เครื่องยนต์นอกจากจะเป็นหัวใจหลักของรถแล้ว เกียร์รถเองก็มีความสำคัญไม่แพงกัน เพราะทั้ง 2 ส่วนจะต้องทำงานร่วมกัน เกียร์มีหน้าที่ถ่ายทอดส่งกำลังจากเครื่องยนต์ลงไปให้ระบบขับเคลื่อนต่าง ๆ ของรถยนต์ โดยอาศัยฟันเฟืองในการปรับเปลี่ยนความเร็วซึ่งมีใช้ในรถยนต์ มอเตอร์ไซค์ เรือหรือแม้แต่เครื่องบินก็ต้องมีเกียร์เพื่อใช้ในการขับเคลื่อนให้ยานพาหนะไปข้างหน้าและถอยหลังได้
เนื่องด้วยเกียร์มีลักษณะเป็นฟันเฟือง การทำงานเป็นแบบขบ บดกันตลอดเวลาจึงทำให้เกิดการสึกหลอ เมื่อใช้ไปนาน ๆ จะรู้สึกได้ว่า การเข้าเกียร์แต่ละครั้งจะเริ่มฝืดและ เข้าเกียร์ยาก ขึ้น เหตุเพราะเกียร์เริ่มจะมีปัญหาเพื่อไม่ให้รถที่มีราคาแพงเสียหายไปมากกว่านี้จึงจำเป็นที่ต้องคอยดูแลรักษาอยู่เป็นระยะ ๆ
ปัญหาที่พบบ่อย ที่ทำให้เกียร์เสีย
- กระปุกน้ำมันเกียร์รั่ว การทำงานของเกียร์คือการบดกันของฟันเฟืองที่ทำมาจากเหล็กกล้า ดังนั้นหากกระปุกน้ำมันเกียร์รั่ว แตก ชำรุด ก็จะทำให้น้ำมันที่คอยหล่อลื่นหมดไป คราวนี้พอการทำงานของฟันเฟืองไม่มีตัวช่วยในการทำงานให้ไหลลื่นแล้ว ก็จะทำให้เกียร์ทำงานหนักจนไม่สามารถใช้งานได้อีกจนทำให้เกียร์พัง
- ระบบคลัทช์มีปัญหา ไม่ว่าจะเกียร์อัตโนมัติหรือเกียร์ธรรมดา ก็สามารถพังได้หากระบบคลัทช์มีปัญหา เพราะการทำงานระหว่างเกียร์กับคลัทช์จะสัมพันธ์กันอย่างในกรณีที่เกียร์ธรรมดาเวลาจะเปลี่ยนตำแหน่งก็จะต้องเหยียบคลัทช์ทุกครั้ง ไม่สามารถที่จะเปลี่ยนเกียร์โดยที่ไม่เหยียบคลัทช์ได้ ซึ่งการที่ระบบคลัทช์มีปัญหาก็มาจากหลายสาเหตุ เช่น น้ำมันคลัทช์หมดหรือรั่วซึม แผ่นคลัทช์หมด ด้วยการสังเกตจะสังเกตเมื่อเหยียบคลัทช์ลงไปแล้วไม่สามารถที่จะเข้าเกียร์หรือเปลี่ยนตำแหน่งของเกียร์ได้ ต้องถอนออกมาแล้วลองเหยียบคลัทช์เข้าเกียร์ใหม่ หากมีอาการแบบนี้ต้องรีบติดต่อช่างเพื่อทำการแก้ไขโดยด่วน
- น้ำมันเกียร์เก่ามากไม่เคยเปลี่ยนเลย สำหรับรถเกียร์ธรรมดามีความจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องได้รับการเปลี่ยนน้ำมันเกียร์ตามระยะทางหรืออย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง ซึ่งน้ำมันเกียร์ก็จะคล้าย ๆ น้ำมันเครื่องรถยนต์หากมีการใช้งานไปตามกำหนดเวลาจากน้ำมันที่มีความใส ก็จะกลายเป็นสีดำ ข้น เหนียว จึงเป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้การขับรถเกียร์ธรรมดา เข้าเกียร์ยาก ส่วนเกียร์ออโต้จะไม่ค่อยมีปัญหาตรงส่วนนี้สักเท่าไร
- เกียร์ลื่น เกิดจากฟันเฟืองของเกียร์ที่ใช้มานานเกิดการสึกหลอ จึงทำให้บางครั้งมีการลูดของฟันเฟืองที่ไม่เป็นไปตามขั้นตอน เมื่อเข้าเกียร์จึงทำให้เกียร์ไหล ลักษณะอาการคือเข้าเกียร์ไปแล้วแต่เร่งเครื่องรถไม่เคลื่อนที่ ต้องถอนเกียร์แล้วใส่เข้าใหม่ซึ่งบางทีก็เคลื่อนที่ได้ บางทีก็เคลื่อนที่ไม่ได้ ต้องรีบให้ช่างทำการตรวจเช็คสภาพของเกียร์ว่ายังสามารถใช้งานได้อยู่หรือไม่
- บูชเกียร์เสีย บูชเกียร์คืออุปกรณ์ที่ใช้ล็อกตำแหน่งของเกียร์ เพื่อให้เกียร์ที่ใช้งานอยู่ตรงตามตำแหน่ง หากเป็นเกียร์ธรรมดาจะมองลักษณะออกเช่น การเข้าเกียร์ 1 ตัวบูชเกียร์ก็จะล็อกให้อยู่ตำแหน่งเกียร์ 1 ไม่สามารถขยับไปตำแหน่งอื่นได้ ถ้าไม่มีการเปลี่ยนเกียร์ ยกเว้นเกียร์อัตโนมัติที่คนขับจะไม่รู้เลยว่าในขณะที่รถวิ่งอยู่นั้น อยู่ในตำแหน่งเกียร์ใด เพราะถ้าบูชเกียร์มีปัญหาก็จะทำให้เกียร์เกิดอาการรวนได้
- ลูกปืนเกียร์แตก หากพบว่าการเข้าเกียร์แต่ละครั้งมีเสียงที่ดังมากผิดปกติ ให้สันนิฐานก่อนเลยว่าลูกปืนเกียร์แตก ซึ่งก็อาจเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้รถยนต์ เข้าเกียร์ยาก จึงต้องรีบได้รับการแก้ไขเป็นอย่างมาก
ช่องทางในการซ่อม
คงปฏิเสธไม่ได้เลยว่าทางแก้ไขของเกียร์ที่มีปัญหา มีทางออกอยู่ไม่กี่ทางแล้วแต่ละทางก็ไม่ค่อยจะทำให้เจ้าของรถสบายกระเป๋าเงินสักเท่าไร เนื่องจากถ้าเกียร์เสียขึ้นมาจริง ๆ ทางแก้มีแค่ 2 ทาง 3 วิธีเท่านั้น
- เปลี่ยนเกียร์ใหม่ ถ้ามันถึงที่สุดแล้วการเปลี่ยนเกียร์คือทางออกที่ดีที่สุด แต่จะเป็นการทำร้ายกระเป๋าเงินของคุณเป็นอย่างมาก เพราะราคาเกียร์ใหม่พร้อมค่าซ่อมและเปลี่ยนจะมีราคาที่แพงมาก
- ก็ยังคงหนีไม่พ้นเรื่องเปลี่ยนเกียร์ แต่ในทีนี้แนะนำลองดูเกียร์เก่ามือสอง แต่ก็ใช่ว่าจะได้ของดีเสมอไป เพราะบางทีก็ต้องอาศัยดวงช่วยเหมือนกันที่จะไม่ให้ไปเจอเกียร์เก่ามือสองที่สภาพแย่ ๆ
- Overhaul หรือการโอเวอร์ฮอลเกียร์ ตรงนี้จะราคาไม่แรงมากแต่ต้องเปลี่ยนอะไหล่ทุกชิ้นส่วนที่อยู่ภายในระบบเกียร์ เช่น โอริ่ง ลูกยาง ซีล ข้อต่อต่าง รวมถึงระบบคลัทช์ด้วย เพราะเกียร์กับคลัทช์ทำงานร่วมกัน เมื่อเปลี่ยนเกียร์แล้วก็เปลี่ยนระบบคลัทช์จะได้ไม่เสียเวลาเปลี่ยนในรอบหลัง
เกียร์รถยนต์เป็นเรื่องสำคัญอย่างมาก เพราะไม่ว่าจะเกียร์ธรรมดาหรือเกียร์ออโต้ก็สามารถพบอาการเสียกันได้หากผู้ใช้ไม่ถนอมและรักษาทำให้ เข้าเกียร์ยาก นอกจากนั้นการขับรถเข้าเกียร์แบบกระชากหรือการเข้าเกียร์ไม่เป็นไปตามลำดับ ก็สามารถทำให้ เข้าเกียร์ยาก และเสียเร็วได้ การเปลี่ยนเกียร์กะทันหันและไม่สัมพันธ์กับความเร็วก็สามารถทำให้เกียร์ชำรุดได้เร็ว เพราะนอกจากระบบเครื่องยนต์การเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องยนต์ ก็อย่าลืมที่จะคอยเปลี่ยนน้ำมันเกียร์ น้ำมันเฟืองท้ายด้วย การหมั่นตรวจสอบระดับน้ำมันเกียร์อยู่บ่อย ๆ ก็จะช่วยให้เกียร์และรถอยู่คู่กับคุณไปนานๆ สามารถติดตามบทความเพิ่มเติมได้ ที่นี่..