุขภาพจิตได้
ติด Blacklist เครดิตบูโร ทำให้เสียประวัติด้านการเงินส่งผลให้เสียอิสระภาพในการทำธุรกรรมทางการเงินในอนาคต
ถ้ามีภาระหนี้บัตรเครดิตมากจนจ่ายไม่ไหวและไม่อยากหยุดจ่ายให้เสียประวัติด้านการเงินจะทำวิธีไหนได้บ้าง สามารถ กู้เงินปิดบัตรเครดิต ได้ไหม?
แนวทางเลือกใหม่ที่สามารถแก้ไขปัญหาหนี้บัตรเครดิตจากสถาบันการเงินและกูรูด้านการเงินหลายคนแนะนำก็คือ การ กู้เงินปิดบัตรเครดิต ซึ่งใช้หลักการเดียวกันกับการรีไฟแนนซ์ แต่วิธีนี้จะทำได้ก็ต่อเมื่อ เงินต้น x ดอกเบี้ย ของบัตรเครดิตแต่ละใบรวมกันต้องน้อยกว่า เงินต้น x ดอกเบี้ย ของเงินกู้ ในระยะเวลาการผ่อนชำระที่เท่ากัน
ธนาคารที่มีนโยบายให้ กู้เงินปิดบัตรเครดิต
ปัจจุบันนี้มีธนาคารหลายแห่งที่มีนโยบายให้กู้เงินเผื่อนำไปชำระและปิดบัตรเครดิต โดยแต่ละแห่งก็จะมีการคิดดอกเบี้ยที่แตกต่างกันไป ตัวอย่างเช่น
- ธนาคารออมสิน สินเชื่อโครงการธนาคารเพื่อประชาชน
- ธนาคารซิตี้แบงค์ บริการโอนยอดใช้จ่ายบัตรเครดิตและสินเชื่อ
- ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย สินเชื่อบุคคลเพอร์ซันนัลแคช
- ธนาคารกสิกร เงินกู้สวัสดิการดอกเบี้ยต่ำพิเศษเพื่อการอุปโภคบริโภค
ไม่เพียงแต่ธนาคารตัวอย่างเหล่านี้เท่านั้น เพราะยังมีอีกหลายธนาคารที่มีนโยบายให้กู้ กู้เงินปิดบัตรเครดิต ซึ่งแต่ละธนาคารก็จะมีการคิดอัตราดอกเบี้ย เงื่อนไขในการให้กู้และระยะเวลาผ่อนชำระแตกต่างกันไป ทั้งนี้ผู้ที่ต้องการปิดบัตรเครดิตด้วยวิธีนี้จำเป็นที่ต้องศึกษารายละเอียดให้ดีก่อนการตัดสินใจยื่นกู้
อยาก กู้เงินปิดบัตรเครดิต ต้องทำยังไง?
เมื่ออ่านรายละเอียด เงื่อนไข อัตราดอกเบี้ยและระยะเวลาการผ่อนชำระดีแล้ว ก็เพียงนำเอกสารประกอบการกู้ เช่น สำเนาบัตรประชาชน, หนังสือรับรองเงินเดือน, หลักฐานการเป็นหนี้บัตรเครดิตและเอกสารอื่น ๆ เพิ่มเติมทั้งนี้ขึ้นอยู่กับว่าทางธนาคารกำหนดว่าจะต้องใช้หลักฐานอะไรเพิ่มเติมหรือไม่
การกู้เงินเพื่อปิดบัตรเครดิตดีอย่างไร?
- ช่วยให้ภาระค่าใช้จ่ายแต่ละเดือนลดลง
- ระยะเวลาในการผ่อนชำระลดลง
- มีเงินเหลือเพื่อการเก็บออม
สิ่งสำคัญเมื่อได้รับเงินกู้มาแล้วอย่าลืมว่าการกู้เงินครั้งนี้นำมาเพื่อปิดบัตรเครดิตทั้งหมดเพื่อลดภาระในการชำระหนี้ เพราะการนำเงินส่วนนี้ไปใช้จ่ายภาระหนี้อย่างอื่นอาจทำให้ปัญหาหนี้สินยิ่งทวีคูณ
ไม่อยากเป็นหนี้ไปตลอดชีวิตต้องรู้จักป้องกัน
แม้ว่าจะแก้หนี้ได้แต่ก็กลับไปเป็นหนี้ได้อีกซึ่งในโลกอินเตอร์เน็ตมีตัวอย่างมากมายให้เห็นว่าหลายคนแม้จะแก้ปัญหาหนี้ได้แต่ก็ยังกลับไปสู่สภาพเดิมเพราะไม่ยอมเปลี่ยนพฤติกรรมในการใช้เงิน ซึ่งวิธีการเปลี่ยนพฤติกรรมในการใช้เงินไม่ให้กลับไปเป็นหนี้อีกนั้นไม่ยาก
- บัตรเครดิตเพียงใบเดียวก็เพียงพอ ใช้บัตรเครดิตเพื่อนำไปจ่ายในสิ่งที่จำเป็นเท่านั้น
- กำหนดวงเงินที่สามารถจ่ายได้ กำหนดเงินที่เอาไว้ใช้จ่ายให้ชัดเจนและใช้บัตรเครดิตจ่ายในวงเงินที่กำหนดไว้เท่านั้น
- รูดบัตรไปเท่าไหร่ต้องจ่ายค่าบัตรให้หมดทันที เมื่อครบกำหนดชำระหนี้ก็ทำการจ่ายหนี้ให้หมด นอกจากจะไม่เป็นหนี้เพิ่มแล้ว ยังได้ประโยชน์จากการใช้บัตรเครดิตอีกด้วย
บัตรเครดิตไม่ใช่ตัวการร้ายที่ก่อให้เกิดหนี้เพียงแต่ผู้ใช้งานจำเป็นต้องมีวิธีการใช้บัตรเครดิตให้ถูกต้องเท่านั้น หากทำตามวิธีการใช้บัตรเครดิต 3 ข้อด้านก็จะช่วยให้ผู้ถือบัตรเครดิตได้รับประโยชน์จากการใช้บัตรโดยไม่ต้องกลัวว่าจะเป็นหนี้อีกต่อไป ทั้งนี้อย่าลืมว่าการมีวินัยและไม่ใช้เงินจนเกินตัวนั้นเป็นสิ่งสำคัญ เมื่อแก้หนี้ได้แล้วก็ไม่ควรกับไปเป็นหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ซ้ำและควรออมเงินควบคู่ไปด้วยจะช่วยให้สภาพการเงินดีขึ้นด้วย
