สำหรับใครที่กำลังวางแผนจะ เดินทางไปเวียดนาม เพื่อท่องเที่ยวพักคงจะไม่พลาดที่จะต้องแวะไปกับ 10 สถานที่ท่องเที่ยวที่ไม่เหมือนใครของประเทศเวียดนามกัน ซึ่งบอกได้เลยว่าแต่ละที่สวยงามไม่แพ้ที่เที่ยวของชาติอื่น ๆ แน่นอน อีกทั้งบางแห่งยังมีประวัติศาสตร์ที่ยาวนานให้น่าเรียนรู้กันอีกมา ซึ่งมีสถานที่ไหนได้ดูกันเลย
สุสานโฮจิมินห์
สุสานโฮจิมินห์แห่งนี้ตั้งอยู่ที่จัตุรัสบาดิงห์ เมืองฮานอย ภายในมีโลงแก้วที่บรรจุร่างของอดีตนายกรัฐมนตรีและประธานาธิบดี โฮจิมินห์ เอาไว้ภายใต้อนุสาวรีย์แห่งนี้ ซึ่งคนเวียนามโดยทั่วไปมักจะเรียกประธานาธิบดีโฮจิมินห์ว่า ลุงโฮ ส่วนโครงสร้างและรูปแบบการก่อสร้างทั้งหมดยึดรูปแบบตามสถาปัตยกรรมของอนุสาวรีย์ที่บรรจุศพของ วราดิมีร์ เลนิน ของรัสเซีย โดยสุสานแห่งนี้เปิดให้คนทั่วไปได้เข้าชมครั้งแรกเมื่อปี ค.ศ. 1975 ส่วนร่างของโฮจิมินห์เองนั้นก็จะต้องส่งไปตรวจสอบความสมบูรณ์ที่ประเทศรัสเซียอีกเช่นกัน
สำหรับนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางไปเยี่ยมชมก็ต้องแต่งกายให้สุภาพเพื่อให้เกียรติแก่สถานที่ด้วยนะ โดยเสื้อผ้าที่ห้ามใส่เข้าไปเลยเป็นอันขาดได้แก่ เสื้อแขนกุด กระโปรงสั้นเหนือเข่าและกางเกงขาสั้น ส่วนวันที่สามารถเข้าชมได้ อังคาร, พุธ, พฤหัสบดี, เสาร์และวันอาทิตย์ เปิดตั้งแต่เวลา 8.00-11.00 น.
อุโมงค์กู๋จี
เป็นสถานที่ที่ไม่มีใครเหมือนแน่นอน เพราะด้วยอุโมงค์แห่งนี้จึงทำให้สหรัฐอเมริกาในขณะนั้นไม่สามารถที่จะโจมตีหรือยึดประเทศเวียดนามจากสงครามเวียดนามได้ เนื่องจากอุโมงค์แห่งนี้มีอยู่ทุกแห่งหนและตัวอุโมงค์ก็สามารถเชื่อมหาถึงกันได้ ส่วนทางเข้าก็แสนจะคับแคบ ดังนั้นทหารอเมริกันในสมัยนั้นที่มีแต่ตัวใหญ่ ๆ จึงไม่สามารถที่จะเล็ดลอดเข้าไปภายในอุโมงค์ได้ ซึ่งภายในอุโมงค์มีทั้งโรงพยาบาล ห้องประชุม ห้องพัก ที่บอกได้เลยว่าสามารถอาศัยอยู่ได้เป็นปี ๆ เลยทีเดียว สำหรับใคร เดินทางไปเวียดนาม ก็คงไม่พลาดที่จะต้องแวะไปเยี่ยมชมความอัศจรรย์ของอุโมงค์กันเลยทีเดียว
ภูเขาทรายสองสีหมุยแหน
ใครหลายคนคงไม่คาดคิดว่าประเทศเวียดนามจะมีทะเลทรายด้วย แน่นอนมีทะเลทรายแต่หากเป็นทะเลทรายที่อยู่ติดกับชายทะเล วึ่งบรรยากาศเหมือนทะเลทรายจริง ๆ เป็นอย่างมาก ซึ่งภูเขาทรายแห่งนี้มีขนาดใหญ่และด้วยที่ติดกับชายทะเลจึงทำให้มีแสงแดดและลมที่แรงไม่ต่างจากทะเลทรายจริง ๆ เลยทีเดียว โดยภูเขาทรายแห่งนี้มีด้วยกันสองแห่งนั่นคือภูเขาทรายสีขาวและภูเขาทรายสีแดง จึงเป็นที่มาของภูเขาทรายสองสีนั่งเอง
อ่าวฮาลอง
สำหรับใครที่ชอบความเป็นธรรมชาติและคงความสมบูรณ์ทางธรรมชาติแห่งนี้ จนองค์การยูเนสโกยกย่องให้เป็นมรดกโลกเลยทีเดียว อ่าวฮาลองแห่งนี้อยู่ไกลจากเมืองหลวงฮานอยเพียง 170 กิโลเมตร เท่านั้นเอง จุดเด่นของอ่าวนี้คือ มีเกาะหินปูนโผล่ขึ้นกระจายไปทั่วทั้งอ่าว จนทำให้นักท่องเที่ยวที่ได้ไปชื่ชมต่างออกมายอมรับว่าบรรยากาศของอ่าวสวยงาม เหมือนฉากในหนังที่มีแสง สีที่ลงตัวสุด ๆ
เมืองเก่าฮอยอัน
เมืองเก่าฮอยอัน ถือเป็นเมืองขนาดเล็กที่นักท่องเที่ยว ที่ เดินทางไปเวียดนาม จะต้องไปแวะเพื่อสัมผัสถึงวิถีชีวิตอันดั้งเดิมของชาวเวียดนามโดยแท้จริง ณ เมืองฮอยอันแห่งนี้ยังมีพิพิธภัณฑ์ที่จัดแสดงประวัติศาสตร์ต่าง ๆ มากมาย รวมถึงอาคารบ้านเรือนต่าง ๆ ที่มีทั้งสถาปัตยกรรมตะวันตกและตัวออก เช่น บ้าน โคมไฟโบราณและสะพานข้ามคลองแบบญี่ปุ่น ซึ่งเมืองฮอยอันแห่งนี้ ยังได้รับขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกด้วยอีกนะจะบอกให้ ไม่ไปจะต้องเสียใจแน่นอน
ปราสาทหมีเซิน
ถือว่าเป็นปราสาทที่เก่าแก่แห่งหนึ่ง ตั้งอยู่จังหวัดกว๋างนาม ไปทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของเมืองดานัง ประมาณ 70 กิโลเมตร เนื่องด้วยปราสาทหมีเซินแห่งนี้เป็นสิ่งก่อสร้างที่หลงเหลือมาจากสมัยอาณาจักรจามปามในช่วงศตวรรษที่ 4-15 ซึ่งมีความเก่าแก่และสมบูรณ์ที่สุดในอินโดจีนแห่งนี้ รอบ ๆ ปราสาทปกคลุมไปด้วยป่าดงดิบและที่สำคัญได้รับขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกด้วย
พระราชวังเว้
เป็นพระราชวังของราชวงศ์เหงียน ที่ยังคงความสมบูรณ์ให้เห็นจนถึงปัจจุบัน วึ่งภายในประกอบไปด้วยสุสานกษัตริย์ พระราชวัง วัด เจดีย์ พิพิธภัณฑ์และห้องสมุด แต่ที่เห็นจะประทับใจนักท่องเที่ยวมากที่สุดก็คือประตูทางเข้าพระราชวัง ซึ่งเป็นทางเดินเข้าสำหรับกษัตริย์และเชื้อพระวงศ์เท่านั้น ตัวพระราชวังมีความสวยงามเป็นอย่างมากจนได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก
อุทยานแห่งชาติ Phong Nha-Ke Bang
อุทยานแห่งชาติ Phong Nha-Ke Bang มีความโดดเด่นในเรื่องของธรณีวิทยา เนื่องจากมีวิวัฒนาการมาจากยุคน้ำแข็งและได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกอีกด้วย เพราะเป็นภูเขาหินปูนที่เก่าแก่ที่สุดในเอเชีย จึงทำให้เป็นอุทยานที่มีความอุดมสมบูรณ์ของของธรรมชาติเป็นอย่างมาก ซึ่งสามารถที่จะพบเห็นสัตว์หลากหลายสายพันธุ์ เช่น เสือ ช้างและหมีดำ อีกทั้งภายในอุทยานก็มีถ้ำที่ใหญ่ที่สุดในโลก รวมถึงถ้ำน้อยใหญ่ อื่น ๆ อีกมากกว่า 300 แห่งด้วยกัน
พิพิธภัณฑ์สงคราม
เป็นพิพิธภัณฑ์ที่รำลึกถึงความเจ็บปวดในสมัยสงครามเวียดนามในครั้งนั้น เปิดให้เข้าชมครั้งแรกเมื่อปี ค.ศ. 1975 ภายในพิพิธภัณฑ์จัดแสดงอาวุธ รถถัง เฮลิคอปเตอร์ เครื่องบินจู่โจมต่าง ๆ ที่ใช้โจมตีเวียดนาม แต่เห็นที่กล่าวขานกันมากที่สุดคงหนีไม่พ้นกรงเสือ ที่นำมาใช้ขังนักโทษทางการเมืองถึง 14 คนในสมัยนั้น ถือเป็นสถานที่ที่สามารถเล่าเรื่องราวความเจ็บปวดของชาวเวียดนามได้เป็นอย่างดี
พระราชวังทังลอง
สำหรับใครที่ เดินทางไปเวียดนาม ไม่ต้องแปลกใจหากจะพบเจอแต่สถานที่สำคัญและเกือบทั้งหมดได้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทั้งนั้น สำหรับพระราชวังทังลองนี้ก็เช่นกัน ที่ได้ขึ้นทะเบียนมรดกโลกด้านวัฒนธรรม เพราะเป็นพระราชวังหินแห่งเดียวที่เหลืออยู่ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อีกทั้งยังมีประวัติศาสตร์ที่ยาวนานอีกด้วย พระรางวังแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1379 ซึ่งทำจากหินทั้งหมดจนเป็นที่น่าแปลกใจว่าเหตุใดจึงสามารถสร้างพระราชวังที่สวยสดงดงามได้ถึงเพียงนี้
จบกันไปแล้วกับ 10 สถานที่ ท่องเที่ยวในประเทศเวียดนามที่ได้คัดสรรกันมา ซึ่งแต่ละทีบอกได้เลยว่า เกือบทั้งหมดที่กล่าวมาได้รับการทะเบียนมรดกโลกทั้งนั้น หากใครที่ เดินทางไปเวียดนาม แล้วไม่ได้แวะชมกับ 10 สถานที่แห่งนี้บอกได้เลยว่าพลาดแน่นอน แต่สำหรับใครที่กำลังจะเดินทางไปเที่ยวแล้วก็อย่าลืมแวะชมแวะเที่ยวกับ 10 สถานที่ ที่กล่าวมาข้างต้นด้วยนะ ไม่อย่างนั้นแล้วจะถือว่าไปไม่ถึงเวียดนามโดยแท้จริง
สามารถติดตามบทความเพิ่มเติมได้ ที่นี่..