คำว่า “บุคคลล้มละลาย” เป็นสิ่งหนึ่งที่เราไม่อยากได้ และต้องควรอยู่ห่างคำ ๆ นี้ไว้ เหตุเพราะมาจากการที่เราเป็นหนี้สิ้น อีกทั้งการเป็นหนี้สินนั้น จะนำพาความเดือดร้อนมาให้กับเรา มากกว่าจะนำประโยชน์มาให้กับเรา อีกทั้งหากยิ่งมีหนี้สินมาก ๆ จนถึงขนาดที่ว่า “หนี้สินล้นพ้นตัว” แล้วละก็ คุณจะได้กลายเป็นบุคคลล้มละลายเป็นแน่ ดังนั้น ในเรื่องของการล้มละลายนั้น ถือว่าไม่ใช่เรื่องที่ไกลตัว เพราะเป็นเรื่องเกี่ยวเงิน ๆ ทอง ๆ ที่เราต้องวนเวียนอยู่กับมันทุกวัน และในวันนี้เราจึงได้รวบรวมข้อมูลของบุคคลล้มละลาย ว่ามันเป็นอย่างไร แล้วเมื่อเป็นแล้ว มีผลอะไรกับตัวคุณบ้าง เพื่อที่หากใครได้เข้ามาอ่านแล้ว จะได้ระมัดระวังตัว
สาเหตุของการเป็นบุคคลล้มละลาย เกิดขึ้นได้อย่างไร
การเป็นบุคคลล้มละลายนั้น สาเหตุโดยส่วนใหญ่แล้วนั้น คือ จากการที่เรามีหนี้สิน และไม่สามารถนำเงินมาชำระกับเจ้าหนี้ ได้ทันเวลา ดังนั้นเราจึงถูกเจ้าหนี้ฟ้องล้มละลาย โดยการที่คุณจะถูกโดนฟ้องเป็นบุคคลล้มละลายนั้น มีสาเหตุหลัก ๆ อยู่ 3 สาเหตุคือ
- บุคคลธรรมดา มีหนี้สินเกิน 1 ล้านบาท
- นิติบุคคล มีหนี้สินเกิน 2 ล้านบาท
- เป็นบุคคลที่มีแนวโน้ม มีหนี้สินล้นพ้นตัว หรือ ไม่มีความสามารถที่จะชำระหนี้ได้
โดยส่วนมากแล้วนั้น การถูกฟ้องลมละลาย ไม่ได้จำกัดไว้ว่า ผู้ที่จะเป็นบุคคลล้มละลาย ต้องเป็นบุคคลประเภทใด ดังนั้น ไม่ว่าคุณจะเป็นบุคคลธรรมดา หรือเป็นนิติบุคคล เราขอบอกคุณได้เลยว่า ก็มีสิทธิที่จะเป็นบุคคลล้มละลายได้เช่นกัน
- เป็นบุคคลล้มละลายมีผลกระทบต่อชีวิตอย่างไรบ้าง
ในการเป็นบุคคลล้มละลายนั้น จะมีผลให้คุณไม่สามารถทำนิติกรรม และนิติกรรมทางสัญญาใด ๆ ได้เลย ทั้งนี้ยังรวมไปถึงการทำธุรกรรมทางเงินต่าง ๆ อีกด้วย เช่น การเปิดบัญชีธนาคาร, การโอนเงิน, การถอนเงิน เป็นต้น อีกทั้งยังส่งผลให้คุณไม่สามารถดำรงตำแหน่งใด ๆ ในบริษัท แต่หากมีความจำเป็น ก็ต้องได้รับอนุญาตจากศาลเสียก่อน ถึงจะดำรงตำแหน่งได้ ไม่สามารถดำรงตำแหน่งใด ๆ ในทางการเมือง รวมไปถึง ไม่สามารถรับราชการได้อีกด้วย แต่หากกรณีที่รับราชการอยู่แล้ว ต้องทำการออกจากราชการทันที หรือกรณีที่เป็นพนักงานบริษัทเอกชน หากในบริษัทที่คุณทำอยู่ มีข้อกำหนดวา พนักงานต้องไม่เป็นบุคคลล้มละลาย คุณก็ต้องทำการลาออกเช่นเดียวกัน ทีนี้เรามาดูกันต่อว่า การเป็นบุคคลล้มละลาย มีผลกระทบต่อชีวิตเราอย่างไรได้บ้าง
- เป็นบุคคลล้มละลาย เดินทางไปต่างประเทศ ได้หรือไม่
หากคุณเป็นบุคคลล้มละลายแล้วนั้น คุณไม่สามารถเดินทางไปต่างประเทศได้ แต่หากมีความจำเป็นจริง ๆ แล้วนั้น ต้องขออนุญาตจากเจ้าหน้าที่พนักงานพิทักษ์ทรัพย์เสียก่อน โดยคุณต้องแจ้งกับเจ้าหน้าที่พิทักษ์ทรัพย์ว่า จะเดินทางไปยังประเทศอะไร เป็นจำนวนกี่วัน จะมีรายได้เท่าไหร่ และต้องนำรายได้จากการออกนอกประเทศในครั้งนี้ 30% เพื่อทำการชำระหนี้ และมีบุคคลที่สามารถติดต่อได้หรือไม่ ในขณะที่คุณอยู่ต่างประเทศ อีกทั้งบุคคลล้มละลาย จะต้องปฎิบัติตามที่ได้ตกลงกับเจ้าหน้าที่ไว้อย่างเคร่งครัด แต่อย่างไรก็ตาม การที่บุคคลล้มลายจะได้เดินไปต่างประเทศนั้น ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของเจ้าหน้าที่พิทักษ์ทรัพย์ กรมบังคับคดี หรือสำหนักงานบังคับคดีประจำจังหวัด ที่คุณถูกดำเนินเรื่องคดีล้มละลายอยู่ จากนั้นเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองขอไทย ถึงจะอนุญาตให้คุณเดินทางออกนอกประเทศได้
- ต้องใช้ระยะเวลาเท่าไร ถึงจะพ้นสภาพการเป็นบุคคลล้มละลาย
การที่ถูกศาลสั่งให้เป็นบุคคลล้มละลายนั้น จะมีกำหนดระยะเวลา 3 ปี โดยเมื่อครบกำหนดแล้ว ก็จะถูกปลดออกจากการเป็นบุคคลล้มละลาย ยกเว้นกรณีที่ไม่ให้ความร่วมมือกับเจ้าหนี้ อาจะมีการขยายเวลาเป็น 5 ปี หรือ 10 ปี แล้วแต่ศาลจะพิจารณา และตัวบุคคลล้มละลายต้องทำการติดต่อกับเจ้าหน้าที่พิทักษ์ทรัพย์ เพื่อขอปลดออกจากการเป็นบุคคลล้มละลาย และภายหลังจากมีคำสั่งปลดจากการเป็นบุคคลล้มละลายแล้วนั้น คุณจะหลุดพ้นไปจากหนี้สิ้นทั้งปวงด้วย เว้นแต่หนี้สินที่เกี่ยวข้องภาษีอาการ หรือหนี้สินที่เกิดจากการทุจริต ฉ้อโกงของบุคคลล้มละลาย สำหรับใครที่ผิดพลาด หรืออาจมีความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ก่อนที่จะเป็นบุคคลล้มละลาย ควรหาวิธีเจรจาประนอมหนี้กับเจ้าหนี้ โดยในปัจจุบันมีหลายวิธี และหลายหน่วยงานที่พร้อมจะเข้ามาช่วยเหลือ ในการเจรจาประนอมหนี้ เช่น กระทรวงยุติธรรม หรือ กรมบังคับคดี เพราะหน่วยงานเหล่านี้ จะมีช่องทางการไกล่เกลี่ยหนี้สิน ก่อนที่จะมีการอายัดทรัพย์สินของลูกหนี้ หรือก่อนที่ลูกหนี้จะถูกฟ้องให้เป็นบุคคลล้มละลาย
- หลังถูกปลดจากการเป็นบุคคลล้มละลาย หนี้ถูกปลดไปด้วยหรือไม่
กรณีที่บุคคลล้มละลายให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี ในการเข้าให้การ และการเข้าพบเจ้าหน้าที่พิทักษ์ทรัพย์ เมื่อครบกำหนดเวลาแล้ว คุณจะถูกปลดจากการล้มละลายในทันที โดยคำสั่งปลดจากการล้มละลายนี้ จะส่งผลให้บุคคลล้มละลายนั้น หลุดพ้นหนี้สินทั้งปวงด้วย เว้นแต่หนี้สินที่เกี่ยวข้องกับภาษีอาการ หรือหนี้สินที่เกิดขึ้นจากการทุจริต ฉ้อโกงของบุคคลล้มละลายนั้น ๆ ตามพระราชบัญญัติล้มละลาย มาตรา 81/1 แม้ว่าการเป็นบุคคลล้มละลายนั้น อาจสามารถเกิดได้กับทุกคนก็ตาม แต่หากคุณมีวินัยทางการเงินที่ดี โดยมีการวางแผนทางการเงินที่ดี รวมไปถึงต้องมีวินัยในการชำระหนี้ด้วย เมื่อเรายืมมาแล้วก็ทำการชำระให้ครบถ้วน และไม่สร้างหนี้สิ้นเพิ่มเติม เลือกกู้ยืมเงินเป็นจำนวนที่เราคิดว่าจะใช้คืนไหว เพียงเท่านี้ คุณก็สามารถห่างไกลจากการเป็นบุคคลล้มละลายได้แล้ว
เมื่อมีคำสั่งให้พิทักษทรัพย์ ลูกหนี้ต้องทำอย่างไร
สิ่งที่ต้องทำเมื่อศาลมีคำสั่งให้พิทักษทรัพย์มีอยู่ 2 อย่างด้วยกันคือ
- ต้องพบเจ้าหน้าที่พิทักษ์ทรัพย์ เพื่อทำการสาบานตัว เพื่อทำการส่งมอบทรัพย์สินทางบัญชี ต่อเจ้าหน้าที่พิทักษ์ทรัพย์ เมื่อเรียบร้อยแล้ว ขอประนอมหนี้ต่อเจ้าหน้าที่พิทักษ์ทรัพย์ภายในระยะเวลาที่กำหนด 7 วัน นับแต่วันยื่นคำชี้แจงทรัพย์สิน จากนั้นไปประชุมกับเจ้าหนี้ทุกครั้งเมื่อได้รับแจ้งนัดจากพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ จัดทำบัญชีรายรับ รายจ่ายทุก ๆ 6 เดือน นับแต่วันที่ถูกศาลพิทักษ์แจ้ง และต้องแจ้งเจ้าหน้าที่พิทักษ์ทรัพทุกครั้งเมื่อมีการย้ายที่อยู่ใหม่ หากมีความประสงค์เดินทางไปต่างประเทศ ต้องขออนุญาตจากศาล หรือเจ้าหน้าที่พิทักษ์ทรัพย์ตามความจำเป็น ในส่วนของค่าครองชีพนั้น คุณต้องทำการยื่นเรื่องขอค่าเลี้ยงชีพจากเงินที่ได้มา ระหว่างถูกศาลพิทักษ์ทรัพย์ ตามความจำเป็น และสมควร กรณีที่คุณไม่เห็นด้วยกับคำสั่งของเจ้าหน้าที่พิทักษ์ทรัพย์ สามารถยื่นคำร้องต่อศาลได้เช่นกัน
- ขอประนอมหนี้ ก่อนเป็นบุคคลล้มละลาย คุณสามารถยื่นคำร้องขอประนอมนี้ต่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ ภายในกำหนด 7 วัน อย่างที่เรากล่าวไปในข้อ 1 แล้ว โดยการยื่นคำขอประนอมหนี้นี้ ต้องแสดงข้อความแห่งการประนอมหนี้ หรือวิธีจัดกิจการ หรือทรัพย์สินะ และรายละเอียดแห่งหลักประกัน หรือผู้คำประกัน (ถ้ามี) จากนั้นเจ้าหน้าที่พิทักษ์ทรัพย์จะเรียกคุณเข้าประชุมกับเจ้าหนี้ เพื่อทำการปรึกษาและลงมติเป็นพิเศษว่า จะยอมรับคำขอนั้นของคุณหรือไม่ เมื่อในที่ประชุมเจ้าหนี้ลงมติพิเศษยอมรับคำขอประนอมหนี้แล้วนั้น ก็ยังคงต้องรอให้ศาลเห็นชอบกับคำขอประนอมนี้อีกครั้ง ซึ่งหากศาลพิจารณาแล้ว เห็นชอบกับคำขอประนอมหนี้ คุณก็จะหลุดพ้นกับคำว่า บุคคลล้มละลาย แต่หากศาลไม่เห็นชอบด้วยกับการประนอมหนี้ ศาลจะพิพากษาให้คุณเป็นบุคคลล้มละลาย และแจ้งให้เจ้าหน้าที่พิทักษ์ทรัพย์ทราบ เพื่อดำเนินการตามอำนาจต่อไป
สุดท้ายนี้ เราหวังว่าข้อมูลที่เราให้กับคุณไปในบทความนี้ คงเป็นประโยชน์กับคุณไม่มากก็น้อย หากในตอนนี้คุณกำลังเป็นหนี้ เราอยากให้คุณเริ่มตั้งสติก่อน เรียงลำดับความสำคัญของหนี้สินออก เช่น หนี้ต้องใช้คืนในระยะสั้น และระยะยาว จำนวนเงินของเจ้าหนี้แต่ละเจ้า จากนั้นทำการวิเคราะห์ว่า หนี้ไหนประนอมได้ หนี้ไหนประนอมไม่ได้ แล้วค่อยมาลำดับในการใช้หนี้ เพียงเท่านี้ อาจสามารถช่วยบรรเทาปัญหาของคุณลงไปได้บ้าง