“ไอซ์แลนด์” ตั้งอยู่บนเกาะในมหาสมุทรแอตแลนติกเหนือซึ่งเป็นสถานที่คุ้มค่าแก่การมาเที่ยวชมและคุ้มค่าเงินที่สุดอันดับ 1 ของโลกทำให้มีนักนักท่องเที่ยวหลายคนปักหมุดว่าต้อง ไป ไอซ์แลนด์ สักครั้งในชีวิต
ด้วยเหตุนี้ เราจึงรวม 17 สถานที่ท่องเที่ยวน่าตื่นตาตื่นใจที่ต้องเเวะ เมื่อคุณคิดจะไปเที่ยวที่นี่ มีอะไรบ้าง มาดูกัน
บ่อน้ำพุร้อน บลูลากูน
เกิดขึ้นเองจากการเคลื่อนตัวของหินหลอมละลายใต้ดินทำให้น้ำในบ่อร้อนขึ้นและมีไอน้ำระเหยขึ้นมาซึ่งมีอุณหภูมิประมาณ 40 องศาเซลเซียส ประกอบด้วยแร่ธาตุซิลิคอน กำมะถัน ช่วยรักษาโรคผิวหนังและช่วยให้ผ่อนคลาย
น้ำพุร้อนแห่งนี้ตั้งอยู่ทางภาคตะวันตกเฉียงใต้ อยู่ห่างจากสนามบินนานาชาติ Keflavik ประมาณ 13 กิโลเมตรและห่างจากเมืองหลวงเรคยาวิกประมาณ 39 กิโลเมตร
ถ้ำน้ำแข็งคริสตัล
เกิดจากการก่อตัวของหิมะที่ทับถมกันเป็นเวลานานหลายพันปี จนเป็นภูเขาน้ำแข็งซึ่งมีลักษณะใสและเมื่อได้มีการตกกระทบของฟ้าสีครามทำให้มีความสวยงามราวกับอัญมณี
สำหรับคนที่ไม่กลัวความหนาว โดยเฉพาะในช่วงฤดูหนาวที่มีอุณหภูมิจะอยู่ที่ -25 ถึง -30 องศาเซลเซียส สามารถพบกับความมหัศจรรย์ทางธรรมชาติที่ถ้ำน้ำแข็งแห่งนี้ได้ที่เมืองสตัฟทาเฟฮ์ล
ธารน้ำแข็งโจกุลซาลอน
มีขนาดใหญ่ที่สุดในไอซ์แลนด์และมีความลึกเป็นอันดับที่สอง นอกจากนี้ที่นี่มีนกทะเลสีดำ นกสีขาวตระกูลนกนางนวลและสิงโตทะเลตัวอ้วนกลมมาเล่นน้ำ รวมถึงมีสภาพอากาศดี ท้องฟ้าปลอดโปร่งเหมาะกับการพักผ่อนและถ่ายรูปสวย ๆ อีกด้วย
ธารน้ำแข็งโจกุลซาลอนอยู่ทางทิศใต้ตรงปลายทางของธารน้ำแข็งพันปี วัทนาโจกุล อยู่ระหว่างอุทยานแห่งชาติสเกฟตาลเฟลล์กับเมืองฮอฟน์ ซึ่งสามารถเดินทางโดยรถยนต์ รถบัสและเครื่องบิน
น้ำตกสโคคาร์ฟอสส์
น้ำตกที่สูงที่สุด ประมาณ 60 เมตรและมีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 5 ของประเทศไอซ์แลนด์ นอกจากนี้ยังมีธรรมชาติที่มีความสวยทุกฤดู โดยเฉพาะความงดงามของสายน้ำที่ไหลลงมาจากหน้าผาและกลายเป็นน้ำแข็งขาวโพลน
น้ำตกสโคคาร์ฟอสส์ อยู่ที่หมู่บ้านสโคกา เดินทางง่าย ไม่หลงทางอย่างแน่นอนเพราะอยู่ริมถนนเส้น ring road ไม่ไกลจากเมืองหลวง
น้ำตกกุลล์ฟอสส์หรือน้ำตกทองคำไนล์แองการ่า
น้ำตกที่มีความมหัศจรรย์ทางธรรมชาติของโลกที่เกิดจากการละลายของธารน้ำแข็ง มีความสูงกว่า 30 เมตร ซึ่งมีความสวยงามอลังการอย่างมาก
น้ำตกกุลล์ฟอสส์อยู่ในเส้นทางวงกลมทองคำที่นักท่องเที่ยวทุกคนต้องมาเยือนหรือเดินทางมาชมความงดงามรวมถึงการสัมผัสถึงความเย็นสดชื่นของน้ำตกแห่งนี้ แบบพลาดไม่ได้จริง ๆ
น้ำตกเซลยาลันส์ฟอส
น้ำตกที่นี่มีความสูงประมาณ 60 เมตร และมีความสวยงามเกินบรรยาย โดยเฉพาะสายน้ำจากด้านบนไหลลงมาปะทะกับผืนน้ำด้านล่างทำให้เกิดละอองน้ำบาง ๆ ฟุ้งกระจายไปทั่ว นอกจากนี้ด้านหลังของน้ำตกสามารถเดินลัดเลาะเพื่อชมวิวและถ่ายภาพเก็บความประทับใจได้
น้ำตกแห่งนี้ตั้งอยู่ระหว่างเมืองเซลฟอสกับเมืองสโคคาร์ฟอสส์ซึ่งนักท่องเที่ยวทุกคนสามารถเดินทางสัมผัสด้วยตัวเองสักครั้งหนึ่งในชีวิต
ทุ่งน้ำแข็งเมียร์ดาล
ดินแดนที่มีความกว้างใหญ่เป็นอันดับ 4 มีพื้นที่ทั้งหมดกว่า 596 ตารางกิโลเมตร ประกอบด้วยถ้ำน้ำแข็งอยู่มากมายซึ่งแต่ละถ้ำนั้นจะมีน้ำแข็งไหลย้อยลงมา นอกจากนี้พื้นที่ทั่วทุ่งน้ำแข็งมีแต่สีขาวโพลนไปด้วยหิมะกับสีฟ้าของท้องฟ้าเท่านั้น
นักท่องเที่ยวทุกคนสามารถชมความสวยงามพร้อมเก็บประสบการณ์การท่องเที่ยวของที่นี่ได้อย่างเต็มที่ด้วยการขับสโนว์โมบิล
ธารน้ำแข็งที่อุทยานแห่งชาติวัทนาโจกุล
อุทยานแห่งนี้ ประกอบด้วย ทุ่งหิมะที่ถูกล้อมด้วยธารน้ำแข็งทั้งหมดและยอดเขา Hvannadalshnúkur ที่สูงที่สุดในประเทศในไอซ์แลนด์
สำหรับนักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวที่นี่สบายใจได้ จะมีเจ้าหน้าที่ประจำอุทยานคอยดูแลหรือให้คำแนะนำ ต่าง ๆ และคอยลาดตระเวนพร้อมไกด์พาเดินเที่ยวชมอุทยานเพื่อความปลอดภัย
หาดทรายดำ
เกิดจากการสึกกร่อนของหินลาวาและหินบะซอลต์ที่ถูกพัดพาไปสะสมตัวทำให้บริเวณชายหาดเต็มไป ด้วยกรวดสีดำสนิทซึ่งมีความสวยงามและแปลกตามาก
ชายหาดแห่งนี้อยู่ในหมู่บ้านเล็ก ๆ ทางใต้ของไอซ์แลนด์เหมาะกับนักท่องเที่ยวที่ต้องการเดินเล่นชิล ๆ เพื่อชมความงามที่ธรรมชาติสร้างขึ้น
น้ำพุร้อนกีเซอร์
เกิดจากการที่ใต้ผิวโลกมีโพรงที่กักเก็บน้ำติดต่อกัน เมื่อน้ำได้รับความร้อนในระดับลึก ๆ ทำให้มี อุณหภูมิสูงขึ้นกว่า 100 องศาเซลเซียส จึงเปลี่ยนสภาพเป็นไอน้ำแล้วดันน้ำที่ขังอยู่จนไหลพุ่งขึ้นมา
น้ำพุร้อนแห่งนี้ ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของประเทศไอซ์แลนด์ นับว่าเป็นอีกหนึ่งสถานที่สร้างความตื่นเต้น ในการลุ้นระทึกว่าน้ำจะพุ่งขึ้นมาตอนไหน เพราะฉะนั้นใครมีโอกาส ไป ไอซ์แลนด์ ควรมาชมความงามสักครั้ง
โบสถ์ฮอลล์กริมสเคิร์กยา
โบสถ์คริสต์ที่สูงที่สุดในไอซ์แลนด์ซึ่งเป็นศาสนสถานที่สำคัญและด้านบนยังเป็นจุดชมวิวทัศนียภาพที่สวยงามอีกด้วย
ที่นี่เปิดให้นักท่องเที่ยวได้ชมทุกวันตั้งแต่เวลา 9 โมงเช้าถึง 5 โมงเย็น มีพิธีทางศาสนาในวันอาทิตย์และวันสำคัญต่าง ๆ
จุดชมวิวเพอร์ลัน
สำหรับสถานที่เที่ยวแห่งนี้มีเอกลักษณ์โดดเด่นและสามารถมองเห็นจากระยะไกลได้อย่างชัดเจนเนื่องจากมีพื้นที่กว้างขวาง ประมาณ 10,000 ตารางเมตร มีอาคารขนาดใหญ่ 5 ชั้น สูง 25.7 เมตร รูปทรงคล้ายลูกโลกครึ่งวง
จุดชมวิวเพอร์ลันตั้งอยู่บนเนินเขาสูงเปรียบเสมือนสัญลักษณ์ของเมืองเรคยาวิกเอาไว้ต้อนรับ นักท่องเที่ยว หากใครที่ได้ ไป ไอซ์แลนด์ ห้ามพลาดแวะมาที่นี่กัน
บ้านฮอฟดิ
บ้านเล็ก ๆ น่ารัก มีทัศนียภาพที่สวยงามแถมบรรยากาศดี ด้านหน้ามีรูปปั้นของ นักสำรวจเลฟ อีริคสัน ที่สหรัฐให้เป็นของกำนัล
บ้านฮอฟดิตั้งอยู่ใกล้กับริมน้ำและภูเขา มีถนนสายหลักเพียงเส้นเดียวทำให้การเดินทางสามารถขับรถเที่ยวเองได้ง่าย ๆ แต่ต้องใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษในการขับรถในช่วงฤดูหนาวเพราะอาจจะต้องเจอกับพายุหิมะ
ประติมากรรมรูปเรือไวกิ้ง
ความหมายเดิมของงานประติกรรมนี้ คือ “เรือแห่งความฝัน” เป็นความหมายที่ไพเราะ โดยมีช่างสลักชื่อว่า Jon Gunnar Arnason
งานศิลปะชิ้นนี้ตั้งอยู่ในกรุง Reykyavik ซึ่งนักท่องเที่ยงสามารถเดินดูรอบ ๆ เรื่อย ๆ ไปตามธารน้ำได้อย่างเพลิดเพลิน
ชมหิมะด้วยการนั่งรถ Super Jeep Tour
เมื่อมีการลุยด้วยการนั่งบนรถ Super Jeep ในระยะทางหลายกิโลเมตร จะได้สัมผัสบรรยากาศแบบขั้วโลกเพราะมีภูเขาน้ำแข็งและลำธาร พร้อมความสวยงามของหิมะโดยรอบอีกด้วย
ภูเขาไฟเอยาฟยาตลาเยอคุตล์
ภูเขาที่เคยมีการระเบิดครั้งสุดท้ายที่ทำให้เถ้าถ่านจากการระเบิดปกคลุมท้องฟ้ากว่า 20 ประเทศจนต้องประกาศปิดสายการบินพาณิชย์ ส่งผลกระทบต่อการเดินทางทางอากาศมากที่สุด
นอกจากจะได้ชมภูเขาไฟแล้ว ที่นี่ยังมีม้าแกลบ หนึ่งในสัตว์ประจำถิ่นของไอซ์แลนด์ให้ชมหรือถ่ายรูปกันรวมถึงมีสินค้า ประเภทกระเป๋าแปลก ๆ อย่างกระเป๋าหนังปลาแซลมอนให้ได้ซื้อเป็นของฝากอีกด้วย
อุทยานแห่งชาติซิงเควลลิร์
แหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมเนื่องจากมีทัศนียภาพของขุนเขาที่สวยงามมากและมีสถานที่ท่องเที่ยวย่อย ๆ อยู่ในพื้นที่อีกมากมาย เช่น น้ำพุร้อน Geysir น้ำตก Gullfoss นอกจากนี้ยังมีเมือง Skoholt ที่มีคุณค่าทางประวัติศาสตร์อีกด้วย
จากที่เราได้กล่าวข้างต้นเป็นเพียงส่วนหนึ่งของสถานที่ท่องเที่ยวของการ ไปไอซ์แลนด์ เท่านั้น หากคุณได้ลองไปสัมผัสดินแดนแห่งนี้สักครั้ง คุณจะหลงรักจนไม่อยากกลับบ้านเลยทีเดียว
สามารถติดตามบทความเพิ่มเติมได้ ที่นี่..