คำถามที่พบบ่อย

คิวชูคือหนึ่งในสี่ภูมิภาคเกาะหลัก ตั้งอยู่ทางใต้สุดของญี่ปุ่น ประกอบด้วย 7 จังหวัดได้แก่ ฟุกุโอกะ ซากะ นางาซากิ คุมะโมโตะ โออิตะ มิยาซากิ และคาโกชิมา อากาศอบอุ่น มีทั้งภูเขาและทะเล อุดมสมบูรณ์ด้วยพืชนานาพันธุ์ แหล่งท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์น่าเยี่ยมชม และจุดเด่นคือน้ำพุร้อนหลากหลายรูปแบบ ใครมาเที่ยวคิวชูต้องมาแช่ออนเซ็น

การเดินทางมาที่คิวชูจากประเทศไทย มีเที่ยวบินที่บินตรงมาที่สนามบินฟุกุโอกะ สามารถนั่งรถไฟชินคังเซ็นออกไปที่จังหวัดใกล้เคียงอย่างซากะ คุมะโมโตะ และคาโกชิมาได้เลย ส่วนจังหวัดโออิตะ นางาซากิ และมิยาซากิสามารถนั่งรถไฟสายทั่วไปเข้าสู่ตัวจังหวัดได้

ฟุกุโอกะเป็นจังหวัดที่ใหญ่ที่สุดในคิวชู

เป็นเมืองท่องเที่ยว มีสถานที่ท่องเที่ยวมากมาย เช่น หอคอยฟุกุโอกะ สวนสาธารณะโอโฮริ ชายหาดโมโมจิฮามะ สวนโมโมจิซีไซด์พาร์ค และอีกมากมาย แต่สถานที่แนะนำในวันนี้คือ วัดนันโซอิน เมืองซาซากุริในจังหวัดฟุกุโอกะ เดินทางโดยรถไฟมาลงที่สถานีคิโดะ นันโซอิน มาเอะ จะพบ “สะพานเสียงเพลง” เนื่องจากเป็นสะพานที่ติดตั้งเครื่องเสียงเอาไว้ทั้งซ้ายและขวาของสะพาน กำลังบรรเลงเพลงกล่อมเด็กเด็กญี่ปุ่น เดินต่ออีกเล็กน้อย จะถึงวัดนันโซอิน ทางเข้าเป็นบันได้ขึ้นไปสู่วิหารหลัก วัดแห่งนี้มีชื่อเสียงเรื่องชมใบไม้เปลี่ยนสีในฤดูใบไม้ร่วงและการขอหวย เรื่องเล่าว่าเจ้าอาวาสถูกหวยบ่อย สิริรวมจำนวนเงินทั้งหมด 130 ล้านเยน นักท่องเที่ยวก็ถูกกันไปหลายคน ซึ่งด้านในประกอบไปด้วย

• รูปปั้น “อจละ” พระเจ้าผู้ปกป้องเราจากภัยพิบัติ
• “น้ำตกฟุโด” ซึ่งมีประวัติว่าเคยมีโรคระบาดเกิดขึ้น จึงมีแม่ชีมาบำเพ็ญตนใต้น้ำตก สละร่างกายเพื่ออธิษฐานให้ผู้คนหายจากโระระบาด
• “อุโมงค์ 7 เทพเจ้าโชคลาภ” นำหวยไปวางหน้าเทพเจ้าแล้วอธิษฐาน จะถูกหวยใบนั้น
• “ศาลาทางเดิน” ที่มีหลังคาไม้ มีคนมาขอพระเรื่องความรักและลูก
• “เนฮันโซ” พระพุทธรูปเนฮัมบุตสึ(ปางไสยาสน์) คือพระพุทธรูปที่แสดงท่าทางเมื่อพระพุทธเจ้าปรินิพพาน ทำจากสำริดที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก มีความยาวกว่า 41 เมตร สูง 11 เมตร และหนักถึง 300 ตัน มีรูปปั้นของสานุศิษย์ด้านล่างกว่า 500 องค์ หัตถ์ของพระนอนติดเชือกไว้อยู่ เป็นเชือก 5 สี สามารถสักการะและขอพรผ่านเชือกนี้เอง เชื่อกันว่าเมื่อขอพร จะได้รับพลังจากพระพุทธเจ้าผ่านเชือกเส้นนี้

ซากะเป็นอีกจังหวัดในภูมิภาคคิวชู

สถานที่ฮอตฮิตติดอันดับคงแป็นปราสาทซากะ สวนสาธารณะโคโนโฮะ อุทยานประวัติศาสตร์โยชิโนะการิ ส่วนสถานที่ทางศาสนาแนะนำคงหนีไม่พ้นศาลเจ้ายูโทคุ อินาริ เป็นหนึ่งในสามของศาลเจ้าที่ใหญ่ที่สุดในประเทศญี่ปุ่น เป็นศาลเจ้าของศาสนาพุทธนิกายชินโตเก่าแก่ที่ตั้งขึ้นตั้งแต่สมัยเอโดะ รวมอายุก็หลายร้อยปี อีกทั้งเป็นศาลเจ้าประจำตระกูลนาเบะชิมะ ตระกูลผู้ปกครองเมืองซากะในสมัยเอโดะเดินทางโดยรถไฟมาลงที่สถานีไฮเซ็น คาชิมะ ต่อรถบัส เดินอีกนิดหน่อยก็ถึงศาลเจ้า ด้านบนของศาลเจ้าสามารถชมวิวเมืองซากะทั้งเมืองและวิวทะเลได้ด้วย ภายในมีรูปปั้นเทพเจ้าหลายองค์ ศาลเจ้านี้สร้างขึ้นเพื่อบูชาเทพเจ้าอินาริ มักมีคนมาขอพรเรื่องความรักและการเก็บเกี่ยว นักท่องเที่ยวนิยมมาชมดอกไม้ในศาลเจ้าช่วงฤดูใบไม้ผลิและใบไม้ร่วง อีกทั้งได้รับความนิยมจากภาพยนตร์เรื่องไทม์ไลน์ที่เข้าฉายในไทยเมื่อปี 2014 จุดถ่ายภาพยอดนิยมคือสะพานสีแดงข้ามผ่านแม่น้ำ ในศาลเจ้าประกอบด้วย

• ประตูโทริอิสีแดง บันไดและอาคารสีแดง
• สุนัขจิ้งจอกผู้ถือศาลเทพเจ้า
• เทพอุกะโนะมิตามะ เทพเจ้าแห่งที่พักพิง อาหารและเสื้อผ้า
• เทพเจ้าโอมิยะโนะมิ เทพเจ้าแห่งศิลปะ ทรัพย์สมบัติและความเจริญรุ่งเรือง
• เทพเจ้าซารุทาฮิโกะ เทพเจ้าแห่งความปลอดภัยบนท้องถนน
• “อุมาคุอิโอะมาโมริ”เครื่องรางโด่งดังที่ขอพรให้ประสบความสำเร็จ ช่วยทั้งเรื่องของการเกษตรและประมง การสอบต่างๆ ความสัมพันธ์ของคู่ครอง การค้าขาย ธุรกิจ เงินทอง ตำแหน่ง แม้แต่การเสี่ยงโชค

นางาซากิก็เป็นอีกเมืองน่าเที่ยวเมื่อมาเยือนคิวชู

สถานที่โด่งดังในเมืองอย่างสวนสันติภาพนางาซากิ นางาซากิไชน่าทาวน์ สวนโกลเวอร์ โบสถ์คาทอลิกโออุระ เกาะเดจิมะ และสถานที่แนะนำที่ควรแวะไปสักการะในนางาซากิก็คือวัดโซฟุคุจิ เป็นวัดสไตล์จีน มีประวัติเก่าแก่เล่าว่าเมื่อสามร้อยกว่าปีก่อน ชาวจีนได้นิมนต์พระนิกายโชเน็นจากฝูเจี้ยนบ้านเกิดมาสร้างวัดโซฟุคุจินี้ ซึ่งได้รับการระบุว่าเป็นแหล่งเก็บสมบัติแห่งชาติ ทั้งตัวอาคารและพระพุทธรูป เดินทางโดยรถรางมาลงที่สถานีโชคาคุจิ แล้วเดินต่ออีกสักระยะหนึ่งจะเจอวัดโซฟุคุจิ ภายในวัดประกอบด้วย

• ประตูไดอิจิโฮมมงหรือประตูจีน ไคเท็นมงหรือประตูแห่งท้องทะเลและท้องฟ้า และอากะมงหรือประตูสีแดง สร้างขึ้นหลังวัดโซฟุคุจิ นำเข้าไม้มาจากประเทศจีน เอกลักษณ์ของประตูเหล่านี้คือมีขื่อรองรับและมีหลังคาซับซ้อน
• ประตูซัมมง เป็นประตูมังกร สร้างหลังประตูไดอิจิโฮมมง
• อาคารหลัก เป็นที่ประทับขององค์พระศากยมุนี รูปปั้นพระกัสสปะ พระอานนท์ และพระอรหันต์
• โกะโฮโด หรือหอเทพเจ้า เป็นที่ประทับของพระอวโลกิเตศวร และเทพสององค์ขนาบข้าง
• หอกลอง มีการบูรณะใหม่แล้ว
• มาโซโด หรือหอบูชาเทพเจ้า เห็นได้ตามวัดจีน นักเดินเรือหล่อขึ้นรูปปั้นเทพสององค์ องค์หนึ่งมีหูทิพย์ อีกหนึ่งองค์มีตาทิพย์ เพื่อขอพรให้การเดินเรือในทะเลมีความปลอดภัย

คุมะโมโตะ จากคิวชูเข้ามาสู่จังหวัดคุมาโมโตะ

คงไม่พลาดเข้าชมปราสาทคุมะโมโตะซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังในจังหวัด และสถานที่ที่เราจะแนะนำก็อยู่ใกล้ๆ ปราสาทคุมะโมโตะพอดี อีกทั้งยังเป็นศาลเจ้าประจำจังหวัดคุมะโมโตะด้วย มีชื่อว่าศาลเจ้าคุมาโมโตะอินาริ ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ของปราสาทคุมะโมโตะ เดินทางโดยรถรางหรือรถบัสมาลงที่สถานีซิตี้ฮอลล์ เป็นศาลเจ้าชินโตที่มีความเก่าแก่ถึง 500 กว่าปี เป็นศาลเจ้าขนาดเล็กแต่มีนักท่องเที่ยวเข้ามาขอพรอย่างต่อเนื่อง ประวัติความเป็นมาเล่าว่าการสร้างศาลเจ้านี้ขึ้นเป็นส่วนหนึ่งในการปกป้องปราสาทจากสิ่งชั่วร้าย ทางศาลเจ้ามีงานเทศกาลท้องถิ่น “ฮัตสุ อุมะ ไทไซ” ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์เป็นประจำทุกปี ภายในศาลเจ้ามีบรรยากาศสงบ ร่มรื่น มีเครื่องรางให้เลือกซื้ออีกหลายแบบเลือกตามความปรารถนาได้เลย และยังมีเซียมซีให้เสี่ยงโชค ไม่ต้องห่วงว่าจะอ่านไม่ออกเพราะมีเซียมซีภาษาอังกฤษอยู่ด้วย วิธีสักการะมีดังนี้

• โยนเหรียญลงในกล่องด้านหน้าตามศรัทธา ชาวญี่ปุ่นนิยมโยนเหรียญ 5 เยน
• ปรบมือ 2 ครั้งเพื่อเรียกให้เทพเจ้ามารับฟังคำขอพร
• ขอพรในใจ นึกชื่อตัวเองแล้วค่อยขอพรที่เราต้องการ
• หลังขอพรเสร็จ ให้โค้งทำความเคารพ 1 ครั้ง

โออิตะ นึกถึงจังหวัดโออิตะในภูมิภาคคิวชู

คงจะนึกถึงหมู่บ้านโบราณและพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์เมืองคิสึกิในจังหวัดโออิตะ อีกทั้งบ่อน้ำพุร้อนในเบบปุและยุฟุอิน อีกหนึ่งสถานที่เราก็ขอแนะนำศาลเจ้าอุสะ ศาลเจ้าเก่าแก่ที่สร้างมานานกว่า 1,000 ปีและยังเป็นแม่แบบของศาลเจ้าฮะชิแมนกว่า 40,000 แห่งในญี่ปุ่น เดินทางโดยรถไฟมาลงที่สถานีอุสะ แล้วต่อรถบัสลงที่ป้ายอุสะ ฮะชิแมน แล้วเดินต่ออีกเล็กน้อยจะถึงศาลเจ้าอุสะ ภายในศาลเจ้ามีอาณาเขตกว้างขวาง และประกอบด้วยสิ่งก่อสร้างที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ เช่น

• “สะพานคุเรบาชิ” หรือสะพานเทพเจ้า
• “ต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์” เชื่อกันว่ากอดต้นไม้นี้แล้วจะได้รับพลังความสำเร็จ จึงมีบุคคลชื่อดังมากมายมาขอพรเพื่อให้ประสบความสำเร็จและได้รับความนิยม

มิยาซากิ ศาลเจ้าอุโดะจิงกุ จังหวัดมิยาซากิในภูมิภาคคิวชู

เดินทางโดยรถบัสลงป้ายอุโดะจิงกุ แล้วเดินต่อมาที่ศาลเจ้า ทางเดินสู่ถนนขึ้นมาบนศาลเจ้าจะเลียบกับภูเขา ระหว่างทางเดินขึ้นมาจะเห็นทั้งท้องฟ้า เดินต่อมาเรื่อยๆ จะเห็นประตูศาลเจ้า ซึ่งศาลเจ้าแห่งนี้สร้างขึ้นมา 300 กว่าปีเพื่ออุทิศให้บิดาของจักรพรรดิองค์แรกของญี่ปุ่น เอกลักษณ์ของศาลเจ้าแห่งนี้คือศาลเจ้าตั้งอยู่ในถ้ำ เล่ากันว่าศาลเจ้าแห่งนี้เป็นสถานที่ที่เทพีโทโยทามาฮิเมะกำเนิดบุตรชาย จึงมีความเชื่อว่าศาลให้โชคเรื่องคู่ครองและคลอดบุตร ด้านนอกมีป้ายขอพรความรักรูปกระต่ายสีชมพูน่ารักให้เขียนขอพรได้ด้วย นอกจากนี้ยังมีการลองทำนายคล้ายกับการยกช้างของไทย หากยกช้างขึ้นคำขอจะเป็นจริง เช่นกันกับการโยนลูกบอลอุงทามะนาเกะ หากโยนลูกบอลนี้ลงหลุมบนหลังหินรูปเต่าตรงหน้าผาคำขอจะสำเร็จ ชายให้โยนด้วยมือซ้ายและหญิงโยนด้วยมือขวา

คาโกชิมา ในภูมิภาคคิวชู

จังหวัดคาโกชิมาก็เป็นอีกเมืองที่มีแหล่งท่องเที่ยวและศาลเจ้าหลายแห่งให้สักการะ เช่น ภูเขาไฟซากุระจิมะ สวนไดโนเสาร์ซากุระจิมะ พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำคาโกชิมา และที่พลาดไม่ได้เลยสำหรับสายแสวงบุญ ศาลเจ้าชินโตเก่าแก่ 100 กว่าปีมาแล้วอย่างศาลเจ้าเทรุคุนิ สมเด็จพระจักรพรรดิมอบบรรดาศักดิ์ให้ไดเมียวชิมาซุ นาริอากิระ ที่เคร่งครัดในศาสนาว่าเป็น “เทรุคุนิ ไดเมียวจิน” ไดเมียวผู้นี้เป็นผู้ปกครองแคว้นซัตสึมะ ปัจจุบันเป็นเป็นพื้นที่ในจังหวัดคาโกชิมา จึงได้สร้างวัดแห่งนี้ขึ้นมา ซึ่งได้รับการบูรณะมาเรื่อยๆ จนถึงปัจจุบัน ภายในศาลเจ้ามีพิพิธภัณฑ์อยู่ด้านในที่แสดงประวัติความเป็นมาของตระกูลชิมาซุ วัสดุ และขนบธรรมเนียมประเพณีพื้นบ้านของญี่ปุ่น เดินทางโดยนั่งรถไฟมาลงที่สถานีคาโกชิมา โช แล้วเดินหรือต่อรถบัสมาลงที่ป้ายเทนมนคัง ในฤดูร้อน ช่วงเดือนกรกฎาคมของทุกปี มีการจัดงานเทศกาลโรคุกัตสึโด (เทศกาลโคมไฟ) ด้วยการประดับโคมไฟสีสันสวยงามบริเวณศาลเจ้าและถนนโดยรอบอย่างยิ่งใหญ่

หากมีโอกาสมาเที่ยวภูมิภาคคิวชูทั้ง 7 จังหวัด หรือแค่บางจังหวัดบางเมืองก็อย่าลืมแวะมาไหว้พระขอพรเพื่อความเป็นสิริมงคลกันได้นะ ใครขอพรอะไรแล้วเป็นจริงบ้างก็อย่าลืมมาบอกด้วย แอดจะได้ตามไปไหว้บ้างนะ

สามารถติดตามบทความเพิ่มเติมได้ ที่นี่..