ในสภาวะอากาศปัจจุบันที่มีแสงแดดร้อนจัด สำหรับคนที่มีรถยนต์ก็คงอยากจะให้รถที่รักได้จอดภายใต้ร่มเงาของต้นไม้ เพื่อไม่ให้รถตากแดดตลอดทั้งวันทำให้สีรถซีด แต่กลับกลายเป็นตลกร้ายในเมื่อต้นไม้มิได้เป็นได้แค่ร่มเงาให้รถ แต่เป็นที่อยู่อาศัยของนกนานาชนิดที่ใช้เป็นแหล่งพักพิงและนำมาซึ่งปัญหาของคนรักรถเป็นจำนวนมากนั่นคือปัญหา ขี้นก ที่ตกลงมาใส่หลังคารถเป็นประจำทำให้เจ้าของรถเกิดความหงุดหงิด ยิ่งในกรณีที่เจ้าของรถเพิ่งล้างรถมาใหม่ ๆ แล้วต้องมาเจอนกขี้ใส่คงจะรำคาญใจไปไม่น้อยและหากปล่อยผ่านโดยที่ไม่รีบล้างออกก็จะเกิดคราบแห้งสกปรกทำให้ล้างยากลำบาก อาจถึงขั้นเป็นคราบฝั่งแน่นจนล้างไม่ออกเลยก็มี ที่สำคัญหากเพียงแค่ล้างอย่างเดียวจะไม่สามารถกำจัดคราบที่ฝั่งแน่นได้ก็จะก่อให้เกิดการกัดกร่อนของสีรถจนทำให้มีรอยด่าง ยิ่งเป็นปัญหาร้ายแรงต่อสีรถได้ ฉะนั้นถ้านกขี้ใส่รถอย่าชะล่าใจรอให้มันแห้งก่อนค่อยล้าง เพราะจากปัญหาเล็ก ๆ จะกลายเป็นปัญหาใหญ่ขึ้นมาได้
ขจัดคราบสกปรกโดยไม่ทำร้ายสีรถ
สิ่งที่คำนึงถึงเรื่องการทำความสะอาดคราบ ขี้นก คือความรวดเร็วในการล้างทำความสะอาดเมื่อเจอใหม่ ๆ อย่าปล่อยให้แห้งเป็นคราบเกาะฝั่งแน่น
- ทำความสะอาดคราบที่ยังเปียกอยู่ การขจัดคราบที่ยังเปียกและไม่แห้งมาก ไม่น่าทำให้ลำบากใจแค่มีน้ำสะอาด ๆ สัก 1 ขันแล้วราดลงไปเล็กน้อยพร้อมเอากระดาษชำระเช็ดออกให้หมด จากนั้นก็ใช้น้ำราดซ้ำให้เศษสกปกรกออกให้หมด เพียงเท่านี้ก็สามารถกำจัดคราบที่สกปรกออกไปได้แล้ว เมื่อถึงเวลาล้างรถครั้งต่อไปควรจพลง WAX ด้วย เพื่อขัดคราบสกปรกพร้อมเคลือบสีรถไปในตัว
- ทำความสะอาดคราบที่แห้งแล้ว เมื่อมารู้ภายหลังว่ามีคราบสกปรกอยู่บนตัวรถและเป็นคราบแห้งไปแล้ว ให้รีบทำการล้างรถหรือบริเวณที่เป็นคราบแห้ง โดยใช้น้ำยาล้างรถแล้วใช้ฟองน้ำค่อย ๆ ถูวนเป็นก้อนหอยเบา ๆ จากนั้นจึงล้างน้ำให้สะอาด ข้อควรระวัง! ห้ามใช้เล็บหรือของแข็งขูดออกเพราะจะทำให้รถเป็นรอย เมื่อล้างสะอาดดีแล้วเช็ดรถให้แห้งใช้ดินน้ำมันสำหรับรถขัดถูเพื่อทำความสะอาดคราบให้หมดจด หลังจากนั้นค่อยลง WAX สำหรับขัดเคลือบสีรถในบริเวณที่เป็นคราบ อาจลงซ้ำ 2 รอบเพื่อความมั่นใจว่ารถจะไม่เป็นรอยคราบสิ่งสกปรก
วิธีป้องกันในเบื้องต้น
เมื่อรู้วิธีการแก้ไขแล้วต่อไปก็จะมาดูวิธีการป้องกันนกขี้ใส่รถ แม้ว่าจะไม่สามารถแก้ไขได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ก็ตามที แต่ก็ยังดีกว่าไม่ได้ป้องกันอะไรเลย แล้วปล่อยให้รถที่รักต้องผจญกับปัญหาคราบสกปรกจนเกินกว่าจะแก้ไขได้
- ไม่จอดรถใต้ต้นไม้ เพราะนอกจากจะเป็นการป้องกันนกขี้ใส่ในลำดับต้น ๆ แล้วยังสามารถป้องกันเศษใบไม้ ยางของต้นไม้หรือกิ่งไม้ขนาดใหญ่ตกใส่รถได้อีกด้วย ไม่เพียงแต่นกขี้ใส่รถเท่านั้นที่มีอันตรายแต่เป็นกิ่งไม้ใหญ่ ๆ หัก ตกใส่ในกรณีที่มีพายุฝน เพราะจะทำให้รถบุบหรือกระจกแตกได้
- ใช้ผ้าคลุมรถ เมื่อมีความจำเป็นจริง ๆ ที่ต้องจอดรถใต้ต้นไม้ ก็ให้เตรียมผ้าคลุมรถไปด้วยเมื่อต้องจอดใต้ต้นไม้ ก็ให้นำผ้าคลุมมาคลุมรถไว้ เพื่อป้องกัน ขี้นก ตกใส่และยางของต้นไม้ได้อีกด้วย แม้จะต้องเหนื่อยกับการซักผ้าคลุมแต่ก็ดีกว่ารถเป็นรอยมากกว่า เผลอ ๆ ล้างไม่ออกด้วย
- หมั่นล้างรถอยู่บ่อยๆ และหากเป็นไปได้พยายามเคลือบสีรถทุกครั้งที่มีการล้างรถ แต่ถ้าให้ดีพยายามขัดสีรถให้ได้อย่างน้อย 2-3 เดือน/ครั้ง เพื่อที่จะได้ช่วยขจัดคราบไคลบนผิวรถก่อนลง WAX ซ้ำช่วยในเรื่องของการเคลือบสีรถ ให้ดูดีและสวยงามอยู่เสมอ
- พกขวดน้ำ กระดาษชำระ ผ้าเช็ดรถ เมื่อถึงที่สุดแล้วบางเวลาก็คงไม่สะดวกลงมากางผ้าคลุมรถในเวลาที่เร่งรีบได้ หากบางทีต้องไปธุระตามสถานที่ราชการหรือห้างสรรพสินค้าที่มีลานจอดรถกลางแจ้งที่เจ้าของรถจะต้องลงไปกางผ้าคลุมรถให้เสียเวลา คงต้องเป็นขวดน้ำขนาด 1.5 ลิตรและกระดาษชำระหรือผ้าเช็ดรถ เมื่อเจอเหตุการณ์นกขี้ใส่รถ ก็ใช้น้ำที่พกมาล้างแล้วกระดาษชำระเช็ดซ้ำให้สิ่งสกปรกออกจากตัวรถ เป็นทางที่ดีกว่าปล่อยให้มันแห้งเพื่อกลับมาล้างที่บ้านก็จะยิ่งทำให้ล้างได้ยากกว่าเดิม
เพียงแค่นี้ก็สามารถที่จะขจัดคราบ ขี้นก ที่ไม่พึงปรารถนาออกจากตัวรถที่ท่านรักได้แล้ว ไม่เพียงแต่คราบสกปรกที่เกิดจากนกเท่านั้นที่คนรักรถจะต้องคอยดูแล ยังมีคราบสิ่งสกปรกอื่น ๆ อีกที่ทำให้เจ้าของรถต้องพยายามดูแลเอาใส่ให้มากที่สุดเช่น คราบแมลงบริเวณกระจกและกันชนด้านหน้า สาเหตุเกิดจากการขับรถในเวลากลางคืนที่มักจะมีแมลงออกมาเล่นไฟตามท้องถนน จึงทำให้รถชนแมลงตายเป็นมักเป็นคราบติดที่กันชนด้านหน้าและกระจกรถ บางทีอาจจะล้างไม่ออกง่าย ๆ เหมือนขี้นก แม้แต่คราบยางมะตอยที่เจ้าของรถไม่มีทางรู้เลย เมื่อตอนเดินทางไปยังถนนที่กำลังซ่อมโดยใช้ยางมะตอย โดยเฉพาะยางมะตอยหากปล่อยทิ้งไว้นานจะเกาะติดแน่นกับตัวรถจนล้างไม่ออกเลยทีเดียว ยิ่งกับรถสีขาวสวย ๆ แล้วล่ะก็ยิ่งต้องดูแลและทำความสะอาดมากเป็นพิเศษ “รถใคร ใครก็รัก”
