ประกันชั้น 3 รู้ไว้มีประโยชน์ สำหรับรถใช้งานน้อย

หากจะกล่าวถึงประกันภัยรถยนต์ที่ดูคุ้มค่ากับรถที่มีอายุการใช้งานมากกว่า 8 ปีขึ้นไปแล้วล่ะก็ ประกันชั้น3 ดูจะเหมาะสมมากที่สุด ด้วยการใช้รถที่น้อยลงการลดค่าใช้จ่ายในการดูแลรักษาก็จะลดน้อยลงไปด้วย สำหรับคนที่ใช้รถน้อยโดยเฉพาะรถเก่าที่มีอายุ 8 ปีขึ้นไปแล้วน่าจะดีที่สุด ด้วยการใช้งานที่น้อยลงและไม่มีความเสี่ยงมาก เช่น รถที่ใช้ในต่างอำเภอ ห่างไกลเขตเมืองหรือรถที่ใช้เข้าไร่เข้านา เป็นต้น เพราะด้วยที่อยู่ห่างไกลทำให้การเฉี่ยวชนกับรถคันอื่น ๆ ก็น้อยลง จึงทำให้ไม่ต้องกังวลที่จะต้องซ่อมรถของตนเองสักเท่าไร แล้วราคา ประกันชั้น 3 ก็ถูกกว่าเป็นไหน ๆ

ความคุ้มครองมีอะไรบ้าง

หากจะกล่าวถึงความคุ้มครองที่ได้รับแล้วล่ะก็ อาจจะไม่ถูกใจหลายคนนักสักเท่าไร แต่อย่างที่กล่าวข้างต้นว่า ประกันชั้น 3 เหมาะสำหรับรถที่ใช้น้อยหรือนาน ๆ ครั้ง ที่มีอายุ 8 ปีขึ้นไปและใช้งานในต่างอำเภอที่ห่างไกลตัวเมืองเหตุเพราะประกันภัยชั้น 3 นี้จะคุ้มครองเฉพาะรถยนต์และทรัพย์สินของบุคคลภายนอก คู่กรณีหรือบุคคลที่สามเท่านั้น รถของผู้มีประกันภัยชั้น 3 จะไม่ได้รับความคุ้มครองเมื่อเกิดอุบัติเหตุขึ้นมาหรือพูดง่าย ๆ คือ ซ่อมเอง รักษาตัวเองทุกกรณี ซึ่งประกันชนิดนี้จึงเหมาะกับรถรุ่นเก่าที่นาน ๆ ใช้ทีหรือใช้ในการเข้าไร่เข้านา เพื่อที่จะไม่ไปเจอกับรถคู่กรณีดีที่สุด ยกเว้น หากเกิดการเสียชีวิตขึ้นนั้นทางประกันภัยรถชั้น 3 นี้จะยังจ่ายค่าสินไหมให้ทั้งฝ่ายคู่กรณีและฝ่ายผู้เอาประกัน

แล้วมีอะไรบ้างที่ ประกันชั้น 3 ไม่คุ้มครอง

อันดับแรกเลยที่รู้กันคือ ตัวรถที่ทำประกันชนิดนี้เลย จากข้อมูลเบื้องต้นคือคุ้มครองเฉพาะรถคู่กรณีเท่านั้น ส่วนรถผู้เอาประกันต้องซ่อมเองนะจ๊ะ ส่วนภัยธรรมชาติต่าง ๆ ทั้งน้ำท่วม แผ่นดินไหว พายุลมแรงต้นไม้หักโค่นล้มใส่ จนถึงเหตุการณ์ความไม่สงบ ก่อการร้าย ประกันภัยรถยนต์ชั้น 3 จะไม่คุ้มครองในส่วนนี้ เพราะฉะนั้นแล้วเมื่อเกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดให้ผู้เอาประกันรับผิดชอบต่อความเสียหายส่วนนี้เองทั้งหมด

นอกจากภัยธรรมชาติที่กล่าวมาแล้วนั้น กรณีที่ขับรถไปเฉี่ยวชนต้นไม้ รั้วบ้าน เสาปูนหรือแม้แต่หินกระเด็นใส่กระจกรถก็ไม่สามารถที่จะเคลมประกันได้ทุกกรณี เจ้าของรถจะต้องซ่อมแซมในส่วนนี้เองทั้งหมด

ประกันชนิดนี้เหมาะกับใคร

เมื่อทุกท่านได้ทราบถึงข้อมูลของ ประกันชั้น 3 แล้ว ก็คงต้องมาดูว่าเหมาะกับตนเองหรือไม่ เพราะอย่างที่บอกไว้ว่ารถที่จะทำประกันภัยรถยนต์ชั้น 3 นี้

• เหมาะกับคนที่ใช้รถน้อย ซึ่งก็มาดูความถี่ของการใช้งานว่ามีความถี่มากน้อยแค่ไหน เพราะหากต้องใช้รถทุกวันแล้วล่ะก็การเลือกประกันภัยรถชนิดนี้คงไม่เหมาะสมนัก เพราะเสี่ยงต่อการออกไปเฉี่ยวชนรถคันอื่น
• รถเก่าอายุมากกว่า 8 ปีขึ้น การทำประกันชนิดนี้ดูจะเหมาะสมกับรถเก่าที่มีอายุการใช้งานที่มากกว่า 8 ปีขึ้นไป เพราะรถอายุขนาดนี้การที่เกิดอุบัติเหตุแบบรุนแรงมาเวลาซ่อมจะไม่ค่อยคุ้มสักเท่าไร ยิ่งถ้าเป็นรถที่ไม่ใช้รถตลาดด้วยแล้ว อะไหล่จะหาได้ยากมากและแพงด้วย
• ใช้สำหรับขับไปไร่ เข้าสวนเข้านา ดูจะเหมาะสมมากที่สุด ซึ่งไม่ต้องมีความเสี่ยงที่จะต้องไปเฉี่ยวชนกับใครให้ปวดหัว อีกอย่างหากขับชนเองก็ไม่น่าจะเป็นอุบัติเหตุที่ร้ายแรงเท่าไรนัก อย่างมากก็น่าจะเฉี่ยวต้นไม้ ขอบทางที่ดูไม่รุนแรง แต่อย่าเผลอเมาแล้วไปขับรถชนต้นไม้ใหญ่เข้าให้ล่ะ รับรองไม่คุ้มแน่นอนเลยทีเดียว
• คนที่ต้องการจะประหยัดค่าใช้จ่ายแต่ยังใช้รถอยู่ ด้วยเบี้ยประกันที่ถูกมาก ด้วยราคาไม่ถึง 3,000 บาทด้วยซ้ำ คงถูกใจสำหรับคนที่อยากประหยัดค่าใช้จ่ายประจำปีในส่วนนี้ เพราะมัวแต่ทำประกันชั้น 1 อยู่ตลอดเวลา ค่าเบี้ยประกันก็จะแพงมาก หากรถเก่าจำนวนปีที่เยอะขึ้น ประกันชั้น 1บางแห่งอาจไม่รับทำด้วยซ้ำ

 

ถ้าหากเข้าใจเงื่อนไขของการประกันภัยรถยนต์ชั้น 3 แล้วก็สามารถเช็คสิทธิประโยชน์และราคาที่ถูกใจได้ ที่นี่ ลองตรวจสอบและเช็คบริษัทประกันที่ท่านสนใจได้เลย จะเปรียบเทียบราคาและทุนประกันก็สามารถทำได้ตลอด 24 ชม. เพื่อเลือก ประกันชั้น 3 ให้เหมาะสมกับรถและสภาพการใช้งานเป็นดีที่สุด เพราะทุกสิ่งอย่างที่ตัดสินใจลงไปนั้น ถือว่าท่านยอมรับในเงื่อนไขของกรมธรรม์นั้น ๆ แล้ว แต่ถ้าดูแล้วไม่คุ้มก็สามารถปรับเปลี่ยนเรื่องระดับของการทำประกันภัยใหม่ก็ได้ แต่สำหรับรถที่ใช้น้อยหรือนาน ๆ จะได้ขับสักทีหนึ่งถือว่าคุ้มค่าแน่นอน

ไม่ว่าจะรถเก่ารถใหม่ ใคร ๆ ก็รักรถด้วยกันทั้งนั้น หากแต่การเลือกประกันภัยให้เหมาะกับรถและการใช้งานยังจะดูคุ้มค่ามากที่สุด แล้วนำเงินที่เหลือไปค่อยซ่อมบำรุงรถให้สามารถใช้กับคุณไปนาน ๆ ดีกว่าที่จะต้องเสียเบี้ยประกันแพง ๆ แล้วไม่คุ้มค่าอะไรเลย เพราะรถเก่ามีค่าการบำรุงรักษาที่แพงมากกว่ารถใหม่หลายเท่าตัวนัก เนื่องจากใช้งานมานานการสึกหลอก็ย่อมตามมา ไม่ว่าจะเป็นสายพานไทม์มิ่ง ระบบเกียร์ ระบบครัชท์หรือแม้แต่ของเหลวต่าง ๆ ที่ต้องคอยเปลี่ยนตามระยะทางที่กำหนดในคู่มือรถ เพียงเท่านี้ท่านก็จะมีความสุขกับรถที่ท่านรักไปอีกนานแสนนาน