ฤดูของญี่ปุ่นแบ่งเป็น 4 ฤดูเหมือนประเทศฝั่งยุโรป ได้แก่ ฤดูใบไม้ผลิ ฤดูร้อน ฤดูใบไม้ร่วง ฤดูหนาว
ช่วงฤดูใบไม้ผลิ เดือนมีนาคมถึงเดือนพฤษภาคม
ฤดูของญี่ปุ่นฤดูนี้เรียกว่าเป็นฤดูแห่งการเริ่มต้นชีวิตใหม่ของคนญี่ปุ่น ใบไม้ที่ร่วงหล่นจากต้นในช่วงฤดูหนาวเริ่มผลิดอกออกใบ ช่วงปลายเดือนมีนาคมถึงต้นเดือนเมษายน จะได้เห็นดอกซากุระบานสะพรั่ง หากชอบซากุระต้องมาเที่ยวญี่ปุ่นช่วงฤดูใบไม้ผลินี่แหละ บรรยากาศน่าเที่ยว อากาศก็กำลังเย็นสบาย อุณหภูมิอยู่ที่ประมาณ 13-16 องศาเซลเซียส ฤดูของญี่ปุ่นฤดูนี้ในกลางวันและกลางคืนมีอุณหภูมิต่างกันประมาณ 10-20 องศาเซลเซียส ดังนั้นควรใส่เสื้อผ้าที่ปกคลุมร่างกายทั้งหมด อาจจะใส่เสื้อยืดด้านในแล้วคลุมด้วยเสื้อแจ็กเกตหรือเสื้อคาร์ดิแกน ท่อนล่างควรเป็นกางเกงขายาว อาจจะเป็นกระโปรงและใส่เลกกิ้งหรือถุงเท้ายาวด้านในเพื่อเพิ่มความอบอุ่น นอกจากนี้ควรมีผ้าพันคอ ผ้าคลุมไหล่ หรือแจ็กเกตที่มีหมวกคลุมศีรษะสำหรับคนขี้หนาวสักหน่อย รองเท้าควรจะเป็นรองเท้าบูทหุ้มส้น จะเห็นว่าฤดูนี้ก็เป็นอีกฤดูหนึ่งที่ใส่เสื้อผ้าสวยทีเดียว เพราะเป็นฤดูที่บรรยากาศมีชีวิตชีวา ต้นไม้หลายชนิดผลิดอกออกใบ มีความสดใส สีสันสวยงาม ยิ่งเสื้อผ้าสวยก็ยิ่งถ่ายรูปสวยไปอีก อาจเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันคือมีฝนตกเล็กน้อย ป้องกันไว้ก่อนโดยพกร่มไปด้วย ฝนไม่ตกก็ยังมีพร็อบเก๋ๆ ไว้ถ่ายรูปนะ
ช่วงฤดูร้อน เดือนมิถุนายนถึงเดือนสิงหาคม
อากาศอุ่นขึ้นหลังจากผ่านฤดูใบไม้ผลิ บางช่วงก็ร้อนจนอบอ้าว บวกกับมีฝนตก ทว่าต้นไม้ก็เขียวชอุ่มเมื่อได้สัมผัสน้ำฝน หากมาเที่ยวญี่ปุ่นช่วงนี้ต้องระวังกับอากาศแปรปรวนที่อาจมีฝนตกในบางวันและร้อนอบอ้าวสลับกัน ข้อดีในฤดูของญี่ปุ่นฤดูนี้คือตั๋วเครื่องบินราคาถูก หาที่พักง่าย ของราคาถูก ห้างสรรพสินค้ามักจัดโปรโมชันลดราคากันยกใหญ่ในช่วงฤดูนี้ มีเทศกาลดูดอกไม้หลายเมือง หากใครจะไปชมต้องเลือกโซนที่นั่งดีๆ นะ บางโซนก็มองเห็นแหละ แต่ถ่ายรูปออกมาไม่ค่อยสวยเท่าไหร่ อุณหภูมิในฤดูนี้อยู่ที่ประมาณ 25-35 องศาเซลเซียส ซึ่งอุณหภูมิใกล้เคียงกับเมืองไทย แนะนำให้ใส่เสื้อยืด กางเกงขาสั้น ควรใส่ผ้าที่โปร่งสบาย เพื่อให้มีการระบายอากาศที่ดี อาจมีเสื้อคลุมบางๆ เวลาออกแดดจะได้ไม่ร้อนมากและเข้าแอร์จะได้ไม่หนาวมาก รองเท้าจะเป็นรองเท้าแตะก็ได้ ผ้าใบก็ดูทะมัดทะแมง เหมาะกับเดินท่องเที่ยวเยอะๆ ช่วงกลางวันควรพกหมวกและแว่นกันแดดไปด้วย เนื่องจากฤดูของญี่ปุ่นฤดูนี้จะมีอากาศร้อนแห้ง ไม่ได้ร้อนชื้นแบบบ้านเรา ควรพกน้ำดื่มติดตัวอยู่เสมอ ส่วนใครที่ขี้ร้อน ร้อนง่าย ซื้อแป้งเย็นจากไทยหรือพกผ้าเย็นไปด้วย นอกจากนี้อาจเจอเหตุการณ์ไม่คาดฝันคือฝนตก เพราะเป็นฤดูที่อากาศแปรปรวน จะพกร่มมาด้วยหรือมาซื้อที่ญี่ปุ่นก็ได้ เพราะอยู่ในช่วงของลดราคา ร่มก็ลดราคาไปด้วย ลายน่ารักทั้งนั้นเลย
ช่วงฤดูใบไม้ร่วง เดือนกันยายนถึงเดือนพฤศจิกายน
ช่วงเดือนกันยายนมีความเสี่ยงที่จะเจอพายุ แต่เมื่อเข้าสู่เดือนตุลาคม อากาศจะเริ่มเย็นขึ้น ฤดูของญี่ปุ่นฤดูนี้อาจจะมีฝนตกเล็กน้อย ใบไม้เริ่มเปลี่ยนสีจากสีเขียวเป็นสีเหลืองส้มและสีแดง โดยเฉพาะช่วงปลายเดือนพฤศจิกายนถือเป็นอีกช่วงหนึ่งที่นักท่องเที่ยวนิยมมาท่องเที่ยวในประเทศญี่ปุ่นจำนวนมาก อุณหภูมิอยู่ที่ประมาณ 14-18 องศาเซลเซียส จากฤดูของญี่ปุ่นฤดูนี้เป็นช่วงที่ใกล้จะเข้าสู่ฤดูหนาวในฤดูถัดไป ทำให้อากาศเย็นถึงอากาศหนาวแนะนำให้ใส่เสื้อคลุมหนาหน่อย เช่น เสื้อโค้ต เสื้อสเวตเตอร์ เสื้อไหมพรม แนะนำให้ใส่กางเกงขายาว หากหนาวมากอาจจะสวมทับแลกกิ้งหรือถุงน่องกันหนาวไปเลย รองเท้าควรเป็นรองเท้าบูทหรือรองเท้าหุ้มส้น เพิ่มสีสันด้วยหมวกไหมพรม ผ้าพันคอสีสันสวยงาม ให้ชุดดูมีชีวิตชีวามากขึ้น นอกจากนี้ควรใส่เสื้อผ้าสีเข้ม เพื่อตัดกับสีของใบไม้สีแดงเหลืองสดใส อาจมีชิ้นส่วนเล็กๆ ที่มีสีสันบ้างเล็กน้อย เพื่อให้ภาพที่ถ่ายออกมาดูสมบูรณ์มากขึ้น อย่าลืมพกร่มด้วยเผื่อเจอฝนตกระหว่างทาง
ช่วงฤดูหนาว เดือนธันวาคมถึงเดือนกุมภาพันธ์
ฤดูของญี่ปุ่นฤดูนี้เป็นฤดูแห่งการเฉลิมฉลองต้อนรับศักราชใหม่ ตามสถานที่ต่างๆ จะประดับไฟสวยงาม หากมาเที่ยวญี่ปุ่นช่วงเดือนมกราคมถึงเดือนกุมภาพันธ์มีโอกาสได้เจอหิมะ พื้นที่ปกคลุมด้วยสีขาวโพลน กลางวันจะสั้นกว่ากลางคืน สถานที่ส่วนใหญ่จึงปิดเร็วกว่าปกติ อุณหภูมิอยู่ที่ประมาณ 0-10 องศาเซลเซียสตลอดทั้งวัน บางครั้งอาจติดลบแปลว่าหนาวมากจริงๆ ฤดูของญี่ปุ่นฤดูนี้จัดเต็มได้เลย ทั้งเสื้อโค้ตขนเฟอร์ทำจากผ้าหนาที่ให้ความอบอุ่นได้เป็นอย่างดี เสื้อผ้าฮีทเทคที่ให้ความอบอุ่นแบบไม่อึดอัดเกินไป กางเกงผ้าหนา เลกกิ้งบุขนให้ความอบอุ่นจากภายใน รองเท้าบูทยาวเพื่อให้ความอบอุ่นและลุยหิมะ นอกนั้นยังมีสิ่งที่จำเป็นอย่างอื่น เช่น ถุงมือ ถุงเท้า ผ้าพันคอ ที่ปิดหู หากใครจะขนเสื้อผ้าเหล่านี้ไปด้วยก็เพิ่มน้ำหนักรอตั้งแต่ซื้อตั๋วได้เลย เพราะน้ำหนักเสื้อผ้าคงจะเยอะระดับหนึ่ง อาจจะขนไปไม่เท่าไหร่ แล้วไปซื้อที่ญี่ปุ่นเพิ่มก็ได้ จะได้แฟชั่นที่กลมกลืนเข้ากับคนญี่ปุ่นในฤดูนั้นอีกด้วย สัมภาระก็อย่าเยอะจนเกินไป ลำพังแบกตัวเองและเสื้อผ้าก็หนักพออยู่แล้ว ควรพกสิ่งของจำเป็น ใส่ในกระเป๋าที่กะทัดรัดดีกว่า สามารถติดตามบทความเพิ่มเติมได้ ที่นี่..