ในเวลาที่เร่งรีบออกไปทำงานที่ต้องแข่งขันกับเวลา แต่กลับพบปัญหาที่ไม่น่าจะเกิดเมื่อรถเจ้ากรรมดันมีปัญหา รถสตาร์ทไม่ติด หลาย ๆ คนคงจะหงุดหงิดใจไม่น้อย ว่าทำไมรถจึงสตาร์ทไม่ติด ทั้งที่เมื่อหลายวันก่อนยังสามารถทำงานได้ตามปกติ สามารถขับไปสถานที่ต่าง ๆ ได้ แม้จะลองบิดกุญแจเพื่อสตาร์ทซ้ำแล้วซ้ำเล่า รถสุดที่รักก็ยังไม่ยอมติดเสียที อะไรคือตัวการของปัญหานี้นึกอย่างไรก็นึกไม่ออกสุดท้ายต้องเลือกใช้บริการรถประจำทางในการเดินทางไปทำงานในสภาพอากาศที่ร้อน ๆ แบบนี้
สาเหตุหลักที่ทำให้ รถสตาร์ทไม่ติด
สาเหตุที่ทำให้รถยนต์หลาย ๆ คันโดยมากแล้วที่ทำให้เจ้าของรถคิดถึงเป็นเรื่องแรกเลยคือเรื่องของแบตเตอรี่ เพราะแบตเตอร์รี่ถือเป็นอะไหล่รถที่มีความสิ้นเปลืองเป็นอย่างมาก เนื่องจากจะแบตเตอร์รี่จะมีอายุการใช้งาน หากเสื่อมสภาพแล้วไม่สามารถนำกลับมาใช้ได้อีก จึงทำให้ผู้ใช้หลายรายมักจะมีความเห็นตรงกันว่า รถสตาร์ทไม่ติด แบตฯ หมดแน่ ๆ เลย แต่ยังมีอีกหลายสาเหตุที่ทำให้รถยนต์สตาร์ทไม่ติดได้โดยอยากให้ท่านเจ้าของรถลองพิจารณาอาการเหล่านี้เอาไว้ด้วย
แบตเตอร์รี่หมดอายุ เสื่อมสภาพ
ปกติแบตเตอร์รี่จะมีอายุการใช้งาน 18 – 24 เดือน โดยประมาณ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการใช้งานรถของแต่ละคน เนื่องจากการทำงานของแบตเตอร์รี่รถยนต์จะมีหน้าที่หลักคือ ใช้สตาร์ทเครื่องยนต์และจ่ายไฟให้ไฟส่องสว่างด้านหน้า ซึ่งเมื่อเครื่องยนต์ที่สามารถสตาร์ทติดได้แล้ว ถือว่าการทำงานของแบตเตอร์รี่ก็จะลดน้อยลงในทันที หลังจากนั้นจะเป็นหน้าที่ของอัลเทอร์เนเตอร์ ที่ทำหน้าที่ชาร์จไฟกลับเข้าไปเก็บสะสมในแบตเตอร์รี่ ดังนั้นจึงบอกไม่ได้ว่า อายุการใช้งานของแบตเตอร์รี่จะครบกำหนดที่ 24 เดือนพอดี แต่ขึ้นอยู่กับการใช้รถของแต่ละคนอีกด้วย หากใช้น้อยการเก็บประจุไฟของแบตเตอรี่ก็จะน้อยลงไปด้วยเช่นกัน
ระบบไฟฟ้าขัดข้อง
เป็นไปได้ว่าการที่รถสตาร์ทไม่ติดจากระบบไฟมีปัญหาอาจเกี่ยวเนื่องกับไฟในแบตเตอร์รี่ไม่เพียงพอที่จะใช้หล่อเลี้ยงอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ภายในรถรุ่นใหม่ ๆ ได้ครบ จึงทำให้ระบบไฟฟ้าภายในรถเกิดรวนทั้งระบบ คล้ายกับคอมพิวเตอร์ที่ถ่านไบออสเสื่อมต้องทำให้ผู้ใช้งานคอยเข้าไปตั้งเวลาและวันที่อยู่บ่อย ๆ บางทีอาจจะมีปัญหาสายไฟเสื่อมสภาพจากอายุรถที่มากขึ้น ทำให้เกิดไฟฟ้าลัดวงจรภายใน อีกสาเหตุมาจากการที่หนูเข้าไปกัดสายไฟภายในรถก็เป็นได้ ตามที่มีข่าวออกให้เห็นอยู่เป็นประจำ
ไดชาร์จเสีย
ไดชาร์จเสีย อาการจะแตกต่างจากแบตเตอรี่เสื่อมเพียงเล็กน้อยตรงที่ ในขณะที่รถสตาร์ทไม่ติด เมื่อมีการพ่วงแบตเตอร์รี่ช่วยสตาร์ทจากรถคันอื่น หากแบตเสื่อมแต่ไดชาร์จไม่เสียรถก็จะยังสามารถติดเครื่องยนต์ได้ เพราะมีการปั่นกระแสไฟเข้าเก็บในแบตเตอร์รี่แม้ว่าจะเก็บไว้ไม่ได้ก็ตาม รถก็จะยังสามารถวิ่งต่อไปได้จนกว่าจะถึงร้านที่จำหน่ายแบตเตอร์รี่ หากแต่ถ้าไดชาร์จเสียด้วยจะทำให้ขับรถไปแล้วก็สามารถดับได้เองหรือเรียกว่าดับกลางอากาศ ซึ่งถือว่าเป็นอันตรายอย่างมากกับรถที่ใช้งานพวงมาลัยเพาเวอร์ไฟฟ้า เพราะพวงมาลัยจะหนักทำให้บังคับลำบากและเบรกเองก็จะเหยียบไม่ค่อยลง ดังนั้นเจ้าของรถทุกคนควรศึกษาวิธีการเอาตัวรอดกรณีที่รถดับกลางอากาศไว้จะเป็นการดีอีกทางหนึ่งด้วย เพื่อความปลอดภัยของตัวท่านเอง ไม่ใช่แค่เรื่องรถสตาร์ทไม่ติดอย่างเดียวเท่านั้น หากสตาร์ทติดแล้วเกิดขับออกไปเพื่อไปเปลี่ยนแบตเตอรี่ ทั้งที่ปัญหาอาจจะมาจากไดชาร์จเสียก็เป็นได้
น้ำมันหมด
หลายคนอาจจะอุทานออกมาเบา ๆ ว่า ขับรถยังไงถึงปล่อยให้น้ำมันหมด ไม่ดูบ้างหรือไร หลายคนอาจจะดูเป็นเรื่องตลกแต่บางครั้งอาจจะไม่ตลกก็เป็นได้ เพราะในบางทีที่เร่งรีบในชั่วโมงเร่งด่วนก็ทำให้คนขับรถลืมเรื่องน้ำมันรถที่กำลังจะหมดไป เหตุเพราะรีบที่จะต้องไปทำธุระด่วนให้เสร็จแล้วบอกกับตนเองว่าปั๊มอยู่ใกล้ไม่เป็นไรหรอก จนกระทั้งเกิดเหตุไม่คาดคิดน้ำมันในรถหมดจริง ๆ จะรู้ก็ต่อเมื่อเจ้าของรถกลับมาที่รถแล้ว รถสตาร์ทไม่ติด ก็ต้องมามองหาว่าสาเหตุใด จนสังเกตได้ถึงเกจวัดระดับน้ำมันที่ไม่ยอมขยับ ต้องวิ่งเต้นหาคนช่วย ซึ่งบางปั๊มจะไม่ขายน้ำมันให้กับคนที่มีภาชนะบรรจุที่ไม่ได้มาตรฐาน มันเป็นกฎรักษาความปลอดภัยของปั๊มนั้น ๆ ต้องทำให้เสียเวลามองหาปั๊มอื่นอีก เสียเวลาแวะเติมสักนิดก่อนที่จะเสียเวลามากกว่านี้ในการค้นหาปั๊มน้ำมัน
จะเห็นว่าอาการที่รถสตาร์ทไม่ติดไม่ใช่แต่จะมีแค่แบตเตอรี่หมดเท่านั้น ยังมีอีกหลาย ๆ สาเหตุที่เจ้าของรถต้องศึกษาหาความรู้เพิ่มเติมว่าอาการ รถสตาร์ทไม่ติด นั้นมาจากสาเหตุใดบ้าง เพื่อจะหาวิธีแก้ไขและป้องกันอย่างไรเพื่อให้รถที่รักใช้งานได้อย่างเป็นปกติ รถราคาหลายแสนกว่าจะเก็บเงินซื้อได้ต้องใช้ระยะเวลาที่นาน เมื่อได้มาแล้วก็ต้องดูแลรักษาไว้ให้ดีที่สุด โดยเฉพาะอาการเสียต่าง ๆ ของรถจะต้องค่อยดูแลหมั่นตรวจเช็คอยู่เป็นประจำ อย่างแบตเตอรี่หากมีการเปลี่ยนใหม่ก็ให้หาปากกาเมจิกมาเขียนวันเดือนปีที่เปลี่ยนลงบนแบตเตอรี่ เพื่อที่จะได้รู้เวลาและวางแผนในการเปลี่ยนแบตเตอรี่ได้ หากช่วงเวลาที่เปลี่ยนยังไม่ครบกำหนดอายุ ก็สามารถไปวิเคราะห์อาการเสียอื่นได้ด้วยที่แบตเตอรี่เพิ่งเปลี่ยนไปเอง สามารถติดตามบทความเพิ่มเติมได้ ที่นี่..
